'เอกนัฎ' ยกเคสเจ้าหญิงไดอาน่าจี้เรื่องอารักขาขบวนเสด็จฯ

'เอกนัฏ' เผยเรื่องอารักขาขบวนเสด็จฯ ต้องเร่งถก ไม่เช่นนั้นอาจบานปลายกระทบความมั่นคง-ปชช.ปะทะกัน ย้ำไม่มีเจตนาทำแตกแยก หวั่นหากละเลยอาจซ้ำรอยเคสเจ้าหญิงไดอาน่า

14 ก.พ.2567 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นญัตติด่วนขอทบทวนมาตรการอารักขาขบวนเสด็จฯ ว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ตนเองและ สส.พรรค รทสช. ได้หารือกันและเสนอญัตติด่วน โดยอาศัยข้อบังคับการประชุมข้อที่ 50 และ 54 เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการรบกวนขบวนเสด็จฯ หากไม่รีบแก้ไขหรือบริการจัดการสถานการณ์ อาจเกิดเหตุบานปลายนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อย และกระทบความมั่นคงของประเทศ

นายเอกนัฏย้ำว่าไม่ได้เจตนาซ้ำเติมให้เกิดความแตกแยก แต่อยากเสนอผ่านรัฐบาลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้เร่งรัดบังคับใช้กฎหมาย เพื่อไม่ให้นำไปสู่การปะทะกันระหว่างประชาชน และขอให้ทบทวนระเบียบและมาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการถวายความปลอดภัย เพราะอาจจะมีบางส่วนที่ไม่ได้อัปเดต และควรมีการฝึกซ้อม รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้รู้แนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า การอภิปรายจะเป็นการประชุมแบบเปิดเผยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เปิดเผยได้เลย ไม่มีส่วนไหนเป็นความลับ มองว่าเป็นโอกาสดีที่สภาจะได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชน และร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพราะเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก

เมื่อถามว่า สส.พรรค รทสช. มีประสงค์จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า จะเป็นผู้เสนอญัตติ และนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรค รทสช. จะเป็นผู้สรุป โดยจะมี สส.จำนวนหนึ่งจะลุกขึ้นอภิปราย โดยจะอยู่ในกรอบประเด็นตามที่ได้กล่าวไป ส่วนเรื่องกรอบเวลานั้นอยู่ที่วิปรัฐบาล แต่ก็มีประเด็นที่จะนำเสนอชัดเจน ย้ำว่า หากเราปล่อยปะละเลย ก็อาจจะนำไปสู่การปะทะกันระหว่างประชาชน และสร้างความแตกแยก อย่างไรก็ตาม หากเราเร่งรัดดำเนินการ สังคมจะกลับสู่ความสงบเรียบร้อยโดยเร็ว ก็ไม่อยากจะจินตนาการเหมือนกับเหตุการณ์ในต่างประเทศ กรณีเจ้าหญิงไดอาน่าที่เกิดจากการปล่อยปะละเลย จนนำไปสู่โศกนาฏกรรม

เมื่อถามถึงกรณีเยาวชนที่ขัดขวางขบวนเสด็จฯ จะถูกฝากขังในวันนี้ คิดว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสภา แต่เรื่องนี้เป็นความรู้สึกร่วมกันของประชาชน เราก็เฝ้าดูเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่ แต่กลายเป็นว่าผู้ก่อเหตุยังไปทำโพลต่อ แล้วเกิดเหตุปะทะ ทั้งนี้ไม่ได้พูดว่าสิ่งเหล่านี้เหมาะสมหรือไม่ เพราะคิดว่าสังคมได้ตัดสินใจไปแล้ว แต่อยากจะพูดในเรื่องมาตรการของเจ้าหน้าที่มากกว่า ส่วนแนวทางการปฏิบัติหรือคำวินิจฉัยศาลจะเป็นอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่อง แต่อยากสะท้อนเสียงจากประชาชนที่ได้รับฟังมา