'สุรทิน' ชี้เก้าอี้ประธานต้องเป็นคนที่ทำให้ ส.ส.เรียกท่านประธานที่เคารพได้เต็มปาก!

'สุรทิน พิจารณ์' ให้กำลังใจ 'พิธา' หลังเคยโทรมาทาบทามร่วมรัฐบาล แต่ปฏิเสธเพราะเห็นว่าคะแนนเสียงมากพอแล้ว แนะคนเป็นประธานสภาต้องเป็นบุคคลที่ทำให้ ส.ส.เรียกว่าท่านประธานที่เคารพได้

21 มิ.ย.2566 - ที่​สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ ส.ส.เข้ารับหนังสือรับรองผลการเลือกตั้งเป็นวันที่สอง มี ส.ส.พรรคต่างๆ ทยอยเดินทางมารับหนังสือ เพื่อไปรายงานตัวที่รัฐสภา ตั้งแต่ช่วงเช้ามี ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมทั้งตัวแทนของนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตัวแทนนายนายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่ได้รับมอบหมายให้มารับเอกสารการรับรองแทน

ขระที่นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เดินทางเข้ามารับหนังสือรับรอง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พร้อให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางในการโหวตนายกรัฐมนตรีจะยึดเกณฑ์เสียงข้างมากหรือไม่ ว่าคณะกรรมการบริหารพรรคขณะนี้ยังไม่มีการหารือ เพราะเพิ่งมารายงานตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง ทั้งเรื่องการโหวตนายกฯ รวมไปถึงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคจะประชุมกันในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ที่จังหวัดระยอง

สำหรับตำแหน่งประธานสภา ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้แทนในการเลือกผู้ที่เหมาะสม ซึ่งความเหมาะสมของแต่ละคนมองไม่เหมือนกัน โดยส่วนตัวมองว่าไม่ใช่แค่เพียงท่องหนังสือมาแล้วจะเป็นประธานสภาได้ และเห็นว่าผู้ที่ผ่านการเลือกเข้ามาเป็น ส.ส.สามารถเป็นประธานสภาได้หมดทั้ง 500 คน ครั้งที่แล้วโหวตให้นายชวน เป็นประธานสภา เนื่องจากเป็นลูกเขยของเพื่อนนายชวน จึงเปรียบเสมือนเป็นญาติไปด้วย แต่ครั้งนี้อยากให้นายชวนที่เปรียบเหมือนเป็นพ่อได้พักผ่อน เพราะตำแหน่งประธานสภาถือเป็นงานที่หนัก และต้องทำหน้าที่เป็นประธานรัฐสภาด้วย ต้องนั่งทำหน้าที่อยู่ข้างบน ส.ส.โต้เถียงกันก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว และต้องนั่งทั้งวันเพื่อให้งานเสร็จ

“ประธานสภาไม่ใช่ตำแหน่งที่นั่งอยู่นิ่งๆ แต่ต้องควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังต้องคุม ส.ว.ด้วย ดังนั้นคนที่จะมาทำหน้าที่นี้ต้องอาวุโส มีความรู้ ทำให้ ส.ส.สามารถเรียกว่าท่านประธานที่เคารพได้ ไม่เช่นนั้นจะเรียกเป็นอย่างอื่น และตำแหน่งนี้ยังเป็นหน้าตาของคนไทยทั้งประเทศ เพราะเป็นหนึ่งในสามอำนาจของประเทศ”

นายสุรทินยังขอให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพระก้าวไกล ซึ่งนายพิธาเคยโทรมาทาบทามให้เข้าร่วมรัฐบาล แต่แจ้งไปว่าทางพรรคก้าวไกลรวบรวมคะแนนเสียงได้มากถึง 312 คะแนนแล้ว ส่วนประชาธิปไตยใหม่ได้ 1 ที่นั่ง ก็จะทำหน้าที่ในสภาอย่างดีที่สุด ซึ่งนอกจากนายพิธา ก็ยังมีนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ แกนนำก้าวไกลโทรมาหา และให้คำตอบแบบเดียวกัน