'ศิริกัญญา' ผิดหวัง นายกฯโยน 'จุลพันธ์' ตอบประเด็นเศรษฐกิจ

'ศิริกัญญา' ผิดหวัง นายกฯโยน 'จุลพันธ์' ตอบประเด็นเศรษฐกิจ เสียใจหยิบประเด็น GDP กลบคำถามสำคัญที่ รมต.จะต้องตอบ รอครม.ชี้แจง ให้กระจ่าง เผื่อเปลี่ยนใจฝ่ายค้านก่อนลงมติ

5 ม.ค. 2567 - ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แถลงสรุปการอภิปรายงบประมาณ 2567 ว่าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ว่า ไม่ได้สะท้อนว่ารัฐบาลจะมีการแก้ไขวิกฤตต่างๆ อาทิ วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม มลพิษที่รั่วไหล ฝุ่น PM 2.5 การศึกษา เด็กเกิดน้อย หรือสังคมผู้สูงวัย เป็นต้น

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันยังพบงบประมาณที่มีการสอดไส้งบประมาณที่ไม่ตรงปกและไม่ตรงแผน เพราะแทนที่จะมีแผนสร้างความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ กลับแทรกแผนการสร้างถนน สร้างตึกเข้ามาแทน และมีแต่งบประมาณที่เอาไปใช้หนี้ ฉะนั้น รัฐบาลจำเป็นจะต้องตอบข้อสงสัยเหล่านี้ในวันสุดท้าย ทั้งเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม น.ส.ศิริกัญญา ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ได้หยิบยกประเด็นการประมาณการณ์เศรษฐกิจ GDP ที่ 5.4% เอาไว้ เพราะทำให้กลบคำถามสำคัญที่รัฐมนตรีจะต้องตอบ แต่สำหรับกรณีที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เอกสารจากสำนักงบประมาณผิดเพียงแค่จุดเดียวที่เป็นการแสดงตัวเลข Nominal GDP ที่ไม่ได้หักผลของเงินเฟ้อ ส่วนหน้าอื่นเป็น Real GDP นั้น เรื่องนี้หากท่านยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดแต่โดยดี ก็ไม่ต้องถกเถียงกันเป็นเวลาถึง 2 วัน เพราะการคำนวณแบบนี้ไม่มีใครเขาทำ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการตั้งงบประมาณบำเน็จบำนาญไว้ไม่เพียงพอต่อการจ่ายในปี 2567 เนื่องจากไม่ได้ตั้งเงินเดือนข้าราชการเผื่อไว้ ทั้งที่จะมีนโยบายขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เรื่องนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบ ว่าจะไปใช้งบประมาณกลาง หรืองบคงคลังแทน

ทั้งนี้ สำหรับการประมาณการณ์รายได้ที่สูงเกินจริง ฝ่ายค้านได้สอบถามถึงภาษี 4 ตัวที่รายได้หายไป เนื่องจากมีปัญหาว่ารัฐบาลจะนำเงินจากส่วนใดมาทดแทน อาทิ ภาษีขายหุ้น การลดหย่อนกองทุนต่างๆ และรายได้นำส่งกฟผ. แต่ได้คำตอบกลับมาเพียงเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและเบนซิน ทำทำให้รายได้หายไป โดยชี้แจงว่า รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการมาแล้ว 2 เดือน ทำให้ลดภาษีไปได้ประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท ซึ่งในความเป็นจริงเราคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการนี้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 จึงสะท้อนได้ว่ารัฐบาลจะไม่ต่อมาตรภาษีสรรพสามิตน้ำมันใช่หรือไม่

