'สุดารัตน์' ถามนายกฯ เตรียมรับมือเศรษฐกิจปีหน้าหรือยัง ชี้แจกเงินหมื่นไม่ตอบโจทย์

20 ธ.ค.2567 - ที่รัฐสภา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงเศรษฐกิจประเทศไทยภายใต้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในปี 2568 เศรษฐกิจไทยมีปัญหาอยู่แล้ว คือหนี้ภาคครัวเรือนที่มีสูงถึง 92% และยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งก็ยังดีที่รัฐบาลมีมาตรการเรื่องการแก้หนี้เสียออกมา แต่หนี้เสียก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น จึงอยากให้รัฐบาลมองภาพรวม ว่าการแก้หนี้ภาคครัวเรือนจะต้องทำอย่างไร

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่วต่อว่า สิ่งที่สำคัญ คือ สิ่งที่รัฐบาลโดยพรรคแกนนำพูดไว้เสมอ เรื่องการเร่งสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งการเร่งสร้างรายได้ เรายังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เพราะการแจกเงินหมื่น และอาชีพขุดดินโคลนขาย ไม่ใช่การเร่งสร้างรายได้ แต่ต้องเร่งสร้างรายได้ด้วยการให้ทุน อาจจะช่วยสนับสนุน กฎหมายของพรรคไทยสร้างไทยก็ได้ คือ กฎหมายกองทุนเครดิตประชาชน ที่จะให้ทุนกับประชาชน ในอัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อให้ประชาชนสามารถตั้งตัวได้ รวมถึงการเพิ่มทักษะและการหาตลาด

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการลดรายจ่าย จะเห็นว่าวันนี้ของแพงทั้งแผ่นดิน ซึ่งเกิดจากต้นทุนพลังงานที่สูง ทั้งค่าน้ำมันและค่าไฟ ที่สูงเกินความจำเป็น รัฐบาลต้องกล้าหาญที่จะปรับโครงสร้าง ซึ่งตนสนับสนุนนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ที่บอกว่าจะทลายทุนผูกขาด และโอกาสที่จะทำให้กับประชาชน ถ้าสามารถปฏิรูปโครงสร้างพลังงานได้ จะทำให้น้ำมันลดทันที 5 บาท ค่าไฟลดทันที 1 บาท ไม่ใช่ของขวัญประชาชนที่ลดค่าไฟให้ จาก 4.18 บาท เหลือ 4.15 บาท อย่างนี้มันไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องช่วยเรื่องของเงินทุน เพื่อให้คนตั้งตัวได้ก็จะสามารถแก้หนี้ได้ถาวร โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ นี้คือปัญหาภายใน ที่ประเทศไทยต้องเผชิญ และยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น เราไม่มีศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศอื่น ผลิตสินค้าที่ล้าสมัย ที่โลกเขาไม่ต้องการแล้ว ดังนั้นการปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาและการพัฒนาฝีมือ และความรู้ในการผลิตสินค้า จึงเป็นเรื่องสำคัญ

“ปีหน้าอยากจะให้ น.ส.แพทองธาร ได้เตรียมรับมือและมีมาตรการโดยเร็ว แม้การท่องเที่ยวจะสามารถหาเงินมาชดเชยได้ แต่ก็ไม่เท่ากับการส่งออก เพราะเราจะเจอศึก 3 ด้าน คือ 1. ศึกทรัมป์ 2.0 เพราะเขาประกาศเรียบร้อยแล้วว่า อย่างไรก็ต้องขึ้นภาษีแน่กับประเทศที่ได้ดุลการค้าเขา

ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น แต่ของไทยโดนหนักเพราะลูกค้าอันดับหนึ่ง คือสหรัฐฯ ดังนั้นสินค้าของเราที่ไปสหรัฐฯมากที่สุดจะถูกขึ้นภาษี ทำให้การส่งออกทำได้ยาก อย่างนี้นายกฯ ได้เตรียมตัวเจรจากับสหรัฐฯอย่างไร เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ จะรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. และเขาจะทำนโยบายนี้ทันที

