ดร.ณัฏฐ์ ชี้ 'มวยล้มต้มคนดู' ข้อหาสมคบฟอกเงิน เป็นอำนาจของ DSI ไม่ต้องผ่านบอร์ดคดีพิเศษ

'ดร.ณัฏฐ์' มือกฎหมายมหาชน ชี้ ข้อหาสมคบฟอกเงิน เป็นอำนาจดีเอสไอ ตามบัญชีท้ายอยู่แล้ว ไม่ต้องผ่านบอร์ดคดีพิเศษ แต่คดีหลัก กกต.ต้องวินิจฉัยชี้ขาดก่อน ทุจริตฮั้ว สว.หรือไม่ เป็นเกมสับขาหลอก มวยล้มต้มคนดู

6 มีนาคม 2568 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน กล่าวว่า ตามที่ประชุมบอร์ดกรมสอบสวนคดีพิเศษเห็นชอบรับเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เนื่องจากเป็นความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้วิธีสืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ

โดยฝ่ายเลขาคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เสนอต่อที่ประชุมว่า กรณีเป็นข้อสงสัยว่าทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้มีมูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาท จึงเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดตามนัย ข้อ 6 ของประกาศ กคพ. ฉบับที่ 8 ข้อ 6 เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งหรือสงสัยว่าจะเป็นการกระทำผิดใดตามบัญชีท้ายประกาศเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ให้ กคพ. เป็นผู้ชี้ขาด โดยมติที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ มีมติชี้ขาดให้ กรณีการสมคบกัน ในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคล ที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิก เมื่อ พ.ศ. 2567 ตามที่ฝ่ายเลขาเสนอมา เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรค 1 (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 นั้น

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่าตนเห็นว่า ตามบัญชีท้าย พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ข้อ 16 เป็นประเภทคดีที่ให้อำนาจของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจสอบสวนเฉพาะอยู่แล้ว กรณีให้บอร์ดกรมสอบสวนพิเศษโดยใช้มติเพียงกึ่งหนึ่ง ไม่ใช่สองในสาม มาตรา 21(2)เป็นการสับขาหลอก โดยนำข้อเท็จจริง กรณีเป็นข้อสงสัยว่าทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้มีมูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาท จึงเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดตามนัย ข้อ 6 ของประกาศ กคพ. ฉบับที่ 8 ข้อ 6 เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ มาเป็นข้ออ้างผ่านบอร์ดคดีพิเศษ แม้ไม่ผ่านบอร์ดคดีพิเศษ กฎหมายให้อำนาจรับทำคดีได้อยู่แล้ว

หากพิจารณาข้อกล่าวหา ในข้อหาหลัก ประเด็นว่า กรณีกลุ่ม 138 สว.กับพวกกระทำผิดทุจริตเลือก สว.ในปี 2567 หรือไม่ เป็นอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดของ กกต.โดยเป็นตัวชี้ขาดว่า กระทำผิดตาม พรป.สว.หรือไม่ เพราะกระทำความผิด มาตรา 77(1) พรป.สว.ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานฟอกเงินไปในตัว ดังนั้น หากกกต.ยังไม่ชี้ขาดว่า มีการฝ่าฝืนกระทำผิดตาม พรป.สว.มาตรา 77(1) หรือไม่ กลุ่ม สว.กับพวก ย่อมยกขึ้นต่อสู้ในชั้นสอบสวนได้ว่า กกต.ยังไม่ชี้ขาดว่ามีการกระทำความผิดตาม พรป.สว.มาตรา 77(1) เพราะกระทบต่ออำนาจฟ้องของพนักงานอัยการ

"ดังนั้นแม้บอร์ดคณะกรรมการสอบสวนพิเศษมีมติฝ่ากองไฟ ยังไม่กระทบต่อสถานภาพสิทธิของกลุ่ม สว.138 กับพวก เพราะ ต้องรอสำนวน กกต.ชี้ขาดก่อน เป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะเพียง กกต.ยืนยันว่ากรณีฮั้ว สว.เป็นอำนาจหลักของ กกต.และดึงสำนวนไปทำเอง ถือว่า เกมปมฮั้ว สว.มันจบแล้ว" ดร.ณัฐวุฒิ กล่าว

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนที่บอร์ดกรมสอบสวนคดีพิเศษรับทำคดีสมคบฟอกเงิน นั้น โดยเอาตัวเลข 300 ล้านขึ้นไปเป็นตัวตั้ง เป็นการแก้เก้อ เพราะความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน เป็นอำนาจเฉพาะ พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้ว ไม่จำต้องนำเข้าบอร์ดคดีพิเศษ เท่าที่ดู สีน้ำเงินชนะเกมนี้ ตั้งแต่ นายแสวง บุญมี แถลงว่า เป็นอำนาจของ กกต.

