'เศรษฐา' พบ 'ทักษิณ' เกือบ 2 ชั่วโมง คุยแต่เรื่องสุขภาพ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

“เศรษฐา” เผยหลังพบ “ทักษิณ​“ คุยแต่เรื่องสุขภาพ​ ไม่มีการเมือง อาการดีขึ้น เจ็บแขนแต่เริ่มขยับได้ ระบุ อดีตนายกฯให้กำลังใจ และเป็นห่วงบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ย้ำพร้อมคุยอดีตนายกฯทุกคน​

24 ก.พ.2567 - เมื่อเวลา 14.15 น. ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง​ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบ นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี​ ใช้เวลาเข้าพบประมาณ​ เกือบ​ 2 ชั่วโมง​ ว่า วันนี้ก่อนมาเข้าพบได้โทรศัพท์ไปสอบถามอธิบดีกรมคุมประพฤติว่าสามารถมาเยี่ยมได้ปกติหรือไม่ เพราะเป็นวันเสาร์ เมื่อช่วงเช้าที่ติดตามงานอยู่ที่บ้านคิดไว้ว่าจะมาเยี่ยมเยียนท่านก่อนไปปฎิบัติภารกิจ

ผู้สื่อข่าวถามว่านายทักษิณได้ให้คำแนะนำในการทำงานหรือไม่​ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้พูดจาอะไรมากขนาดนั้น เพราะนายทักษิณ ยังมีอาการเจ็บที่แขนแต่เริ่มขยับได้บ้าง และเชื่อว่าอาการคงดีขึ้น เพราะมีความสุขที่ได้อยู่บ้าน หลังไม่ได้อยู่มานาน 17 ปี ทำให้มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี และนายทักษิณ ยังเป็นนายกฯที่มีความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีความรู้สะสมมา

เมื่อถามว่านายทักษิณ​ มีความกังวล หรือเป็นห่วงการทำงานหรือไม่​ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้ห่วงอะไร ไม่ได้บอกอะไร ไม่ได้มาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน แต่นายทักษิณ ก็บอกให้พักบ้าง เห็นข่าวทำงานหนักเหลือเกิน โดยได้ให้กำลังใจ พร้อมกับบอกว่าตัวนายทักษิณ อายุ 74 ปีแล้ว แก่กว่านายกฯ 1 รอบ ทำงานหนักมาก็ป่วย นายกฯจึงต้องดูแลสุขภาพด้วยเหมือนกัน เพราะทำงานหนัก และยังชี้ให้เห็นว่าชีวิตมีมากกว่าการทำงาน​ ซึ่งในความคิดตนมาทำงานตรงนี้แล้วเราเสียสละ เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนเยอะ ก็ต้องทำงานให้หนัก

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการพูดคุยเรื่องการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องพรรคร่วมไม่มีอยู่แล้ว​ ส่วนในเรื่องการเมือง นายทักษิณทราบดีว่าตนสนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็มีการต่อสายพูดคุยกัน เพราะในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปประชุมอาเซียนออสเตรเลีย จะพูดคุยกัน​ ขณะที่นายทักษิณ ก็บอกว่าสนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เช่นกัน เพราะรู้จักมาก่อนตนอีก

เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีโอกาสให้นายทักษิณ มาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า​ ยังไม่ได้พูดคุย วันนี้ขอให้ท่านรักษาตัวเองก่อนดีกว่า​ เพราะจุดมุ่งหมายหลักคือให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ กลับมาใช้ชีวิตปกติได้​ เมื่อถามย้ำว่ามีโอกาสจะตั้งนายทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษาหรือไม่ นายเศรษฐา​ กล่าวย้ำว่า ไม่ได้พูดคุย ไม่มีโอกาสได้คุยตรงนี้ ไม่ได้คุยการตั้งอะไรหรือจะมาช่วยบ้านเมืองอย่างไร ไม่มีเลย ยอมรับท่านเป็นห่วงบ้านเมือง บอกว่าช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อยนะ ปัญหาเศรษฐกิจเยอะ ตนก็ตอบรับและยังทำงานต่อไป ไม่ได้หนักใจอะไร เพียงแต่ขอให้ท่านรักษาร่างกายให้ดี

เมื่อถามว่าหากดูจากสภาพร่างกายของนายทักษิณ​ คาดว่าจะใช้เวลารักษานานเท่าใดจะหายเป็นปกติ นายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่ใช่หมอ”ก่อนที่จะตอบเสียงอ่อนลงว่า ถามจากนายทักษิณ ก็บอกว่าดีขึ้น ไหล่พอขยับได้ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ที่ได้กลับมาบ้าน ก็ไม่อยากละลาบละล้วงถามว่าเจ็บตรงไหนอย่างไร แต่ยังเหมือนคนป่วยอยู่

