เดินหน้าแจก! 'หมอมิ้ง' อ้างตัวเลขคนเป็นหนี้ 99% เปราะบางหรือยัง คุยข่มสมัยไทยรักไทยปลดหนี้ก่อน 2 ปี

10 ต.ค.2566- ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีนักวิชาการออกมาคัดค้านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในนโยบายทั้งหมดของรัฐบาล ขณะนี้อย่านึกว่าเศรษฐกิจของเราดี เพราะเมื่อเทียบกับต่างประเทศหลังยุคโควิดเขาฟื้นตัวเกินหน้าเราไปแล้ว ขณะที่ของเราค่อยๆ ขยับช้าๆ แสดงว่าเศรษฐกิจเราไม่ได้ดีอย่างที่พูดกัน ความสำคัญเรื่องนี้ต้องถามประชาชน มาตรการสำคัญคือ ทำอย่างไรให้สังคมส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นมาตรการหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโดยรวม ที่ผ่านมาเราลดค่าใช้จ่ายประชาชนด้านพลังงานไปแล้ว การพักหนี้เกษตรกรก็ตามมา อีกด้านหนึ่งเราพยายามสร้างรายได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนส่วนใหญ่อยากได้ แต่รัฐบาลจะเปิดเวทีชี้แจงคนที่ไม่เข้าใจนโยบายนี้หรือไม่ เลขาธิการนายกฯ ตอบว่า ที่ผ่านมามีการชี้แจงหลายเวที วันที่ 9 ต.ค. กระทรวงการคลังก็แถลงใหญ่ในเรื่องนี้ เพื่อทำให้เห็นว่าภารกิจของรัฐบาลคือทำให้ประเทศเจริญเติบโตขึ้น ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่จะเปลี่ยนเป้าหมายให้เฉพาะกลุ่มเปราะบาง ไม่ได้หว่านทั้งหมด นพ.พรหมินทร์ ยืนยัน ตอนนี้ประชาชนกว่า 99% เป็นหนี้ไปแล้ว อย่างนี้แสดงว่าทุกคนเปราะบางหรือยัง แน่นอนว่าเวลาจัดการมีหลายกติกามีทางเลือก เพื่อให้อย่างเท่าเทียมกัน

ถามย้ำว่า จะมีการทบทวนการจ่ายให้คนอายุ 16 ปีทุกคนหรือไม่ เพราะบางคนเป็นลูกคนรวย หรือจะเปลี่ยนวิธีจ่ายเงินมาใช้ทางกระเป๋าตังหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ แย้งว่า จะเปลี่ยนทำไม หลักการสำคัญตอนคิดนโยบายเพื่อให้ประโยชน์ทั้งหมด และได้มีการเตรียมพร้อมเรื่องนี้ เราต้องมาดูว่าจะบริหารจัดการกันอย่างไร ทิศทางเราเห็นแล้ว แต่รายละเอียดที่เกี่ยวกับข้อจำกัดทั้งเรื่องกฎหมาย การบริหารการเงินจะต้องทำอย่างไร ที่ผ่านมารัฐบาลไทยรักไทยทำให้ประเทศที่เป็นหนี้สินและประเทศเกือบล้มละลายกลับมาคืนหนี้ได้ก่อนกำหนด 2 ปี ซึ่งเราคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังอย่างดีและสร้างรายได้จนประเทศพ้นวิกฤติ ยืนยันเราเป็นห่วงที่สุดเรื่องวินัยการเงินการคลัง เมื่อถามว่าจะตอบประชาชนอย่างไรกับการแจกเงินให้ลูกเศรษฐี ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นสิทธิเท่ากัน แต่คนเลือกไม่ใช้ไม่เป็นไร

ซักว่า นักวิชาการออกมาเป็นห่วงจะซ้ำรอยนโยบายจำนำข้าว เลขาธิการนายกฯ แจงว่า รัฐบาลที่ผ่านๆมา เรากู้เงินประมาณ 1.5 ล้านล้าน ใช้ 5 แสนล้าน คิดว่าเราใช้อย่างระมัดระวังและรู้ว่าเม็ดเงินที่ลงไปจะทำให้เกิดความเจริญเติบโต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐา โปรยยาหอมชาวอีสาน ไตรมาส 4 รับเงินหมื่นแน่

นายกฯ ขึ้นเวทีมหาสารคาม “อุ๊งอิ๊ง” สส.เพื่อไทย พรึบ ชู 3 ปัญหาวาระแห่งชาติ ‘หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด-ภัยแล้ง’ ย้ำคำมั่นเงินหมื่นดิจิทัลได้แน่ไตรมาส 4 ด้านปชช.คึกคักบอก ‘รักเศรษฐา’

'ดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงได้ไม่คุ้มเสีย เหตุเพิ่มภาระหนี้ล้น กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวไม่ได้

อาจารย์ธรรมศาสตร์ หวั่น ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ได้ไม่คุ้มเสีย เหตุ ‘กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวไม่ได้’ แถมเพิ่มภาระหนี้ล้น สถานะการคลังน่าเป็นห่วง Worst-case scenario หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้ง แนะรัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่า

ถามจันทร์ส่องหล้าจะกล้าไหม? มี 3 คน เหมาะนั่ง ‘รมว.ต่างประเทศ’

ทำท่าจะล่มปากอ่าว เสียฤกษ์หมด แต่เมื่อเป็นไปแล้วคือรัฐมนตรีต่างประเทศลาออก หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าตั้งรัฐมนตรีไม่ถึง 24 ชั่วโมง

'แก้วสรร' แพร่บทความปอกเปลือก ทักษิโณมิคส์ บวก X กลายเป็นโครงการแจกเงินดิจิทัล

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง "ทักษิโณมิคส์ + X = โครงการแจกเงินดิจิตอล" มีเนื้อหาดังนี้ เมื่อคราวแรกเริ่มครองอำนาจในปี ๒๕๔๖ ของพรรคทักษิณ ที่พลิกมิติการปกครองไทยด้วยชุดนโยบายการเงินที่โหมอัดฉีดประชานิยมชนิดเข้มข้นต่างๆนานา

'อนุทิน' ย้ำ ภท.หนุนดิจิทัลวอลเล็ตให้เป็นไปตามกฎหมาย ยึดข้อเสนอ 3 หน่วยงาน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการแจกเงินดิจิทัล