'เฉลิมชัย' ลั่น ปชป. ไม่ใช่พรรคของคนในครอบครัว แต่เป็นของคนไทยทุกคน

“เฉลิมชัย” ประกาศลั่น ปชป.ถึงจะแก่ 78ปี แต่ไม่ได้แก่แบบไม่รู้ภาษา มาเป็นหัวหน้าฯเพราะพรหมลิขิต จะไม่ทำให้แปดเปื่อน หากทำไม่ดีมาด่าเลยอย่าด่าพรรค โว เรียนมาจบดร.ไม่ได้ซื้อมา ยัน 27 เม.ย.ประชุมใหญ่ เปิดพรรคให้ทุกคนสัมผัสได้

6 เม.ย.2567 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงวิสัยทัศน์เนื่องในวันครบรอบ 78 ปี พรรคประชาธิปัตย์ หลังเป็นประธานมอบรางวัลผู้ชนะเลิศผลงานการออกแบบ เครื่องแต่งกายของพรรคฯ ในกิจกรรม “ประชาธิปัตย์ FASHION CONTEST” ว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่มีอายุเก่าแก่ แต่มีประสบการณ์มา 78 ปี ผ่านวิกฤตการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวจนมาถึงทุกวันนี้ ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจได้ว่าหลักการอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขเป็นหลักที่พรรคประชาธิปัตย์ยึดไว้เป็นหนึ่งเดียวตลอดมาตั้งแต่วันก่อตั้งจนถึงวันนี้ และวันต่อข้างหน้าจะ 50 ปี 100 ปี ประชาธิปัตย์ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ จะยึดมั่นในหลักการสุจริตเป็นที่ตั้ง วันที่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรคฯขอยืนยันกับทุกคนให้มั่นใจว่า ไม่ว่าประชาธิปัตย์จะเป็นอะไรในสังคม จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราจะยึดมั่นหลักการสุจริตเป็นที่ตั้งเช่นเดียวกัน

“ผมกล้าพูดเพราะผมผ่านกระบวนการของพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่เป็น สส. ธรรมดา มาเป็นกรรมการบริหาร เป็นรองหัวหน้าพรรค เป็นเลขาธิการพรรค 2 ครั้ง ถามว่าวันนี้มาด้วยอะไร ผมบอกเลยว่า มาด้วยพรหมลิขิต มาด้วยฟ้าลิขิตจริง ๆ เพราะไม่เคยคิดทะเยอทะยาน ไม่เคยคิดมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่มาตามขั้นตอนทุกอย่าง ผมยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการทางการเมืองของพรรค หรือดำเนินการในตำแหน่งทางการเมือง ไม่มีคำว่าทุจริตเข้ามาให้แปดเปื้อนพรรค ประชาธิปัตย์ นี่เป็นสิ่งที่ผมถึงกล้ายืนยัน”นายเฉลิมชัย กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ยึดหลักประชาธิปไตย 2 อย่าง ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และประชาธิปไตยสุจริต แต่ 78 ปี ของประชาธิปัตย์ ไม่ได้หมายถึงว่า 78 ปีที่แล้วขึ้นมามาแล้ววันนี้ต้องเหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะโลกมันเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน ถ้าประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนเราก็จะไม่มีปีที่ 79 และไม่มีปีที่100 ปีที่100 กว่า นั่นคือสิ่งที่ตนตั้งใจจะเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ เป็นการเข้ามาเพื่อเปลี่ยนผ่านให้ประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า ซึ่งทุกคนนจะได้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านของเราไม่ใช่พูดแต่ปาก ประชาธิปัตย์ยุคนี้ไม่ได้เก่งแต่พูด ประชาธิปัตย์ยุคนี้เปิดพื้นที่ให้กับทุกคนทุกกลุ่ม ทุกรุ่น เพราะเราต้องการยึดโยงคำว่าประชาธิปไตยอยู่กับทุกคน ทุกกลุ่ม