นอกจากนี้ น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงวิกฤติการณ์ด้านความมั่นคง ที่ยังได้รับคำตอบไม่ชัดเจน ว่าเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถึงสัดส่วนงบกลาโหมที่งบประมาณไม่ลดลง แม้ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ แต่ในปีนี้กลับเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 2 ว่า นายสุทินยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจให้ลดลงมากเช่นนี้และจริงๆ ของบไปมากกว่านี้ แต่สำนักงบประมาณจัดให้เพียงเท่านี้ คำตอบนี้ตอบคำถามที่ดาวน์น้อยผ่อนนาน เป็นสุทินดาวน์น้อย นายสุทินบอกว่าไม่อยากดาวน์น้อย อยากดาวน์มากกว่านี้ไปจนถึง 20% ซึ่งหากนายสุทินอยากดาวน์ตามที่วางแผนไว้ เราจะมีงบกระทรวงกลาโหมที่สูงกว่านี้แน่นอน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องแผนการลดกำลังพลนั้น เข้าใจว่านายสุทินเพิ่งเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เพียงแค่ 3 เดือน แต่แผนการลดกำลังพลของกองทัพนั้นเป็นแผนปี 2560-2570 ซึ่งผ่านมาแล้ว 7 ปีก็คาดหวังว่าจะเห็นการลดลงของงบประมาณบุคลากรกองทัพได้แล้ว ไม่ใช่ยังคงเพิ่มขึ้น และยังเห็นจำนวนทหารที่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นคือการเกษียณอายุก่อนราชการสำหรับข้าราชการกลาโหม ซึ่งจะรอติดตามในงบประมาณปี 2568 เพราะต้องมีการตั้งงบเพื่อชดเชยค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการและงบบุคลากรก็อาจจะเพิ่มขึ้นในปี 2568 สำหรับเรื่องเรือดำน้ำนั้น เหมือนนายสุทินจะยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง ส่วนที่นายสุทินชี้แจงว่าเราผิดสัญญา แต่ความจริงเราไม่ได้ผิดสัญญาเรือดำน้ำแม้แต่ครั้งเดียว วันนี้เกินระยะเวลาที่ต้องส่งเรือดำน้ำแล้ว เราจึงมาทวงถามว่าสรุปแล้วจะเอาอย่างไรกันแน่

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องวิกฤตสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่มีอะไรที่จะรบกวนจิตใจประชาชนในช่วงนี้ได้เท่ากับฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีได้ฟังคำอภิปรายของสส.พรรคก้าวไกล ในการเตรียมงบประมาณด้วยตึกห้าชั้นแล้ว แต่ท่านก็ยอมรับเองว่าไม่ได้มีแผนอะไรอยู่ในงบของปี 2567 แล้วจะไปใช้งบกลางในการดำเนินนโยบายนี้ ทั้งที่เรื่องฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้น แต่เราจะอยู่ในการบริหารราชการแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวไปถึงเมื่อไหร่ คิดว่าเปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะดีขึ้นแต่ก็ยังเหมือนเดิม

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ที่มีการตั้งงบประมาณไว้ 2 ก้อนในปี 2567 นั้น เรื่องท่อน้ำมันที่มีการเว้นที่ไว้สำหรับการวางท่อน้ำมัน แต่ในการศึกษาความเป็นไปได้ ไม่มีท่อน้ำมันอยู่ในนั้น ดังนั้น การที่จะไปหานักลงทุนมาขนถ่ายน้ำมันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดฝา หรือไม่เช่นนั้นอาจจะต้องรื้อรายงานที่เราจ่ายเงินไปแล้ว 68 ล้านบาทที่ใกล้เสร็จแล้วไปปรับแผน ซึ่งหากทำเช่นนั้นก็จะไม่ตรงกับผลของคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงเรื่องช่องแคบมะละกาที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่ามีความแออัดก็ไม่ได้แออัดขนาดนั้น จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรที่จะสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ ทั้งนี้ หากมีความแออัดจริงสิงคโปร์ก็คงจะไม่สร้างท่าเรือใหม่

