'จุลพันธ์' ย้ำไทยมีนายกฯ คนเดียวชื่อเศรษฐา!

'จุลพันธ์' แจงใช้งบไปพลาง จ่ายเงินเดือน ขรก. ห่วงอภิปรายใช้คำค่อนข้างแรง ยันไทยมีนายกฯคนเดียว 'เศรษฐา'

03 เม.ย.2567 - นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงในญัตติอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่าเข้าใจว่าสมาชิกเข้าใจกันดีเรื่องข้อจำกัดของการใช้งบประมาณที่ทางรัฐบาลเผชิญมาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใช้งบประมาณไปพลางก่อนปี 2566 นั่นคือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณยังไม่ผ่านการเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบต่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 แล้ว และคาดว่าจะมีการประกาศใช้ในเร็ววัน หลังจากนั้นจะเป็นเครื่องมือกลไกสำคัญในการ​ขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป ทั้งนี้ทางรัฐบาลมีการใช้งบประมาณไปพลางก่อน ผ่านเงินงบประมาณกว่า 40% เป็นงบในส่วนของเงินเดือน รายจ่ายประจำ การลงทุนที่มีการผูกพันมาก่อนหน้า เช่น การผูกพันในปี 2566 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2567 ไม่มีการลงทุนใหม่ และไม่มีโครงการที่รัฐบาลจะสามารถอนุมัติใดๆ ที่จะเป็นการลงทุนใหม่ได้ นี่คือข้อจำกัดที่เราเผชิญมา

“ผมเป็นห่วงการอภิปรายพอสมควร เพราะมีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างแรง เช่น มีเศรษฐีไหนจะโง่มาลงทุน ผมต้องเรียนว่านายกฯ ถึงแม้จะแสดงข้อห่วงใยในเรื่องของการที่นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศ ไปแสวงหาเม็ดเงินลงทุน ไปแสวงหาพันธมิตรไปแสดงจุดยืนว่าประเทศไทยเปิดกลับมาสู่ตลาดโลกอีกครั้งหนึ่ง และในฐานะที่เป็นรมช.การคลัง ผมขอเรียนว่าสิ่งที่นายกฯ ได้ดำเนินไปได้รับสัญญาณในทางบวก จากผู้ลงทุน เอกชน จากนานาชาติ แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการลงทุนในลักษณะนี้ เงินแสนล้านไม่มีใครตัดสินใจได้ในวันเดียว หลังจากให้ความสนใจแล้ว ก็ต้องมีการติดตาม การพูดคุยเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งรัฐมนตรีหลายท่านได้เดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงผมได้มีโอกาสติดตามนายกฯไป และผมเชื่อว่าอีกไม่นานตัวเลขของการลงทุนสัญญาณเริ่มมามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะประเทศไทยมีศักยภาพ และเราจะได้เห็นสึนามิของการลงทุนจากต่างชาติเกิดขึ้นในประเทศในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าแน่นอน ”นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า มีข้อห่วงใยในเรื่องสายงานการบังคับบัญชาถึงกรณีที่สรุปว่าประเทศไทยมีนายกฯ แล้ว ยังมีการสั่งการผ่านท่านใดอีกหรือไม่ ในฐานะที่เป็น 1 ใน ครม. เชื่อว่าสามารถพูดแทนครม.ทุกคนได้ว่า สิ่งนี้เป็นจินตนาการของท่านเอง ประเทศไทยมีนายกฯ 1 ท่าน คือนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ ครม. และการดำเนินการของพวกเราขึ้นตรงต่อนายกฯ ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล เป็นไปตามกลไกของครม. และกลไกกฎหมายทุกประการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จิราพร' คาดได้เป็นเสนาบดีเพราะ'เศรษฐา' ต้องการพลังคนรุ่นใหม่!

'น้ำ จิราพร' เผยได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงเพราะนายกฯ หวังใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงาน รับ อายุน้อยสุดในครม. ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนกพร้อมทำทุกหน้าที่

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลมุ่งยกระดับการดำเนินงานในด้านการรักษาความปลอดภัยและนโยบายเกี่ยวกับด้านการบิน เดินหน้าประเทศสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลตีปี๊บ มิ.ย.ลงทะเบียน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

​โฆษกรัฐบาลเผย OFOS สร้างคน ยกระดับ ศักยภาพคนไทย พร้อมลงทะเบียน มิ.ย.2567 ตั้งเป้ายกระดับคนไทยสร้างสรรค์ มีคุณภาพ 296,610 คน ภายในปีงบประมาณ 2567 ต่อยอดพัฒนา 20 ล้านคน ในเวลา 4 ปี

ไม่ใช่ศาล! เตือนนายกฯปรึกษากฤษฎีกาเรื่องคุณสมบัติ 'ทนายถุงขนม' อาจหลุดพร้อมกัน

กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)