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตว่า นายทักษิณ มีความสามารถในการบริหารประเทศ จะมีโอกาสมาช่วยบ้านเมืองอย่างไร​ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ แต่มั่นใจว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องสุขภาพ คนเราเรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าเรื่องสุขภาพ มีเงินมีอำนาจมากขนาดไหน ถ้าสุขภาพไม่ดีก็ไม่มีความสุข ช่วงเวลานี้คงโฟกัสที่เรื่องสุขภาพ เพราะฟังจากที่พูดว่าอยากกลับมาเป็นคนปกติ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างน้อยไม่แข็งแรงเหมือนสมัยก่อน แต่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติกับครอบครัว และในวันที่25 ก.พ.ทางครอบครัว จะมารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ก็ดีใจที่มีความสุขดี และวันนี้นายทักษิณเอง ยังรับประทานได้เพียงอาหารอ่อน ทานได้เพียงก๋วยเตี๋ยว กินได้แต่น้ำซุป และในมื้อกลางวันท่านทานก๋วยเตี๊ยวน้ำกุ้ง ส่วนตนทานข้าวซอยเนื้อ

เมื่อถามว่าหากมีโอกาส จะเข้ามาปรึกษานายทักษิณ อีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ​หากมีโอกาสก็จะเดินทางมาพบ แล้วแต่โอกาสและจังหวะ​ โดยในช่วงวันที่​ 2 มี.ค.ตนจะลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด​ และกาฬสินธุ์​ รวมไปถึงจะไปฟังพระสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิง​ศพ​ ภรรยานายอนันต์ ปัญญารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็คงได้มาพบกับนายทักษิณ อีก และวันนี้มีเข้าเฝ้า​ฯ​ไม่แน่ใจว่าจะได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่​ ถ้ามีโอกาสได้เจอ​ คงได้คุยกัน​ หากมีข้อกังวลตรงไหน ก็จะรับฟังจากอดีตนายกฯทุกท่าน

"ผมเชื่อว่าอดีตนายกฯทุกคนไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีไหนก็ตาม เชื่อว่าทุกคนก็มีความหวังดีกับบ้านเมือง และทุกเรื่องที่แนะนำจะทำได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของบริบทในปัจจุบัน มีขีดจำกัดต่างกันไปต่างสมัยกัน แต่เรื่องนี้เราต้องทำใจกว้าง"นายเศรษฐากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จตุพร’ ปลุกเสื้อแดง อย่ายึดติดพ่อค้าลวงโลก พิสูจน์ชัด ‘ทักษิณ’ ไม่ใช่นักต่อสู้เพื่อ ปชต.

‘จตุพร’ทุบพ่อค้าลวงโลก อ้างเป็นนักสู้เพื่อ ปชต.และความเป็นธรรมของสังคมเท่าเทียม ฟาดสันดานโผล่ที่แท้แค่คนสองมาตรฐาน แบ่งสรร กอบโกย ตระบัดสัตย์ สมยอมสมรู้ร่วมคิดตั้ง รบ.กับคนปราบเสื้อแดง แล้วทำตัวผูกขาดแบ่งแยกงานรำลึกราชประสงค์ กระทุ้งเสื้อแดงอย่ายึดบุคคล ให้เอา ปท.เป็นที่ตั้ง

จับตา! 2 เรื่องใหญ่ บ่งชี้ใกล้ถึงจุดจบ 'รัฐบาลเพื่อไทย'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แรกทีเดียวคิดว่าจะไม่เขียนเกี่ยวกับเรื่องข้าว 10 ปี

งง! นายกฯ โชว์ใส่เสื้อผ้าขาวม้าไทยไป โรงงานชีส แต่ใส่สูทไปหาเจ้าของผลิตเสื้อผ้า

ตกลงว่านายกจะไปขายไอเดียผ้าขาวม้าไทยให้โรงงานผลิตชีสิหรือไง แล้วจะเอาอะไรไปขายให้โรงงานผลิตเสื้อผ้าเขาหละ

เศรษฐา-พิชิต หากแพ้คดี ครม.ไปหมด-เปลี่ยนตัวนายกฯ!

ศาลรัฐธรรมนูญ ในยุคปัจจุบันที่มี ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ มี 2 คำร้อง คดีการเมืองสำคัญ ที่เข้าสู่การพิจารณาคดีของศาล รธน.ที่ผลคำวินิจฉัยจะมีผลทางการเมืองตามมาไม่น้อย โดยเฉพาะหากผลคำตัดสิน ไม่เป็นคุณกับฝ่ายผู้ถูกร้อง

‘จตุพร’ ปูดมีความพยายามใช้เงินซื้อ 40 สว. ถอนชื่อ หวังคำร้อง ‘เศรษฐา-พิชิต’ ตกไป

'จตุพร’ แฉมีเงินหว่านลงทุนกับ สว.จำนวนมากตลอดคืน 15-16 พ.ค.หวังกล่อมให้ถอนชื่อคว่ำคำร้องส่งศาล รธน.ปม ‘เศรษฐา-พิชิต’ มีจริยธรรมไม่สุจริตปรากฏชัดเจน เชื่อคุณสมบัติ รมต.ขัด รธน. คาดปฏิบัติการ 40 สว. ลุกลามชี้ชะตาทักษิณ 29 พ.ค.ส่อถูกฟ้อง 112 ขังคุก