สส.ก้าวไกล ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์เชียงใหม่ "ชัยธวัช" กระเตงลูกชายมาด้วย ยัน ไม่ได้มาเช็คกระแส-หวงพื้นที่ ชี้อยู่ที่ตัวเราเอง ไม่กังวล "ทักษิณ" มาเชียงใหม่บ่อย แล้วจะเสียคะแนน
13 เม.ย.2567 - ที่ จ.เชียงใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำสส.และสมาชิกพรรคก้าวไกล ร่วมขบวนสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง โดยมี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ, นายณัฐพล โตวิจักรชัยกุล สส.เชียงใหม่, น.ส.เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู สส.เชียงใหม่ ร่วมขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์และเล่นน้ำสงกรานต์กับประชาชนตลอดสองข้างทาง นอกจากนี้ นายชัยธวัช ยังได้นำลูกชาย ’น้องติน‘ มาร่วมงานด้วย ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาให้กับบรรดาแฟนคลับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
โดยนายชัยธวัช กล่าวถึงความตั้งใจที่มาเชียงใหม่ครั้งนี้ เพื่อมาลงพื้นที่ในวาระสงกรานต์กับสส.เขต โดยได้ลงพื้นที่ไล่มาตั้งแต่ จ.ลำปาง จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ ส่วนในวันที่ 14 เม.ย. จะเดินทางไป จ.เชียงราย ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวเหนือปี๋ใหม่เมือง
ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มา จ.เชียงใหม่วันนี้เช่นกันนั้น ตนมองว่าเป็นธรรมดา เพราะนายทักษิณก็เป็นคนเชียงใหม่ สำหรับคนเชียงใหม่วันสงกรานต์เป็นวันสำคัญ คงไม่ได้มีวาระทางการเมืองอะไร ทั้งนี้ ตนมาดูเรื่องอื่นด้วย เช่นเรื่อง PM 2.5 ที่เดิมคาดหวังว่าจะมีพายุฤดูร้อนเข้าและฝุ่นจะหายไป แต่วันนี้ก็ยังไม่ค่อยดีเท่าที่คาดหวัง ยังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
“ยืนยันว่าวันนี้พรรคก้าวไกลไม่ได้มาเช็คกระแส เรามี สส.เขตภาคเหนือตอนบนเกือบทุกจังหวัด ก็ต้องมาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมาแล้วก็ได้รับกำลังใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม ไปที่ไหนประชาชนก็ให้กำลังใจ ขอให้พวกเราต่อสู้ต่อไป และจะสนับสนุนพวกเราไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลลงพื้นที่ติดกัน โดยส่งไม้ต่อจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายชัยธวัช เพราะหวงพื้นที่กลัวเขาชิงไปใช่หรือไม่ นายชัยธวัช ยืนยันว่า ไม่ เราแบ่งกันแล้วว่า ปีนี้นายพิธาต้องไปพื้นที่ภาคอีสาน แต่ที่นายพิธามาเชียงใหม่เมื่อวานนี้ เพราะมีหมายเดิมอยู่แล้ว ส่วนตนต้องนำทีมมาภาคเหนือ ไม่มีเรื่องอื่น
ถามต่อว่า ต้องการป้องกันแชมป์ใช่หรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลได้มา 7 เขต นายชัยธวัช กล่าวว่า พื้นที่ไหนที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ สส.พรรคก้าวไกล ก็ต้องทำงานหนัก ไม่ใช่เพราะต้องรักษาแชมป์ แต่ต้องทำงานให้คุ้มกับความไว้วางใจของประชาชน ย้ำว่า ไม่กังวลว่าการที่นายทักษิณกลับมาเชียงใหม่บ่อยๆ จะเสียคะแนน เพราะอยู่ที่ตัวเราเอง
ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา แสดงความคิดเห็นถึงกรณี ที่นายทักษิณ กล่าวถึงนโยบายเติมเงิน 10,000 ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า โครงการนี้จะสำเร็จลุล่วงเหมือนที่รัฐบาลตั้งใจหรือไม่ ก็อยากให้รัฐบาลเตรียมแผนการไว้โดยละเอียด มีโร้ดแมปและไทม์ไลน์ที่ชัดเจน รวมถึงตอบคำถามเพื่อสร้างความั่นใจให้ประชาชน เพราะการจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หัวใจคือต้องสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน จึงจะกล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่หากมีความกังวลว่าตังค์จะเข้า เงินจะพอ แอปจะล่มหรือไม่ แบบนี้ประชาชนก็จะลังเลที่จะออกมาใช้จ่ายเงิน และเก็บออมเสียมากกว่า การกระตุ้นก็จะไม่เป็นผล เราก็กังวลไม่แพ้กัน ก็จะยิ่งทำให้รัฐบาลต้องทำงานหนักขึ้น วางแผนให้ชัดเจนมากขึ้น ยิ่งนายทักษิณเป็นห่วง ตนคิดว่าน่าจะทำให้รัฐบาลเข้มข้นในการทำงานมากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีที่พูดถึงเรื่องนี้
