'ชลน่าน' มั่นใจเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรจบก่อน 3 ก.ค.แน่!

'ชลน่าน' ยันปมประธานสภาเป็นกระบวนการภายในของพรรค สุดท้ายข้อสรุปขึ้นอยู่กับการเจรจา คาดยุติก่อนวันที่ 3 ก.ค. และหากพรรคมีมติอย่างไรก็เชื่อไม่มีใครแหกโผทั้งฟรีโหวตและเสนอชื่อ

22 มิ.ย.2566 - นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าขั้นตอนการเจรจาพูดคุยที่เราวางแนวไว้ คือเป็นการเจรจาระหว่างสองพรรค ซึ่งเราได้มอบหมายหน้าที่ไว้เรียบร้อย ขั้นตอนนี้เป็นกระบวนการภายในเท่านั้น ส่วนที่พรรค พท.มีข่าวออกมาก็เป็นกระบวนการพิจารณาภายในของพรรค เพื่อนำข้อเจรจานี้ไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฉะนั้น ข้อสรุปสุดท้ายก็อยู่ที่การเจรจาของสองพรรคใหญ่

เมื่อถามว่า สุดท้ายจะมีข้อสรุปอย่างไร เพราะมีสมาชิกของพรรค พท.มีความกังวลว่าจะบานปลาย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญและระมัดระวังเรื่องนี้อย่างยิ่ง แต่ในขั้นตอนของการพูดคุยนั้นเราต้องเปิดตรงกลาง เมื่อมีตัวแทนของฝ่ายบริหารที่เรามอบให้เป็นคณะเจรจา ไปกำหนดแนวทางเจรจาไว้ ก็ต้องนำหลักการนี้ มาขอความเห็นจากสมาชิกพรรค โดยเฉพาะคนที่เป็น ส.ส. ซึ่งเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) ก็เป็นขั้นตอนนั้น แม้ว่าจะมีเสียงเล็ดลอดออกไปทางสื่อ เพราะพวกเราเองถือเป็นคนที่เก่ง ที่นำเอาประเด็นต่างๆ มาเปิดเผยได้ ก็จะมีการตอบสนองปฏิกิริยาของสมาชิกออกมาก่อนที่เราจะมีการจัดสัมมนา สิ่งที่เขาพูดไปก็จะเป็นเพียงแค่ข้อคิดเห็น ซึ่งการที่เราจัดให้มีการสัมมนาก็เปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็นตรงนี้ด้วย โดยคนที่แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ เห็นว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะเสนอขอตำแหน่งประธานสภา แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นความเห็นของ ส.ส.ทั้ง 141 คน เพราะมีเพียงกว่า 10 ท่านเท่านั้นที่ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็น

เมื่อถามว่า นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังยืนว่าพรรคเพื่อไทยต้องแคร์ความรู้สึกของสมาชิกพรรคเป็นหลัก นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคมีหลักการในการทำงาน เราแคร์ความรู้สึกทุกฝ่าย ซึ่งทุกฝ่ายหมายถึง พรรคร่วมที่เราไปทำสัญญาร่วมกัน แต่ความรู้สึกที่เราต้องแคร์มากที่สุดคือความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่เรายึดถือเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือการแคร์ความรู้สึกสมาชิกพรรคโดยเฉพาะคนที่เป็น ส.ส. ฉะนั้น เราต้องมองทุกมิติให้ครอบคลุม

ถามว่า ส.ส.ของพรรคบางคนเห็นว่าหากจะให้ตำแหน่งประธานสภากับพรรคก้าวไกล ก็จะมีบางคนที่รับไม่ได้ และจะขอฟรีโหวต นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ส.ส.ทำหน้าที่ตามความคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญ มีเอกสิทธิ์ในการออกเสียงแสดงความคิดเห็นในการลงมติ แต่ในระบบพรรคการเมือง เราต้องมีการพูดคุยกัน โดยเฉพาะระบบพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบรัฐสภา ซึ่งยึดถือเสียงข้างมากเป็นหลัก เคารพเสียงข้างน้อย ก็ต้องมีข้อสรุปในระบบของพรรค ฉะนั้นพรรคเองเมื่อมีความเห็นต่างเช่นนี้ ก็ต้องหาความเห็นร่วมให้ได้ ก่อนที่จะไปพูดคุยเจรจา ฉะนั้นประเด็นข้อกังวลที่จะมีการฟรีโหวตนั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไรเชื่อว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะมีวินัย

