'นิกร' เสนอถอยคนละก้าว ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นครึ่ง สส.-สว.เห็นต่างประชามติ

6 พ.ย.2567 - เมื่อเวลา 16.00 น. ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ (ฉบับที่ … ) พ.ศ. … กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ให้ทั้งกมธ. สส.และสว. ได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งแต่ละฝ่ายก็ยังยืนเหมือนเดิมเกี่ยวกับผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียง ซึ่งฝ่ายสว.ยังคงยืนยันที่จะใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น แต่ฝ่ายสส.กังวลว่าถ้าคนออกมาใช้สิทธิน้อย การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านแล้วจะมีปัญหา ซึ่งตนในฐานะตัวแทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)ได้เสนอว่า ในมาตรา 6 ให้ยกเลิกมาตรา 13 ที่ระบุว่าการออกเสียงประชามติผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งต้องเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนเสียงที่ไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องประชามติ ถ้านับตรงนี้คือการทำประชามิตแบบชั้นครึ่ง ไม่ใช่ 2 ชั้น หรือชั้นเดียว ซึ่งตนยังไม่ตัดสินใจว่าจะยืนตามนี้หรือไม่ และเห็นว่าถ้ามีการโหวตกันในวันนี้จะเกิดการแตกหัก ดังนั้น สิ่งที่เสนอคือมีทางออกตรงกลาง แต่ถ้าวุฒิสภาจะเอาแบบ 2 ชั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะจะมีปัญหาจึงขอลดลงมาเหลือชั้นครึ่งได้หรือไม่เพื่อให้รัฐธรรมนูญออกมาศักดิ์สิทธิ์

นายนิกร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้พิจารณาองค์รวมและได้ข้อสรุปว่าการออกเสียงประชามติจะไม่เป็นแบบเดิมที่ทำมา เพราะมีการแก้ไขในหลายมาตรา ให้ประชาชนเข้าถึงมากขึ้นคือใช้การออกเสียงประชามติทางไปรษณีย์เป็นหลัก โดยมีหน่วยคูหามาเสริมเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย และในรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้แล้วว่าการลงมติทางไปรษณีย์ให้มีน้ำหนักเท่ากับเข้าคูหา ซึ่งตนได้พูดคุยบริษัทไปรษณีย์ไทยว่าปัจจุบันดำเนินการอย่างไร ซึ่งเขาให้ความเห็นว่าสามารถทำได้ดีและค่าใช้จ่ายลดลงมาก ประชาชนเข้าถึงได้มากเพราะไม่ใช่การเลือกตั้ง ดังนั้น จึงต้องฟังความคิดเห็นอีกครั้ง ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และไปรษณีย์ ว่าหากมีการออกเสียงประชามติแบบใหม่ทำได้ง่ายและประชาชนเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่ ถ้าทำได้ตนอาจจะยืนให้ทำประชามติชั้นครึ่ง เพราะเชื่อว่าคนจะออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งแน่ ทั้งนี้ ทราบว่าทางกกต.จะเดินทางไปดูงานที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งกำลังจะมีการทำประชามติประมาณวันที่ 20 พ.ย. เพื่อที่กกต.จะได้แนวคิดมาใช้กับประเทศไทย

“ดังนั้นในวันที่ 20 พ.ย. ทางกมธ.จะเชิญ​กกต.และไปรษณีย์มาคุยเรื่องนี้ โดยไม่รอกกต.ที่เดินทางไปดูงานกลับมา หากวันนั้นเราได้ข้อมูลครบเราอาจจะตัดสินใจก็ได้ หรืออาจจะขยับอีกครั้งแล้วตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าได้ข้อสรุปก่อนเปิดสภาแน่ เราจึงยังมีโอกาสได้หายใจ ถ้าหักกันวันนี้ จะต่อไปอีก 180 วัน เพราะการแก้ไขรัญธรรมนูญทำท่าจะไม่ทันปี 70 ถ้าต่อไปอีก 180 วัน ก็อาจจะเลย 72 หรือ 73 จะนานเกินไป ฉะนั้น เราจึงต้องทำให้เร็วที่สุดแม้ว่าจะไม่ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า และจากการพูดคุยในกมธ.ก็อาจจะมีการถอยอยู่บ้าง อาจจะลดลงมาจาก 2 ชั้น หรือชั้นเดียวก็มาอยู่ตรงกลางเป็นชั้นครึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจจะไปได้ดี” นายนิกร กล่าว