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ความผิดพลาดนี้เราอาจจะไม่ต้องกังวลมาก เพราะสุดท้ายหากเราคาดว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการที่เอกชนจะมาลงทุนเองเกือบ 100% หากนักลงทุนไม่มาเพราะเราวาดแผนที่สวยหรูเกินจริง เราก็คงไม่ต้องกังวลเพราะสุดท้ายโครงการนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น แต่ที่ตนต้องมาพูดเรื่องนี้เพราะหากไม่มีนักลงทุนมาคนที่จะนอนไม่หลับคือประชาชนซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่กำลังจะถูกเวนคืนที่ดิน เพราะเขาจะไม่เหลือความมั่นคงอะไรในชีวิตแล้ว โดยที่ต้องลุ้นไปวันต่อวันว่าบ้านของเขาจะถูกเวนคืนที่ดินหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเราเห็นด้วยกับการที่จะพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ การปรับปรุงท่าเรือเดิมหรือสร้างใหม่ก็ตามให้เป็นท่าเรือยุทธศาสตร์สำคัญ แต่สิ่งที่เรายังกังขาคือความคุ้มค่า สวยหรูจริงหรือไม่ จึงต้องฝากให้นายกรัฐมนตรีไปศึกษาอย่างรอบคอบ

“นี่เป็นคำถามที่เรายังรอคำตอบจากรัฐบาล และยังให้เวลากับรัฐบาลในช่วงสุดท้ายของการอภิปราย ก่อนที่จะมีการลงมติ โดยในช่วงบ่าย พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการแถลงว่าเราจะมีมติเช่นไร ซึ่งท่านยังคงมีเวลาที่จะเปลี่ยนใจเราได้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ ตอบคำถามเหล่านี้ให้ครบถ้วน ให้กระจ่างว่าจะแก้ปัญหาให้ประเทศนี้พ้นวิกฤตผ่านงบประมาณปี 67 ได้อย่างไรบ้าง“ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า การชี้แจงของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการชี้แจงเรื่องเศรษฐกิจนั้น ตนคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะตอบมากกว่านี้ แต่กลับให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังตอบเรื่องงบประมาณและเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งก็น่าผิดหวัง และช่วงที่ผ่านมามีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตอบเรื่องงบประมาณเป็นหลัก ตนจึงคาดหวังว่าช่วงท้ายในการพิจารณา นายกรัฐมนตรีจะมีบทบาทในการอภิปรายงบประมาณ

“การชี้แจงเรื่องงบประมาณและปัญหาเศรษฐกิจน่าผิดหวังมากที่สุด หรืออาจเป็นอคติของดิฉัน แต่ต้องสอบถามท่านอื่นด้วยว่ามีอะไรที่มีปัญหา ซึ่งเราต้องติดตามว่ายังมีรัฐมนตรีท่านใดที่ยังไม่ตอบ โดยเฉพาะเรื่อง PM2.5 ที่ต้องดูว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จะมาตอบเองหรือไม่ แต่มีใครเห็นท่านอยู่ในห้องประชุมบ้างหรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเตรียมส่งสภาฯ ถกงบฯ 68 ต้น มิ.ย. สมัยวิสามัญ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รัฐบาลมีความพร้อมใช่หรือไม่ ว่า

นายกฯรับไม่ทราบขั้นตอน 'กฤษฎีกา' ให้ศาลรธน.ชี้ขาดคุนสมบัติ 'พิชิต' ยันทุกอย่างเป็นไปตามกม.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมกิจกรรม "10 เดือนที่ไม่ต้องรอ ทำต่อให้เต็ม 10" ซึ่งจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย

'เศรษฐา' จ่อจัดรายการ 'นายกฯพบประชาชน' อยากสื่อสารกับปชช.สม่ำเสมอ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมจัดรายการนายกฯพบประชาชน ว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะใช้ชื่อรายการว่าอะไร

นายกฯซวยแล้ว! ภาคปชช.อ้างคำวินิจฉัยกฤษฎีกาคุณสมบัติ 'ทนายถุงขนม' ยื่นป.ป.ช.เอาผิด

สืบเนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี เฉพาะตามมาตรา 160(6) ประกอบกับมาตรา 98 (7) และมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญ