นิด้าโพลชี้คนหนุนโหวต 'พิธา' ไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้เป็นนายก

16 ก.ค. 2566 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เลือกนายกรัฐมนตรี 2566” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการเลือกนายกรัฐมนตรี 2566 การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบแรก หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้คะแนนเสียงไม่เพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 43.21 ระบุว่า ควรมีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เพื่อให้รัฐสภาพิจารณา ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ รองลงมา ร้อยละ 20.69 ระบุว่า ควรมีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อให้รัฐสภาพิจารณา อีก 1-2 รอบเท่านั้น ร้อยละ 12.98 ระบุว่า พรรคก้าวไกลควรยอมยกเลิกบางนโยบายที่ ส.ว. ไม่เห็นด้วย เพื่อให้ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.94 ระบุว่า พรรคก้าวไกลควรเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคแทนทันที ร้อยละ 4.88 ระบุว่า พรรคก้าวไกลควรเจรจาชวนพรรคการเมืองในรัฐบาลปัจจุบันเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อให้ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.67 ระบุว่า ควรมีการชุมนุมประท้วงเพื่อกดดัน ส.ว. ให้เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในการลงคะแนนเสียงครั้งต่อไป ร้อยละ 2.52 ระบุว่า พรรคเพื่อไทยควรขอเป็นแกนนำ

ในการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคแทนทันที ร้อยละ 2.29 ระบุว่า พรรคก้าวไกลควรประกาศไปเป็นฝ่ายค้านทันที ร้อยละ 2.06 ระบุว่า พรรคเพื่อไทยควรสลับขั้วในการจัดตั้งรัฐบาลทันที และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงบุคคลที่มีโอกาสจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนที่เพียงพอจากรัฐสภา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.55 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองลงมา ร้อยละ 35.04 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน ร้อยละ 6.79 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 5.65 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 5.42 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 4.27 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 1.45 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 1.07 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค และร้อยละ 1.76 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายชัยเกษม นิติสิริ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และนายศิธา ทิวารี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไทยภักดี' ไม่สนหลุดโพล! ลุยช่วยน้ำท่วม หาดใหญ่จบไปต่อปัตตานี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เดินหน้าช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่แม้ไม่มีไทยภักดีในผลโพล

เทพไท ไม่แปลกใจ 'อภิสิทธิ์-ปชป.' ฉุดกระแสใต้คืนชีพ ห่วง สส.เขต โดนกระสุนดินดำเอาไปกิน

เทพไท ชี้ ผลการสำรวจของนิด้าโพล อาจวัดความนิยมของพรรคการเมือง และจะบ่งบอกถึงส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แต่สำหรับส.ส.ในระบบเขต ยังเชื่อว่าพรรคการเมืองที่มีทรัพยากรพร้อม มีกระสุนดินดำเป็นจำนวนมาก และยิงเข้าเป้า ก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง

ปชป. ขานรับกระแสดีภาคใต้ ลั่นพร้อมสร้างการเมืองสุจริต

“ประชาธิปัตย์” ขอขอบคุณ ความไว้วางใจที่คนไทยมอบให้ พร้อมสร้าง “การเมืองสุจริต” ทำงานด้วย “ความมืออาชีพ” ด้วยนโยบายที่ “ทำได้จริง” เปิดรับสมัคร สส. วันสุดท้ายของแคมเปญ “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้นะ”

นิด้าโพลชี้ ปชป. มาแรงในภาคใต้ คะแนนนิยม อภิสิทธิ์ นำ อนุทิน

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคใต้” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ (จำนวน 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี

เช็กกระแสภาคตะวันออก  ‘เท้ง-ปชน.’ มีคะแนนนำเหนือคู่แข่ง

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคตะวันออก” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13 - 18 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคตะวันออก (จำนวน 8 จังหวัด ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว