'เลิศศักดิ์' ถาม รมว.การคลังถึงความคืบหน้ากรณีฉ้อโกงหุ้นสตาร์ค ชี้เสียหายหลายล้านบาท ขณะที่ 'จุลพันธ์' แจง ขณะนี้ทำงานร่วม ก.ล.ต. - DSI พร้อมแก้ไขข้อบังคับ ป้องไม่ให้เกิดซ้ำ
21 ก.ย.2566 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ซึ่งเป็นกระทู้ถามครั้งแรกของการประชุมสมัยนี้ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งกระทู้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงกรณีการฉ้อโกงหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า เป็นมหากาพย์การโกงของประเทศไทย ที่มีมูลค่าความเสียหายมาก เป็นทั้งการฉ้อโกง ทุจริต ยักยอกเงิน ไซฟ่อนเงิน และตกแต่งบัญชี โดยมูลค่าการปลอมแปลงสูงถึง 25,063 ล้านบาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย ผลิต และขายสายไฟฟ้าอันดับหนึ่งของภาคอาเซียน และอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงมีมูลค่าติดหนึ่งใน 100 ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้การตกแต่งบัญชี ทำให้หุ้นสูงขึ้นและฉกฉวยโอกาสนี้ในการขายเพื่อเอากำไร มีการสร้างยอดขายปลอม ไม่มีใครจ่ายเงินจริง รวมถึงสร้างยอดขายปลอมโดยจ่ายให้พวกเดียวกันเอง จำหน่ายภาษีมูลค่าเพิ่มปลอม สร้างรายจ่ายปลอม สร้างรายการชำระเพื่อมาล้างลูกหนี้ปลอม
นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมาบริษัทต้องส่งงบการเงินกับตลาดหลักทรัพย์ แต่ทางบริษัทได้ขอเลื่อนออกไปก่อน ทำให้ติด SP หรือสัญลักษณ์ห้ามซื้อขายหุ้น รวมถึงได้แต่งตั้งผู้สอบบัญชีรายใหม่ โดยกำไรสุทธิจากเดิมเป็นกำไรหลายล้าน แต่ปีถัดมากลับขาดทุน โดยตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 267 ทางตลาดหลักทรัพย์มีอำนาจในการอายัดทรัพย์ หากพบว่ามีความผิดปกติ หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้กระทำความผิดจะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของตน จึงขอตั้งคำถามถึงความคืบหน้าการติดตามการเอาผิดผู้บริหารของบริษัทมาลงโทษ, การเอาผิดอดีตประธานกรรมการบริหารที่นำเงินออกจากประเทศ มีโอกาสจะได้เงินเหล่านี้คืนหรือไม่ และเหตุใดตลาดหลักทรัพย์จึงไม่เร่งรัดในการอายัดทรัพย์ดังกล่าว รวมถึงจะมีกระบวนการในด้านกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกอย่างไร
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ชี้แจงแทนนายเศรษฐาว่า ภายหลังจากมีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งนายกฯ ท่านก็มีการพูดคุยกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างกลไกการตรวจสอบเรื่องการเยียวยาผู้เสียหาย และผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงหากลไกปิดช่องโหว่ในตลาดทุนในไทย ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล กระทรวงการคลัง ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกคนติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้ง DSI ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อติดตาม และนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การอายัดเงินและห้ามผู้ที่กระทำความผิดนอกประเทศได้ดำเนินการแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตราดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ คณะกรรมการ อดีตกรรมการ และอดีตผู้บริหารของบริษัททั้งสิ้น 10 ราย จากเรื่องการตกแต่งงบการเงินบริษัท การกระทำโดยทุจริตหลอกลวง ซึ่งมีการยื่นคำร้องต่อศาลอาญา และห้ามมิให้มีคำสั่งห้ามผู้ถูกกล่าวโทษออกนอกราชอาณาจักร ตามคำสั่ง ก.ล.ต. เป็นการชั่วคราว และนำผู้ต้องหามาฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวน และอายัดเพิ่มเติมอีก
“แม้จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก่อนรัฐบาลชุดปัจจุบันจะเข้ามา แต่เราก็ติดตามสอบถามรายละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกทุกท่านและประชาชน ว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องตลาดทุนเราจะหาทางติดตาม แก้ไข ตรวจสอบให้ได้” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกนั้น ตามกรอบกฎหมายต้องรวบรวมมหลักฐานให้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ทำให้ระยะเวลาในการอายัดทรัพย์ล่าช้า ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อทำให้กระบวนการรัดกุมยิ่งขึ้น มีการเพิ่มบทบัญญัติในเรื่องของโทษทางปกครอง และบรรจุโทษปรับเป็นพินัย ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ในระหว่างกฤษฎีกา หากผ่านแล้วคงเข้าคณะรัฐมนตรี และจะการพิจารณาในชั้นสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภาต่อไป ส่วนการปรับปรุงระเบียบต่างๆ ก็ได้การแลกเปลี่ยนกันระหว่าง ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง ทั้งวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับปรุงข้อมูลสรุปที่ทางตลาดหลักทรัพย์ทำให้นักลงทุนวิเคราะห์ อัตราส่วนในการกู้ยืมเงิน และยืนยันต่อผู้กู้เงินที่จะลงทุนว่าข้อมูลดังกล่าวเชื่อถือได้ ซึ่งจะพิจารณาพูดคุยหาทางออก แก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คิกออฟแก้‘หนี้’ ขู่ปิดเว็บปล่อยกู้ บี้หมวกกันน็อก
"เศรษฐา" ประกาศภารกิจยิ่งใหญ่แก้หนี้นอกระบบ ฝันสวยหรูช่วยกันทำให้การค้าทาสในยุคใหม่หมดไปจากประเทศไทย
ดันมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์
“เศรษฐา” ฝันดันมวยไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์เบอร์ 1 บอกเป็นกิจกรรมที่มีชื่อไทยอยู่ด้วย 22 ธ.ค.
วิปรบ.วางคิว‘กฎหมาย’ ไร้นิรโทษฯ-ยุบกอ.รมน.
วิปรัฐบาลนัดประชุม 12 ธ.ค. เตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภา
'เพื่อไทย' นัดประชุม 12 ธค.ถกประเด็นถามศาลรธน.ปมปัญหาทำประชามติ
'ภูมิธรรม' เผยเพื่อไทยจ่อนัดประชุม 12 ธค.นี้ ถกประเด็นถามศาลรธน. ปมปัญหาทำประชามติ หลังไม่ตกผลึกทำกี่ครั้ง ปัดตอบกระทบไทม์ไลน์เดิมเข้าคูหาไตรมาสแรกปี 67 หรือไม่ อ้างมีหลายองค์กรที่มีอำนาจเกี่ยวข้อง
2 พรรคแข่งกันจมูกยาว! ดร.เสรี ฟาดนางคงคิดว่าคนไทยเป็นควายกินหญ้า
จะพูดอะไรคิดบ้างนะ ให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงหน่อยเถอะนะ อย่าคิดที่จะมีจมูกยาวแข่งกับพรรคที่เขามีเพจตั้งชื่อถามว่าวันนี้พรรคเขาโกหกอะไร
นายกฯ ปลื้ม จีนตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์ แห่งที่ 4 ของโลกในไทย
นายกฯ ปลื้ม จีนตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน แห่งที่ 4 ของโลกในไทย แสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดดเด่นในภูมิภาคพร้อมเป็นฐานการผลิตยานยนต์สำคัญ