‘พิธา’ ร่ายยาวแผนก้าวไกล ปี 67 เพ้อ 6 เป้าหมาย

26 ม.ค. 2567 - ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงแผนทำงานพรรคก้าวไกล ปี 2567 หรือ MFP's Strategic Roadmap

โดยมีวาระแรก Big Bangs หรือ เป้าหมายสำคัญ 6 เป้าหมาย ได้แก่ 1. การทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ เช่น การปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ รัฐธรรมนูญใหม่ 2. ยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งระบบขนส่ง ค่าใช้จ่าย สวัสดิการ สิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข 3. หยุดแช่แข็งชนบทไทย การลดต้นทุนการเกษตร การเพิ่มเครื่องจักรในการผลิต การเพิ่มแหล่งน้ำ และการแปลง ส.ป.ก. เป็นโฉนด รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร 4. ปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ในการจัดทำงบประมาณ การกระจายอำนาจ ปราบโกง 5. พัฒนาการเรียนรู้ให้ทันโลก ต้องมีหลักสูตรในการเรียนใหม่ ลดภาระครู และตัดอำนาจนิยม และ 6. การเติบโตอย่างมีคุณภาพในการสร้างงาน ลดทุนท้องถิ่น สนับสนุน SMEs ท่องเที่ยวคุณภาพ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมใหม่

นายพิธา กล่าวต่อว่า อาจจะดูไม่เหมือนนโยบายใหม่เพราะทุกคนได้เห็น 300 นโยบายของพรรคก้าวไกลไปแล้ว อีกทั้งนโยบายต้องเห็นว่ามีเป้าหมายและเรียงลำดับความสำคัญ รวมทั้งมุมมองของพรรคก้าวไกลที่จะทำในปีนี้

วาระสอง วิธีการทำงานของพรรคก้าวไกล มีปัจจัยความสำเร็จในการนำไปปฏิบัติจริง เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้วิสัยทัศน์เป็นความจริงจะต้องมีองค์ประกอบในเรื่องของกฎหมาย ในแง่ของแผนปฏิบัติการ งบประมาณ และบุคลากร

วาระสาม คือในส่วนของกฎหมายพรรคก้าวไกล ต้องการผลักดันกฎหมาย 47 ฉบับ แบ่งเป็นสองก้อน ก้อนที่อยู่ในวาระการประชุมสภา 21 ฉบับ และอีก 26 ฉบับยังไม่เข้า ยืนยันว่า พ.ร.บ.เรือธง ของพรรคก้าวไกล คือ สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า อากาศสะอาด ส.ป.ก. สำหรับเรื่องงบประมาณ จะต้องมีการปรับเพื่อให้วาระของพรรคไม่มีข้อติดขัดในเรื่องงบประมาณ ปฏิรูปอำนาจเงิน ให้มีความโปร่งใสประชาชนมีส่วนร่วม อนุมัติตามหลักประชาชนได้ประโยชน์ และสุดท้ายคือการเตรียมทีมงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์รอรับเนื้อหางานที่ตามมา เช่น ทีมก้าวกรีน ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ก้าว Geek ดูแลเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล ก้าวเมือง ดูแลเรื่องผังเมือง และก้าวเกษตรดูแลเกี่ยวกับเรื่องเกษตร และอาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับ ก้าววัฒนธรรมและก้าวการศึกษาโดยไม่ใช่บุคลากรของพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียวเพราะจะมีทั้งอาสาสมัครข้าราชการ ภาครัฐ เอกชนและองค์การนอกภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมด้วย ที่จะมีการกระจายไปอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อทำงานร่วมกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เป้าหมายการทำงานของพรรคเกิดขึ้นได้จริง

ขณะที่หมุดหมายสำคัญในการทำงานในปีหน้าแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือการทำงานในสภาฯ และทำงานในพรรคก้าวไกล โดยในเดือนกุมภาพันธ์นี้ภายในพรรคจะมีการพัฒนาทบทวนตัวชี้วัดของประธานกรรมาธิการและสส. โดยทุกคนจะต้องมี KPI เพื่อทำการชี้วัดผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเดือนเมษายนจะมีการอภิปรายทั่วไปหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เชื่อว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมของการทำงานของรัฐบาล และจะมีการประชุมใหญ่สามัญของพรรคก้าวไกล ที่ทำงานครบวาระ 4 ปี ที่จะมีการทบทวนแกนนำการทำงานของพรรคใหม่

ส่วนในเดือนพฤษภาคมจะมี Policy Festival และเดือนมิถุนายน -สิงหาคม จะมีการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 และในปลายปี 2567 จะมีการเตรียมการเลือกตั้งนายก อบจ. ซึ่งเป็นการกำหนด mile stones และจะมีการวัดผลเป็นระยะต่อไป

ทั้งนี้ ภายหลังการแถลง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามจากกรณีที่เคยระบุว่า “ถ้าจะออกจากสภาอีก ก็ออกไปทำเนียบรัฐบาลอย่างเดียว” นั้น จะเข้าไปทำอะไร หรือมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่ โดยนายพิธา กล่าวว่า ”ขึ้นอยู่กับประชาชน เดี๋ยวรอดู“.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้าวไกล' รุมจวก 'เศรษฐา' เก่งแต่ใช้ปากต่อว่าคนอื่นแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง

'ชุติพงษ์' ฟาด 'เศรษฐา' แก้ปัญหาสารเคมี ถ้าใช้ปากทำงานมาเป็นฝ่ายค้านดีกว่า ไม่ต้องเป็นรัฐบาล ชี้มีอำนาจแต่สั่งการไม่ได้ผลสักอย่าง 'ทวิวงศ์' เผยเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่อยุธยา

'ณัฐชา' ซัดอธิบดีกรมโรงงานฯ ไขก๊อกเท่ากับลอยแพลูกน้อง

'ณัฐชา' ซัดอธธิบดีกรมโรงงานอุตฯ ลาออก ลอยแพลูกน้อง ทั้งที่ควรอยู่แก้ปัญหาก่อนค่อยออก จี้ ก.อุตฯเค้นความจริง นายทุนใช้วิธีเผาสารเคมี หลังมีคำสั่งขนย้าย

'ชัยธวัช' เมิน 'ทักษิณออนทัวร์' ปลุกระแสชี้ของอย่างนี้ขึ้นกับปชช.

'ชัยธวัช' ชี้ทักษิณไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนนิยมก้าวไกล เหตุขึ้นอยู่กับการทำงานของ สส. มองลงพื้นที่ที่ผ่านมา ก็หวังช่วยฟื้นฟูความนิยม พท.แต่จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ ปชช.

เด็กก้าวไกลชี้ 'ทักษิณ' ลงภูเก็ตเหมือนแข่ง ครม.สัญจรกับ 'เศรษฐา'

'ณัฐชา' เหน็บ 'ทักษิณ' ทัวร์ภูเก็ต เพราะปรับ ครม.เสร็จ ทำตัวเหมือนพ้นโทษ ทั้งที่พักอยู่ ทำชาวบ้านสงสัย ครม.สัญจรกี่ที่-มีนายกฯกี่คน เชื่อเป็นไปได้สูง 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทย

รองปธ.กมธ.ต่างประเทศสภาฯ ชี้น่ากังวล ‘บัวแก้ว’ สุญญากาศ หนุน ‘นพดล’ เหมาะ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร  ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศว่า เป็นเรื่องน่ากังวลมาก เพราะสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาเวลานี้ กระทบกับประเทศไทยอย่างมาก