
'บักเต้น' โหนอหิวาต์หมู โชว์กึ๋นอดีต รมช.พาณิชย์ งัดใบเสร็จประจานความล้มเหลวรัฐราชการยุคบิ๊กตู่ครองเมือง อัดไม่เห็นหัวประชาชน ไม่รู้จะอยู่ทำห่าอะไรกัน
13 ม.ค.2565 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ที่ส่งผลกระทบทำให้หมูขาดตลาดและราคาหมูแพงเข้าขั้นวิกฤตว่า ตั้งแต่ปี 2561 มีข่าวการตรวจพบเชื้ออหิวาต์สุกรในประเทศจีน หลังจากนั้นมีการระบาดแพร่กระจายขยายตัวออกมาในหลายประเทศ จนเมื่อเดือนเมษายน 2562 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีขอความเห็นชอบประกาศการเฝ้าระวังป้องกันโรคอหิวาต์หมูเป็นวาระแห่งชาติ จากวันนั้นจนถึงวันนี้มีการขอความเห็นชอบที่ประชุม ครม.อนุมัติงบประมาณดำเนินการเรื่องนี้รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง ในวงเงินกว่า 1,500 ล้านบาท แต่นั่นเป็นการทำกันเอง รู้กันเอง อนุมัติกันเอง ระหว่างส่วนราชการและฝ่ายบริหารเท่านั้น ประชาชนคนไทยพึ่งทราบเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐวันที่ 11 มกราคมนี้เองว่าตรวจพบเชื้ออหิวาต์หมูในประเทศไทย
“กว่าจะรู้ความจริง ผู้คนเกิดความเสียหายบานปลายใหญ่โต หมูตายคาโรงเรือนและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูกำลังจะตายคาครัวเรือน เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ คำถามคือใครคือคนรับผิดชอบหลักต่อความเสียหายนี้ แน่นอนที่สุดส่วนราชการที่เกี่ยวข้องปฏิเสธงานในหน้าตักไม่ได้ แต่ถึงที่สุดเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ วันที่อนุมัติวาระแห่งชาติในการเฝ้าระวังป้องกันเชื้ออหิวาต์หมู พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีจากอำนาจ คสช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามมาตรา 44 อนุมัติงบทุกครั้ง ล้วนเป็นงบกลางซึ่งอยู่ในความดูแลของนายกฯ เฉพาะยอดแรก 53 ล้านบาทเศษในการเฝ้าระวังป้องกันเรื่องนี้ คำถามคือนายกฯ ได้ติดตามสั่งการในการแก้ปัญหาเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร ผมพยายามตรวจสอบข่าวเก่าๆ ไม่ปรากฏว่ามีข้อสังการจากนายกฯ ทั้งในที่ประชุม ครม. และในที่สาธารณะอื่นใด ทุกอย่างเอาตามส่วนราชการ เห็นชอบตามที่เสนอ อนุมัติเงินให้ตามที่ขอ นายกฯ นั่งเป็นตุ๊กตาเสียกบาลหัวโต๊ะ ครม. ไม่หือไม่อือกับปัญหานี้แต่อย่างใด”
นายณัฐวุฒิกล่างต่อว่า นี่คือใบเสร็จที่ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพวก เข้าสู่อำนาจบริหารประเทศภายใต้ระบบราชการ สร้างรัฐราชการซึ่งไม่ได้สะท้อนวิสัยทัศน์และขีดความสามารถในการแก้ปัญหาของคนเป็นผู้นำ ปัญหาโรคระบาดระดับวาระแห่งชาติ ทำกันได้แค่นี้หรือครับ นี่ถ้าไม่จนมุม ความไม่แตกออกมาคงเป็นวาระแห่งชาติหน้า ไม่มีทางได้รู้ความจริงกันเสียที เรื่องโรคระบาดทั้งคนทั้งหมู เมื่ออยู่ในมือรัฐบาลชุดนี้ค่าเท่ากัน ทำงานแบบปกปิด ยึกยักลักลั่นไม่พูดความจริงกับประชาชน แก้ปัญหาไม่เท่าทันกับความสูญเสีย โควิด-19 คนนอนตายกลางถนน อหิวาต์หมู ผู้คนเดือดร้อนของแพงทั้งแผ่นดิน ทีจะว่าคนอื่นโทษคนอื่น นายกฯ พูดปากฉอดๆ แต่ปัญหาใหญ่แบบนี้ไม่เคยเห็นแก้ได้เหมือนปากพูดเสียที