ส่วนที่นายทักษิณบอกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เชื่อเช่นนั้นหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า ตนก็เชื่อแบบนั้น เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน ถ้าเราอัดเม็ดเงินลงไปได้ถึง 5 แสนล้านบาท แต่จะดีขึ้นแค่ไหน เพราะรัฐบาลประเมินเองก็ยังได้แค่สูงสุด 1.8% ทั้งที่อัดเม็ดเงินไป 3% ของจีดีพี เราไม่ห่วงว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแน่ แต่จะดีขึ้นหรือนานเท่าไหร่ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ต้องกังวล
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่านายทักษิณหวังว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นเรือธงของรัฐบาล น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราทราบดีว่านโยบายนี้เป็นเรือธงจริงๆ หมดจากนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่าอะไรที่เป็นเรือธงหลังจากนี้ จากที่ได้หาเสียงและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ดังนั้น ทุกคนก็คงคาดหวังว่านโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เราอยากให้มีมาตรการที่ถูกที่ ถูกเวลา
ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ทีมกฎหมาย ตรวจสอบคำพูดของนายเศรษฐาที่ออกรายการของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าว นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีหรือไม่ ในเรื่องธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เพราะเรากังวล เนื่องจากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าตีความอย่างไร ในวัตถุประสงค์มาตรา 9 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธกส. และไม่คิดจะให้กฤษฎีกาตีความนั้น แต่นายกรัฐมนตรีก็รับลูกบอกว่า จะให้กฤษฎีกาดูให้ เราก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่เมื่อประชาชนมีความกังวล ก็ไม่ได้ละเลย ทำตามที่ประชาชนทวงถาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สแกนข้อมูล‘ฝ่ายแค้น’ แตกหักหรือแบล็กเมล
นอกจากบทบาทของพรรคประชาชน (ปชน.) ในการซักฟอกระหว่างวันที่ 23-24 มี.ค. ต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้ธีม “ดีลแลกประเทศ” ว่า สุดท้ายจะทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีหรือไม่
'กรณ์' หนุนแนวคิดทักษิณ 'ซื้อหนี้' แต่ต้องไม่เป็นประชานิยมเกินไป ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกลุ่มทุน
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว. คลัง โพสต์ข้อความแสดงความเห็นต่อกรณีนายทักษิณ ชินวัตร เสนอแนวคิดซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคาร โดยมีข้อความว่า “ซื้อหนี้?
รัฐบาลทุ่ม 150 ล้านจัดสงกรานต์ ดันไทยเป็น ‘อาร์ทฮับ’ เปิดพื้นที่เยาวชนโชว์สตรีทอาร์ท
รัฐบาลเร่งเครื่องซอฟต์พาวเวอร์ อัดงบ 150 ล้านจัดสงกรานต์ยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ หนุนใส่กางเกงประจำจังหวัด เสริมเอกลักษณ์ไทย พร้อมผลัก
'ศิริกัญญา' มองแนวคิดซื้อหนี้เสียประชาชน ซ้ำรอยดิจิทัลวอลเล็ต เสียหายมากกว่า
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้รัฐบาลรับซื้อหนี้เสียคืนจากประชาชน
ส่งกลับ“อุยกูร์”เกมเสี่ยงหวังผลสูง คว้ากระแสลมเปลี่ยนทิศ
เหตุผลสำคัญที่รัฐบาลพยายามอธิบายเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับคืนให้ทางการจีน คือ “แรงบีบจากจีน”