หมัดสอง 'ไพบูลย์' เอาผิด หมาแก่ อสมท. ข้อหาดักฟังโทรศัพท์

15 กันยายน 2567 – นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพปชร. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะยื่นฟ้องดำเนินคดีนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้จัดรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ,รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ และ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT ต่อศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทนายไพบูลย์ฯ ด้วยการโฆษณา โดยประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเสียงของนายไพบูลย์ฯ ทำให้ตนเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และคลิปเสียงดังกล่าวมีที่มาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ได้นำคลิปเสียงเผยแพร่ผ่าน รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 นั้น

นายไพบูลย์ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากข้อหาหมิ่นประมาทนายไพบูลย์ฯด้วยการโฆษณาแล้ว ตนยังจะฟ้องบุคคลทั้ง 3 ในข้อหากระทำความผิด ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อ 1 ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผย ข้อความนั้นต่อผู้อื่น โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เพิ่มในคำฟ้องเป็นอีกฐานความผิดด้วย

นายไพบูลย์ เปิดเผยอีกว่า ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากบัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด บัญญัติว่า

“โดยที่ในระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการลักลอบดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความที่มีการ ติดต่อทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการละเมิดเสรีภาพของ บุคคลในการสื่อสารถึงกัน ก่อให้เกิดความหวาดระแวงกันทั่วไปในหมู่ประชาชนผู้ใช้เครื่องมือสื่อสาร ดังนั้น เพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยชอบด้วยกฎหมายและเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและรักษาความสงบของประเทศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากบัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ผู้ใดดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผย ซึ่งข้อความที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายต้องระวางโทษจำดุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข้อ 2 ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อ1ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผย ข้อความนั้นต่อผู้อื่น โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข้อ 3 ผู้ใดใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดตามข้อ1หรือข้อ 2 ต้องรับโทษเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตามที่บัญญัติไว้ในความผิดตามข้อ1หรือข้อ 2 แล้วแต่กรณี

ข้อ4 ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้บริการโทรศัพท์หรือการสื่อสาร หรือเป็น ผู้ได้รับสัมปทานการให้บริการดังกล่าว นอกจากต้องรับโทษตามข้อ1 ข้อ2 หรือ ข้อ3แล้วแต่กรณีแล้วให้ใบอนุญาตหรือสัมปทานนั้น สิ้นสุดลงด้วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2549
พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิ่น หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า กฏหมายดังกล่าวข้างต้น ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 แล้วก็ตาม หากแต่ประกาศคณะปฏิรูปฯ ดังกล่าวนั้น หาได้มีกฎหมายบัญญัติเอาไว้ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายให้ยกเลิกแต่อย่างใด ดังนั้น ประกาศคณะปฏิรูปดังกล่าว จึงยังคงเป็นกฎหมายใช้บังคับได้อยู่จวบจนถึงปัจจุบัน (เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2523)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไพบูลย์' คอนเฟิร์ม 10 ต.ค. วันเริ่มต้นไปสู่จุดจบพรรคเพื่อไทย

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้แจ้งว่า วันที่ 10 ต.ค.นี้ จะมีเหตุการณ์ที่นำไปสู่การล่มสลายพรรคแกนนำรัฐบาลจะรู้แน่และตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าวันที่ 10 ต.ค.รู้แน่นอน ขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 วัน

'ไพบูลย์' ปูดข่าวยุบพรรคเพื่อไทย ให้จับตาดูหลัง 10 ต.ค.

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวว่าจะเกิดปัญหากับพรรคการเมือง ที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นสมาชิกพรรค หรือที่รับใบสั่งกับแกนนำมาร้องเรียนจนมั่วไปหมด ซึ่งตนเองทราบจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อได้

'ไพบูลย์' แจ้งความแล้ว ลุยเอาผิด 'เด็จพี่' ฝ่าฝืนประกาศ คปค. ห้ามดักฟัง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ร้องตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. รวมถึงขอข้อมูลส่วนตัวว่า ตนเกรงว่านายพร้อมพงศ์ จะไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย

'ไพบูลย์' ยัน 'สันติ-วราเทพ' ไม่ทิ้ง พปชร. ก็รู้กันอยู่พวกไหนปล่อยข่าวไม่หวังดี

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และนายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค จะนำ สส.

'ไพบูลย์' ลุยเอาผิดอาญา 'เด็จพี่' แพร่คลิปเสียง 'ลุงป้อม-ปลัด มท.'

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ ถึงการมอบหมายให้ทนายความ ไปดำเนินการแจ้งความเป็นการส่วนตัวที่ สน.หัวหมาก  เพื่อขอให้สืบสวน กรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นำคลิปเสียงดักฟังของ

'เด็จพี่' ประกาศปิดบัญชี 'ลุงป้อม' ยื่น ป.ป.ช. ฟันจริยธรรม

'พร้อมพงศ์' โวหลักฐานเพียบ ลั่นพุธนี้ปิดบัญชี ’ลุงป้อม‘ ได้แน่ พร้อมส่งไม้ต่อ ป.ป.ช. สอบจริยธรรม ไล่เปลี่ยนทีมกฎหมาย เย้ยระวัง ‘ไพบูลย์’ ตกม้าตาย