“มีบางคนวิเคราะห์กันว่า สถานการณ์หมูแพงของแพงทั้งแผ่นดินจะถึงคราวดับดิ้น นายกฯ จะอยู่ไม่ได้ นั่นถ้าเป็นรัฐบาลปกติของนักการเมืองโดยทั่วไปอาจจะวิเคราะห์กันในมุมนั้น แต่กับรัฐบาลชุดนี้ ผมจะชี้ให้เห็นว่าต่อให้บ้านเมืองจะพังพินาศผู้คนล้มตายเสียหายอย่างไร เขาก็จะยังอยู่ได้ นี่คือผลจากความบิดเบี้ยวทางการเมือง ความฉ้อฉลของกติกา การใช้รัฐธรรมนูญเป็นเพียงเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจและรักษาอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และพวกเท่านั้น ถ้าเป็นรัฐบาลอื่นๆ คงไปตั้งแต่โควิดรอบแรกแล้วแหละครับ แต่เป็นรัฐบาลแบบนี้ต่อให้มีความอหิวาต์ไก่ อหิวาต์เป็ด ตามมาเขาก็ยังจะหน้าด้านอยู่ เพราะเส้นทางสู่อำนาจที่แท้จริงของพวกเขา ไม่ได้มาจากประชาชน แต่มาจากเส้นสนกลในที่ซ่อนไว้ในตัวกติกา คนไทย 70 กว่าล้านคนมีความหมายน้อยกว่า 250 ส.ว. และ ส.ว. 250 คน มีความหมายเพื่อคนคนเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เซ็นแต่งตั้งมา”
เขากล่าวอีกว่า เชื่อว่ามาถึงวันนี้คนจำนวนมากต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่ความเป็นจริงมันเป็นเรื่องยากมากๆ ทั้งการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เปลี่ยนแปลงกติกา นี่เป็นบทเรียนที่เจ็บปวดและแสนสาหัสอย่างยิ่งของสังคมไทย ถ้ายังคิดกันไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว แล้วไม่ต้องมากล่าวหาว่าตนเองเอาประเด็นเรื่องข้าวของแพง เรื่องหมูเป็นอหิวาต์มาโยงเข้ากับการเมือง เพราะของจริงคือการเมืองที่มันเหลวแหลก มันทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ ถ้านายกฯ และรัฐบาลมีศักยภาพ ทำงานได้จริง มีวิสัยทัศน์ในการมองปัญหา เผชิญหน้ากับวิกฤตได้อย่างเข้มแข็ง เรื่องราวมันจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้หรือ ลองคิดกันดูดีๆ หมูแพงของแพงจนถึงวันนี้ มันผิดที่รัฐบาลหรือผิดที่อหิวาต์ เรากำลังเผชิญกับวิกฤตและประชาชนมีพลังน้อยเหลือเกินสำหรับจะเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหาร และเชื่อว่าคนจำนวนมากต้องการความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่อำนาจของประชาชนมีพลังน้อยเหลือเกินที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงภายใต้ข้อจำกัดนี้
“คนเป็นโควิด หมูเป็นอหิวาต์ แต่การเมืองเป็นโรคห่ามาแล้วเกือบ 8 ปี และห่ายังจะลงการเมืองอยู่แบบนี้ ไม่รู้จะอยู่ทำห่าอะไรกัน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ