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า วันนี้เรามีศูนย์เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อการสื่อสารพรรคประชาธิปัตย์ ตนว่าคนรุ่นใหม่แค่ได้ยินชื่อก็รู้แล้วว่า วันนี้ประชาธิปัตย์สู้ สู้จริงๆ ประชาธิปัตย์จะไม่มีวันมาบอกว่า เฮ้ยเราสู้ แต่เราไม่มีเทคโนโลยี ไม่มี ประชาธิปัตย์วันนี้มี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม. มารับผิดชอบ ตนบอกกับนายสุชัชวีร์ ว่า สิ่งที่คุณต้องทำคือ อย่างน้อยที่สุดต้องไม่เลวกว่าเขา แต่ถ้าอยากพิสูจน์ความสามารถคุณต้องทำให้ดีกว่าเขา นี่คือสิ่งที่ นายสุชัชวีร์ ต้องรับผิดชอบ และเราทำทันที ไม่ได้มานั่งคุยนั่งโม้ แล้วก็ไม่เจอกันอีก แต่เราทำทันที ตั้งขึ้นมาทันที และปรับปรุงการสื่อสารเทคโนโลยี โซเชียล ในพรรคทั้งหมด ภายในวันที่ 27 เม.ย.นี้ที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ทุกอย่างจะเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันประชุมใหญ่ 27 เม.ย. ตนจะเปิดพรรคฯ ให้ทุกคนมีส่วนร่วม หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่จะเข้ามาสู่พรรค เป็นสมาชิกพรรค เป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นหัวหน้าพรรค จะถูกลดลงมาให้ทุกคนสามารถสัมผัสได้ ถ้าคุณมีความสามารถและมีจิตใจที่ยึดโยงกับพรรคฯ ซึ่งเราจะแก้ไขให้เรียบร้อย และเปิดพื้นที่ให้เยาวชน ให้คนรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถ และทำให้คนรุ่นเก่าของพรรคฯที่วันนี้อาจเข้าใจผิด หรืออาจจะเหนื่อยกับช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วหยุดพักไป จะเปิดให้พวกเขาดูว่าประชาธิปัตย์พร้อมจะเดินหน้า แล้วจะเชิญท่านเหล่านั้นกลับมาช่วยกันเติมพลังให้กับประชาธิปัตย์ใหม่อีกครั้ง นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดกับประชาธิปัตย์

“แม้ผมจะไม่ใช่คนจบนอก ความเป็นเอกภาพเป็นหนึ่งเดียว ทุกอย่างจะอยู่ในประชาธิปัตย์ แต่พวกเราต้องมาช่วยกันหากอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงการทำงาน แรงขับเคลื่อนทุกอย่าง ถ้าพลังภายในไม่เป็นหนึ่งเดียวก็ไม่มีพลัง และประชาธิปัตย์เป็นองค์กร ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะ เป็นองค์กรทางการเมือง ผมกราบฝากไปถึงทุกกลุ่ม ถึงคุณจะไม่เลือกประชาธิปัตย์ แต่ประชาธิปัตย์ไม่เคยทำผิด ถ้าคุณบอกว่าประชาธิปัตย์ไม่ดี ก็ไปดูว่า ยุคไหนใครบริหาร คุณก็ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไป แต่คุณต้องให้เกียรติความเป็นพรรคการเมือง ผมขอเลยครับ ถ้าวันนี้ผมบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดี ก็ด่าเลยครับนายเฉลิมชัย อย่าไปด่าพรรค เหมือนคุณมีบริษัทหนึ่ง บริหารไม่ดี อย่าไปด่าบริษัท แต่ให้ด่าผู้บริหารบริษัท ประชาธิปัตย์ถึงจะอายุ 78 ปี แต่ไม่ใช่คนแก่ ประเภทไม่รู้เรื่องไม่รู้ภาษา แต่เป็น 78 ปี ที่มีประสบการณ์พร้อมผ่านวิกฤตเหตุการณ์ต่างๆ พร้อมที่จะรับกับสิ่งต่างๆ และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างประเทศไทยในยามที่ประเทศไทยมีวิกฤตทุกครั้ง ประชาธิปัตย์จะไม่เป็นพรรคของคนในครอบครัว แต่จะเป็นพรรคของคนไทยทุกคน ผมนักเลงพอที่จะรับผิดชอบ ไม่ต้องห่วง ผมจบด็อกเตอร์เรียนมา ไม่ได้ซื้อ ไม่ใช่กิติมศักดิ์ด้วย ผมเป็นได้ทุกอย่างที่สมาชิกพรรคอยากให้เป็น”นายเฉลิมชัย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ศิริกัญญา' มอง 'ขุนคลังคนใหม่' ทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องแบ่งเวลามาเป็นเซลส์แมนประเทศ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในส่วนของกระทรวงการคลัง ว่า ปรากฎว่ามีรัฐมนตรีในกระทรวงการคลังถึง 4 คน ซึ่งน่าจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อันที่จริงกรมในกระทรวงก็มีไม่ได้มากคงแบ่งกันดูแลคนละกรมครึ่ง

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 8)

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490