เมื่อถามว่า กมธ.ฝ่ายสว.เห็นด้วยกับแนวคิดการออกเสียงประชามติทางไปรษณีย์หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ทางสว. เขาก็ฟังแต่ขอรอฟังข้อมูลจากไปรษณีย์ก่อน เพราะเขาก็หวังดีกับประเทศเหมือนกัน ซึ่งฝ่ายสส.ก็เหมือนกันเพราะเรื่องแบบนี้สามารถจับมือคุยกันได้ ไม่จำเป็นต้องดับเครื่องคุย เพราะจะแตกตักกันเปล่าๆ และเวลาก็ขยายไปเรื่อยๆไม่จำเป็น ทั้งนี้ ตนมองว่าการทำประชามติ 2 ชั้นนั้น มากเกินไปและไม่มีเหตุผล และการทำประชามติแบบชั้นครึ่งทางสว.เขาก็ฟัง และที่สำคัญชัั้นครึ่งเข้ากับร่างของพรรคภูมิใจไทย

“แนวโน้มกับสว.ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะรอมชอมกันเพราะสว.เขาฟังที่เราเสนอ ซึ่งสว.ผมไม่ห่วง แต่ห่วงสส.เพราะสส.พวกมากกว่า” นายนิกร กล่าว

ด้านนายพิศิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะกมธ.ร่วมกัน เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กล่าวว่า ที่ประชุมกมธ.ยังไม่มีข้อสรุปการปรับลดหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้น ต่างฝ่ายต่างยืนยันจุดยืนตัวเอง สว.ยืนยันเจตนา รมณ์เสียงข้างมาก 2ชั้น สส.ก็ยืนยันการใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว อย่างไรก็ตามนายนิกร จำนง กมธ.ร่วมฯ เสนอทางออกใช้เสียงข้างมาก 1ชั้นครึ่งคือ มีผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเห็นชอบยึดเกณฑ์เสียงข้างมากชี้ขาด แทนการใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ โดยเสนอทำประชามติผ่านไปรษณีย์ เพื่อประหยัดต้นทุน ไม่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา จูงใจให้คนมาใช้สิทธิทำประชามติมากขึ้น ที่ประชุมกมธ.จึงมีมติเชิญตัวแทนบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มาชี้แจงต่อกมธ. วันที่ 20 พ.ย. ถึงความพร้อมหากต้องทำประชามติผ่านไปรษณีย์

“หากบริษัท ไปรษณีย์ไทย มีความพร้อมก็เป็นไปได้จะพิจารณาลดหลั่นหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้นลงมาได้บ้างหรือไม่ ถอยกันคนละก้าว อาจเหลือแค่เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นครึ่งก็เป็นได้ ขอดูความพร้อมบริษัท ไปรษณีย์ไทยก่อน แต่ถ้าจะใช้เสียงข้างมากแค่ชั้นเดียว สว.คงไม่ยอม”นายพิศิษฐ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พริษฐ์' ยันต้องแก้รธน.ทั้งฉบับ เพราะขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ระบุ หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็ว ต้องแก้รายมาตรา ว่า เป็นความเห็นของนายวิษณุ สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ 

'เพื่อไทย' เดินหน้าเต็มสูบ 'นิรโทษกรรม' งัดข้อประชามติชั้นเดียว

'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' จ่อเข็น 'กม.นิรโทษฯ' ถกพร้อมร่างอื่น พ่วงเดินหน้า 'กม.ประชามติ' แนะ 'ประธานสภาฯ-วิป' เร่งหารือแนวทาง 'แก้ รธน.' เหตุ อาจเสียเวลาเปล่า

ผลโพลสูสี คนอยากแก้ กับ ไม่อยากแก้ 'รธน.' มีใกล้เคียงกัน

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ

กมธ.ประชามติ สรุปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ชงรายงานให้ สส.-สว. ถ้าเห็นแย้งจะถูกแขวน 180 วัน

คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ นำโดย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. โฆษก กมธ., นายกฤช เอื้อวงศ์ โฆษก กมธ. และนายนิกร จำนง เลขานุการ กมธ. ร่วมกันแถลงถึงมติของกมธ.ร่วมกันฯ

สว.พันธุ์ใหม่ อ้างต่างประเทศใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำผลประชามติบิดเบือน

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ แถลงจุดยืนถึงร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ว่า ไม่ว่ามติของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ร่วมเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะออกมาเป็นอย่างไร