แฟ้มภาพ
'ช่อ พรรณิการ์' เผยติดตามการซักซ้อมซักฟอกของพรรคประชาชน มั่นใจอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ทีเด็ดอยู่วันที่สอง ประเด็นหลักพุ่งเป้าไปที่ตัว 'แพทองธาร' โดยตรง เย้ยเพื่อไทยตั้ง 'องครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับ' ทั้งที่หน้าที่นี้เป็นของประธานสภาฯ ลั่นอยากปกป้องนายกฯ ก็บอกมาตรงๆ
22 มีนาคม 2568 - ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาชน ภายใต้รัฐธรรมนูญมาตรา 151 โดยระบุว่าการอภิปรายครั้งนี้เตรียมการกันอย่างหนัก และไม่ควรตีตนไปก่อนไข้ว่าเนื้อหาจะมุ่งเน้นที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เท่านั้น เพราะของจริงอาจหนักกว่าที่หลายคนคาดคิด
น.ส.พรรณิการ์ เปิดเผยว่า ทีเด็ดของการอภิปรายครั้งนี้จะอยู่ในวันที่สอง ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวนายกรัฐมนตรี โดยพิจารณาจากคำให้สัมภาษณ์ของนายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ที่ระบุว่านายกฯ จะต้องตอบด้วยตัวเองในหลายประเด็น เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัว
เมื่อถูกถามว่า การที่ฝ่ายค้านมุ่งเน้นที่นายทักษิณเป็นเพียงการสับขาหลอกหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ตอบชัดว่า “ถูกต้อง”
น.ส.พรรณิการ์ ยังระบุว่า จากการที่ตนทำงานในอาคารเดียวกันกับพรรคประชาชน ได้ติดตามการซักซ้อมอภิปราย พบว่ามีการเตรียมการกันอย่างหนักไม่แพ้ครั้งที่ผ่านมา โดยเนื้อหาในวันแรกจะเป็นการอภิปรายเชิงนโยบาย ส่วนวันที่สองจะเป็นช่วงทีเด็ดที่เกี่ยวข้องกับตัวนายกรัฐมนตรีโดยตรง สำหรับลำดับผู้อภิปราย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดวาง และอาจจะไม่ให้ผู้อภิปรายคนสำคัญไปอยู่ในช่วงเวลาดึกอย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้
เมื่อถูกถามถึง “ดีลแลกประเทศ” น.ส.พรรณิการ์ระบุว่า วาทกรรมเหล่านี้จะไม่เป็นที่พูดถึง หากไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหรือความรู้สึกของประชาชน พร้อมตั้งคำถามกลับว่า ดีลที่ทำให้ทักษิณกลับไทยโดยไม่ติดคุกเลย เป็นแค่เรื่องพ่อกลับบ้านจริงหรือ
สำหรับการกำหนดเวลาอภิปรายที่ลากยาวถึงรุ่งเช้า น.ส.พรรณิการ์ยืนยันว่า ต้นตอเกิดจากพรรครัฐบาลที่จำกัดเวลาให้เหลือเพียง 2 วัน ทำให้ฝ่ายค้านต้องอัดเนื้อหากว่า 20 เรื่องเข้าไปในกรอบเวลานี้ พร้อมตั้งคำถามกลับว่า หากรัฐบาลบริสุทธิ์ใจ ทำไมไม่ให้เวลาอภิปรายอย่างเต็มที่
เมื่อถูกถามถึงบทบาทของ “องครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับ” ที่ถูกตั้งขึ้นมาคอยสกัดฝ่ายค้าน น.ส.พรรณิการ์ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าอยากพิทักษ์นายกฯ ก็พูดไปเลย ไม่ต้องเหนียม” เพราะปกติแล้วหน้าที่ควบคุมการอภิปรายเป็นของประธานสภาฯ ไม่ใช่องครักษ์รัฐบาล พร้อมเหน็บแรงว่าหากต้องการปกป้องข้อบังคับจริง ๆ ก็คงต้องไล่ประธานสภาฯ ลงจากบัลลังก์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม
กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ
🛑LIVE ผู้คุมเกมไร้หลัก โลกไร้ระเบียบ..! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พรรคส้มกลับลำ ดัน 'เท่าพิภพ' เสียบแทน อดีตผู้สมัครสส.สีเทา ชิงเก้าอี้เขตบางพลัด-บางกอกน้อย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีตสส.พรรคประชาชน โพสต์ภารกิจฟื้นความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อพรรคสำคัญที่สุด พร้อมกลับมารับใช้คนกรุงเทพ
'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน
‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ
พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (32)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
ปชน. ยันตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างดี ชี้ 'บุญฤทธิ์' โดนหมายจับหลังตรวจเสร็จ
พรรคประชาชนแถลงขอโทษประชาชน-เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. หลังพบถูกออกหมายจับคดีฟอกเงิน