ส่วนความผิดอาญาฐานอื่น ไม่ใช่อำนาจของ กกต. แต่จะต้องรับฟังพยานหลักฐานในคดีทุจริต สว.ว่ากระทำผิดตาม พรป.สว.หรือไม่ เป็นเงื่อนไขบังคับก่อน ถึงจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดี

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ในมิติทางกฎหมาย พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถสอบสวนในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคล ที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิก เมื่อ พ.ศ. 2567 ก็ตาม แต่จะมีอำนาจฟ้องหรือไม่ ต้องรอสำนวนคดีทุจริต สว.ของ กกต.เป็นผู้ชี้ขาด

หากกกต.วินิจฉัยว่า กลุ่ม สว.138 กับพวก ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา หรือไม่มีพยานหลักฐานให้เพียงพอ กลุ่ม สว.138 กับพวกไม่ได้กระทำตามข้อกล่าวหา โดย กกต.ยกคำร้อง ในคดีที่บอร์ดคดีพิเศษ รับสอบสวนคดีสมคบกันฟอกเงินแม้ให้พนักงานอัยการร่วมสอบสวน ย่อมสั่งไม่ฟ้องหรือยุติดำเนินคดีเช่นกัน เพราะเนื้อหาในสำนวนหลักอยู่ที่ กกต. จะวินิจฉัยชี้ขาดไปในแนวทางใด เกมนี้ กลุ่มสว.สีน้ำเงินได้เปรียบ เกมการเมือง เป็นมวยล้มต้มคนดู

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต. ขึงขัง! สกัดขายฝัน 'ประชานิยม' ตั้ง คกก.คุมเข้มนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง 69

กกต.ลั่นคุมเข้มนโยบายประชานิยมหาเสียง ตั้ง คกก.ตรวจสอบเงินที่ใช้-วิเคราะห์ผลกระทบ ชี้ชัดอินฟลู-ยูทูปเบอร์ สมัคร สส.ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ไม่เป็นเจ้าของ-ถือหุ้นสื่อ เป็นผู้ใช้สื่อ

ครม. เห็นชอบงบเลือกตั้ง-ทำประชามติ 8,978 ล้าน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป

ทะลุ 2 แสนคน แห่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า-นอกราชอาณาจักร

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่สองของการเปิดให้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า พบว่า มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

'กกต.กทม.' พร้อมรับสมัคร สส. 33 เขต เร่งแก้ระบบลงทะเบียนล่วงหน้า หลังพบ ปชช. เกิดปัญหา

กกต.กทม.เผย ความพร้อมรับสมัครผู้สมัคร 33 เขต เร่งแก้ไขระบบลงทะเบียนล่วงหน้าหลังพบ ปชช.บางส่วนลงทะเบียนไม่ได้เหตุสมาร์ทโฟนบางรุ่นไม่รองรับ อนุญาตใช้รถแห่แต่ห้ามจัดมหรสพ–การรื่นเริง แจ้งชัดติดป้ายผิดที่มีสิทธิถูกรื้อถอนพร้อมเรียกค่าใช้จ่าย เตือนประชาชนเผื่อเวลาใช้สิทธิ 2 ขั้นตอน ห่วงฝนกระทบคิวหน่วยเลือกตั้ง มั่นใจบริหารจัดการได้–คาดผู้มาใช้สิทธิเพิ่มจากครั้งก่อน

'รมว.ยธ' โยนถาม DSI สอบปม MOU บ.สแกนม่านตา หลังอดีตปลัดดีอีให้การฝ่ายการเมืองสั่ง

รมว.ยุติธรรม โยนถาม ดีเอสไอ หลังเรียก สอบปม MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา หลังอดีตปลัดดีอีให้การ ฝ่ายการเมืองสั่ง ยํ้า เรื่องนี้น่าเป็นห่วง เพราะกระทบ ปชช.หลายคน

'ไชยชนก' แย้ม 'DSI' มีข้อมูลโยง 2 นักการเมือง ปม MOU บ.สแกนม่านตา

'ไชยชนก' ชี้หน้าที่ 'ดีเอสไอ' สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา โยงฟอกเงินดิจิทัล