2.ตลาดใหญ่ที่เราส่งออกคือจีน แต่ทรัมป์จะขึ้นภาษีจีน ซึ่งจะทำให้สินค้าจีนไปสหรัฐยาก เขาก็ต้องส่งมาประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเจอปัญหา สินค้าต่างประเทศทะลักเข้าไทยจำนวนมาก ถ้าเราไม่มีมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เกิดความเท่าเทียมทางการแข่งขัน ระหว่างสินค้าต่างชาติที่ราคาถูกกับสินค้าไทย เราก็ต้องช่วยให้มีความสมดุลในการแข่งขัน และเราจะเจอสินค้าไทยไปจีนยากขึ้น และ3. เราเจอยุโรป ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าวันนี้ตนยังไม่เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องนโยบายพลังงานทดแทน พลังงานสีเขียว ซึ่งมีความสำคัญมาก ถ้าเรายังผลิตพลังงาน โดยใช้ พลังงานฟอสซิล นอกจากราคาสูงแล้วเขาจะขึ้นกำแพงภาษีเรา ทำให้เราส่งออกไม่ได้อีก จึงอยากถามว่านางสาวแพทองธาร ได้เตรียมการเหล่านี้เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ผู้ประกอบการชาวไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้เขามั่นใจได้อย่างไรว่า ปีหน้าเขาจะเดินต่อได้ ไม่อย่างนั้นเศรษฐกิจจะหนักกว่านี้

เมื่อถามว่าในฐานะที่พรรคไทยสร้างไทยเป็นฝ่ายค้าน ในการอภิปรายในปี 68 ได้จองกฐินกระทรวงไหนไว้หรือยัง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ต้นเดือนมกราคม 68 เราจะมีการหารือร่วมกัน แม้จะมีการหารือกันไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.แต่เวลาพูดคุยกันน้อย จึงจะต้องมีการหารือกันหลังปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่ตนขออนุญาตที่จะไม่เสียมารยาทพูดก่อน ขอพูดพร้อมกันหลังจากที่มีมติของฝ่ายค้านแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลอัดฉีดแพ็กเกจใหญ่ เพิ่มสภาพคล่อง SME มาตรการสินเชื่อ-คืนภาษี วงเงิน 3.27 แสนล้าน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบมาตรการ “Quick Big Win เพื่อ SMEs ไทย

คุณหญิงสุดารัตน์ วิงวอน ‘โปรดใช้หัวใจฟังความทุกข์ที่แสนสาหัสของพี่น้อง’

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่ ม.อ. สงขลานครินทร์ ฟังความเจ็บปวดผู้อพยพกว่า 9,000 ราย หลายคนติดหลังคา-แช่น้ำนานหลายวัน เล่านาทีเอาชีวิตรอด วอนนายกฯ เร่งเยียวยาตามความเสียหายจริง

นักวิชาการชี้ เศรษฐกิจไทยถดถอยทางเทคนิคแล้ว แนะยังไม่เหมาะสมขึ้น VAT

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

นักวิชาการ มธ. เชื่อ ‘จีดีพี Q4’ 1.1% ไม่เกินจริง หนุนรัฐปูพรมถก FTA ดันส่งออก  

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เชื่อมีความเป็นไปได้ที่จีดีพีไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 1.1% ชี้แม้ไม่บรรลุผลเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

มวยไทยมาสเตอร์ฯปิดที่ออสเตรเลีย ภาพรวมตลอดปีทะลุเป้า มูลค่าเศรษฐกิจไทย 3,200ล้าน

ปิดฉากโครงการ "มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025" ที่ออสเตรเลีย ชาวออสซี่ให้ความสนใจฝึกมวยไทยกับ 3 นักชกดัง แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม, เพชรมั่งคง เพชรเฟอร์กัส และ นำศักดิ์น้อย ยุทธการกำธร เผยภาพรวมปี 2568 รวม 10 ประเทศที่จัดงานสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทยกว่า 3,200 ล้านบาท