‘โฆษก ปชป.’ ชี้ไทยจำเป็นใช้ไม้แข็งจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เจนจิรา “โฆษก ปชป.” ชี้ไทยจำเป็นใช้มาตรการเด็ดขาดกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวัง ปท.เพื่อนบ้านช่วยอำนวยความสะดวก จี้หน่วยงานรัฐต้องกดดันต่อเนื่อง

9 ก.พ.2568 ผศ. ดร.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลไทยที่สั่งตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ และงดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงใน 5 จุดชายแดนเมียนมา โดยระบุว่าเป็นมาตรการจำเป็นเพื่อสกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้พื้นที่ฝั่งเมียนมาเป็นฐานปฏิบัติการ แม้จะส่งผลต่อแก๊งอาชญากรรมน้อยเพราะคงจะเตรียมสำรองทรัพยากรไว้อยู่แล้ว แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า แม้ไทยและเมียนมาจะมีพรมแดนติดต่อกันกว่า 2,000 กิโลเมตร และมีความสัมพันธ์ที่พึ่งพาอาศัยกัน แต่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนไทยมายาวนานควรได้รับการจัดการโดยภาครัฐอย่างจริงจัง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์บ้าง แต่ในสายตาของคนไทยถือเป็นความสำคัญอันดับแรกของรัฐบาล

“นี่คือปัญหาระดับชาติ คนไทยทั้งประเทศได้รับผลกระทบจากการหลอกลวงของขบวนการเหล่านี้ มาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว และที่ผ่านมาทั้งฝ่ายการเมืองและราชการ ต่างรู้ดีว่ามีอาชญากรข้ามชาติ มาประกอบ ธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว แต่ไม่มีมาตรการเด็ดขาด มีแต่มาตรการติดตามหลังถูกหลอกลวง มาตรการส่งเสริมความรู้ให้กลุ่มเสี่ยง แต่มาตรการจัดการต้นทางยังไม่เคยเห็น วันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องเอาจริงเอาจัง หลังมีมาตรการเริ่มตัดไฟ ฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ต ควรมีมาตรการอื่นตามมา เพื่อกดดันให้อาชญากร ดำเนินงานต่อไม่ได้ ” ดร.เจนจิรา กล่าว

ดร.เจนจิรา ยังระบุว่า จนถึงวันนี้ คนไทยยังมีข้อสงสัยที่เก็บไว้ในใจ ว่าภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาตินี้ด้วยหรือไม่ ถึงไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลย ดังนั้น เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเอง และการรักษาภาพลักษณ์ของหน่วยงานที่สังกัด ก็ควรเร่งออกมาตรการ เพื่อกวาดล้างให้อาชญากรรมประเภทนี้หมดไป

สำหรับกระแสคัดค้านและแรงกดดันจากชาวเมียนมาที่ออกมาประท้วงเพื่อให้ไทยผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรายังมีความจำเป็นต้องกดดัน จนกว่าอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะปิดกิจการไป  ซึ่งก็หวังไว้เป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของเราด้วย ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการกำจัดขบวนการอาชญากรข้ามชาติ เชื่อว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน หากไม่จำเป็น แต่เราไม่มีทางเลือก มิฉะนั้น เราจะกลายเป็นผู้สนับสนุนอาชญากรรมข้ามชาติไปโดยปริยาย” ดร.เจนจิรา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอิเหนาร่วมมือปราบสแกมเมอร์

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือเหยื่อสแกมเมอร์ชาวอินโดนีเซียกลับประเทศ พร้อมเดินหน้าร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและต่อต้านลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย

'ประเสริฐ' แจง 'MOUดีอี-บ.สิงคโปร์' หน่วยงานกลั่นกรองตามขั้นตอน ย้ำไม่รู้จัก 'เบน สมิธ'

'ประเสริฐ' แจงตรวจสอบ ‘MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์ Prime Opportunity Fund’ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลั่นกรองตามขั้นตอนโดยละเอียด ทั้งกระทรวงดีอี-กระทรวงการต่างประเทศ-กฤษฎีกา-อัยการสูงสุด’ มั่นใจไร้สิทธิพิเศษและไม่เปิดช่องเอื้อประโยชน์ใคร ชี้เนื้อหาระบุ ‘ทุกอย่างต้องเป็นไปภายใต้กฎหมายไทย-สิ่งใดไม่มีกฎหมายรองรับจะกระทำไม่ได้ ย้ำไม่รู้จัก ‘เบน สมิท’ เป็นการส่วนตัว ร่วมเฟลมถ่ายรูปเพราะได้รับเชิญเป็นสักขีพยานเท่านั้น

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

ปชป. ขานรับกระแสดีภาคใต้ ลั่นพร้อมสร้างการเมืองสุจริต

“ประชาธิปัตย์” ขอขอบคุณ ความไว้วางใจที่คนไทยมอบให้ พร้อมสร้าง “การเมืองสุจริต” ทำงานด้วย “ความมืออาชีพ” ด้วยนโยบายที่ “ทำได้จริง” เปิดรับสมัคร สส. วันสุดท้ายของแคมเปญ “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้นะ”