ถามอีกว่า หากมีการเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทางพรรคต้องวางตัวอย่างไรกับพรรคก้าวไกลบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คำว่าถ้าตรงนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเรามีการพูดคุยภายในพรรคให้จบกระบวนการทั้งหมด

ถามต่อว่า จะมีการให้นายสุชาติสละสิทธิ์เลยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไปละเมิดสิทธิ์ของสมาชิกไม่ได้ แต่เราเสนอว่าหากมติพรรคเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านจะตัดสินใจอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับตัวท่าน ซึ่งเราเองไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามสิทธิของแต่ละท่านได้ที่จะเสนออะไรขึ้นมา แต่ด้วยวิธีการและกลไกของพรรคการเมือง เราต้องเคารพเสียงข้างมากที่เลือกเรามา ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าเสียงข้างมากจะออกมาในมุมไหน และการเจรจากับพรรคก้าวไกลจะออกมาในมุมใด อาจจะมีข้อยุติที่ดีก็ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พูดถึงการแชร์ตำแหน่งรองประธานสภา ให้กับพรรคอันดับ 3 จะมีการพิจารณาอย่างไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลักการคือเรามอบให้พรรคแกนนำเป็นผู้นำในการพูดคุยเรื่องนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เสนอในมุมของเราเท่านั้น ส่วนพรรคก้าวไกลจะพูดคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์อย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลจะไปพูดคุย เรามีข้อเสนอในมุมของพรรคเพื่อไทยว่าพรรคอันดับ 1 ได้ 151 เสียง พรรคอันดับ 2 ได้ 141 เสียง และพรรคอันดับ 3 ได้ 9 เสียง ในลักษณะเช่นนี้ต้องยึดถือประเพณีปฏิบัติที่เป็นมาหรือไม่ ที่จะต้องแบ่งตำแหน่งรองประธานสภาเกลี่ยไปยังพรรคอันดับ 1 - 3 ซึ่งก็มีการพูดคุยกันในที่ประชุมของพรรคเพื่อไทย คณะเจรจาที่ได้รับมอบหมาย ฝ่ายผู้บริหารก็พิจารณาแล้ว ก็มีข้อเสนอว่าพรรคอันดับ 1 และ 2 คะแนนห่างกันไม่มาก แต่ห่างจากพรรคอันดับ 3 มาก จึงเสนอให้พรรคอันดับ 2 ได้ตำแหน่งรองประธานสภาทั้งสองท่าน ซึ่งนี่เป็นหลักการที่เขาจะเสนอ ส่วนพรรคก้าวไกลจะรับหรือไม่ และจะไปคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์อย่างไร ก็เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กับนายวันมูหะมัดนอร์ พูดเป็นแนวทางเดียวกันว่า หากตกลงกันเรื่องตำแหน่งประธานสภา ไม่ได้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจบเห่แน่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่น่าจะถึงขั้นนั้น ก็ขอบคุณในความปรารถนาดีของทั้งสองท่าน ในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน พรรคเพื่อไทยในฐานะที่มีส่วนได้เสียโดยตรงเป็นคู่เจรจา เรามั่นใจว่าสิ่งที่คนหวั่นไหว และคาดการณ์ จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องได้ข้อยุติภายในพรรคก่อนที่จะไปพูดคุย และก่อนวันที่ 3 ก.ค.นี้ แน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รังสิมันต์'แนะ 3แนวทางแก้ปัญหาเมียนมา!

กมธ.ความมั่นคงเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องถกสถานการณ์เมียนมา 'โรม' ชี้ปัญหาในเมียนมาก็เป็นปัญหาของไทย เหตุคนหนีอพยพข้ามแดน ลั่นไทยอยู่ในฐานะที่น่าไว้วางใจที่สุด ควรเป็นตัวกลางในการเจรจา

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน