รัฐบาลเข็นกาสิโนเข้าสภาฯ 9 เม.ย. อ้างต้องหาเงิน เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ-คนพิการ

ประธานวิปรัฐบาล เผยร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรเข้าสภาฯ 9 เม.ย.นี้ ไม่หวั่นม็อบชุมนุมคัดค้าน ส่วนพรรคประชาชาติไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร เชื่อทำความเข้าใจกันได้ ชี้เป็นอีกทางเลือกสำหรับหาเงินเข้าประเทศเผื่อไว้เพิ่มเงินผู้สูงอายุ-คนพิการ

31 มีนาคม 2568 - นายวิสุทธิ์ ไชณยรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯได้เมื่อไหร่ ว่า วิปรัฐบาลจะพิจารณาเรื่องนี้โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง เพื่อทำความเข้าใจกับวิปรัฐบาลก่อน และหลังจากนั้นประมาณวันที่ 3 เม.ย. จะขอสภาฯบรรจุในระเบียบวาระวันที่ 9 เม.ย. คิดว่าไม่เร็วเกินไป เป็นเวลาที่พอดีเพราะเรื่องนี้ได้พิจารณามานานแล้ว ไม่ใช่เร่งด่วนอะไร และตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ก็เคยมีการพิจารณา และเมื่อมาสภาฯชุดปัจจุบัน ก็พิจารณาไปแล้วประมาณปีเศษ​โดยมีการศึกษาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอย่างที่ใครเขาว่า

”ถ้าตัดสินใจจะทำอะไรก็ต้องทำ ถ้าไม่ตัดสินใจ หรือเป็นการตัดสินใจที่ช้าก็ไม่ได้ทำ ทุกอย่างต้องรอบคอบ สภาฯจะเป็นที่พิสูจน์ได้ว่าเรื่องไหนที่สำคัญ เมื่อเข้าที่ประชุมแล้วก็ให้สส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้อภิปรายเต็มที่ และพี่น้องประชาชนก็รับฟังว่าข้อมูล และสิ่งสำคัญที่รัฐบาลนำเสนอ โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นจะเป็นประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ “นายวิสุทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ในการพิจารณาจะใช้ร่างของครม.อย่างเดียวหรือพรรคการเมืองจะมีร่างประกบเข้ามาด้วย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีร่างของพรรคการเมืองหรือไม่ จึงน่าจะใช้ร่างของครม. และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งการพิจารณาในวันที่ 9 เม.ย. นี้ จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อให้กรรมาธิการพิจารณาในช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ที่สุด

ส่วนที่สส.พรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นมุสลิมไม่เห็นด้วยกับการมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เขาอาจจะมีความกังวล เพราะพรรคประชาชาติเป็นพรรคของพี่น้องชาวมุสลิม ซึ่งเราเข้าใจ แต่คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะสุดท้ายคงมีการเจรจากัน เราเชื่อมั่นว่าเสียงรัฐบาลพออยู่แล้วไม่น่ากังวล ไม่ต้องไปวิ่งหาเสียงที่อื่น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะชี้แจงได้ และทุกคนจะเห็นประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง ฉะนั้น เมื่อนำเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯก็มีความจำเป็น เพราะประเทศเราต้องหาเงิน รัฐบาลก็ต้องหาตังค์​ ซึ่งหลายโครงการก็อยากได้และอยากให้ดูแล

“อย่างผมกลับไปบ้าน ซึ่งอยู่ชนบทผู้สูงอายุก็อยากให้เพิ่มเงินผู้สูงอายุให้มากขึ้น คนพิการก็อยากได้มากขึ้น ฉะนั้น ที่จะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็ต้องดูว่ารัฐบาลจะหาเงินมาจากที่ไหน ฉะนั้น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็เป็นอีกทางหนึ่ง จึงอย่าไปกังวล หลายคนก็อธิบายจนผิด คิดว่าเปิดบ่อนการพนันเสรี อันนี้ไม่จริง เพราะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นสถานบันเทิงครบวงจรที่ต้องทำและมีการพนันไม่เกิน 10 เปอร์เซนต์ และไม่ได้มีทุกจังหวัด เราก็ต้องชี้แจง

แต่หลายคนไปตีข่าวใหญ่โตว่าเปิดทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ซึ่งเกินความจริง แต่คงมี 2-3 ที่ในประเทศนี้ ที่มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามา และไม่ใช่ว่าใครอยากเดินเข้าไปเล่นการพนันก็ได้ ที่ผมไปเห็นมาเขาตรวจบัตรสารพัด ถ้าครอบครัวหนึ่งไปเล่น ลูกหรือพ่อแม่ไม่พอใจแล้วไปแจ้ง เขาก็ไม่ให้เข้า นักการเมืองเขาก็ไม่ให้เข้าเพราะกลัวจะไปฟอกเงิน ดังนั้น จะพูดต้องพูดให้ครบ และสิ่งที่อยู่ใต้ดินทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้ว บ่อนการพนันมีให้เห็นตั้งแต่จำความได้ ทำไมไม่ทำให้ถูกกฎหมายแล้วเก็บภาษีมาใช้ให้เกิดประโยชน์” นายวิสุทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องรีบเร่งผลักดันกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะยังไม่มีการทำรายงานศึกษา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่พูดเช่นนี้ไม่จริง เป็นการตั้งข้อสังเกตผิดๆ เพราะเรามีการตั้งคณะกรรมการไปศึกษาเรื่องนี้ และในสภาฯก็มีผลการศึกษาหมดแล้ว ไปเปิดดูในเว็บไซต์ของสภาฯได้ ดังนั้น ขอให้ฟังข้อเท็จจริงไม่ใช่ตั้งเป้ากล่าวหา และย้ำว่ามีการศึกษาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว ที่คิดจะทำ และไม่ใช่เมื่อกฎหมายนี้ผ่านจะสร้างได้เลย เพราะต้องใช้เวลา รัฐบาลนี้อาจยังไม่ได้สร้างด้วยซ้ำไป แต่การออกกฎหมายมาก่อนเพื่อรองรับเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการวางแผนในอนาคต ถ้าคิดช้าทำช้า ประเทศชาติก็ไม่ไปไหน

เมื่อถามว่ามีการเสนอว่าให้ทำประชามติในเรื่องนี้ก่อน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า กฎหมายประชามติยังไม่มี ซึ่งเราก็รออยู่ ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ให้สส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชน มาแสดงความคิดเห็นแล้วประชาชนก็ติดตามดูได้ ถ้าไปทำประชามติในแต่ละเรื่องก็ต้องเสียเงิน 2-3 พันล้านบาท ตนไม่เห็นด้วย ถ้าเช่นนั้นต่อไปทุกเรื่องต้องทำประชามติหมดทุกอย่าง เป็นเรื่องที่ลำบาก และของเราก็ต้องทำให้ชัด เหมือนประเทศสิงค์โปรที่เป็นมาตรฐานแต่ไม่จำเป็นต้องไปเลียนแบบประเทศอื่น อันไหนดีก็เอามาอยู่ในข้อปฏิบัติให้ชัด ดังนั้น อย่าไปกังวล เชื่อว่ารัฐบาลคิดเรื่องนี้แล้ว และสภาฯต้องมาถกกันว่าจะทำอย่างไรให้ปลอดภัยกับประชาชนและคนที่ติดการพนัน ซึ่งต้องมีระเบียบ

เมื่อถามว่าขณะนี้มีม็อบมาคัดค้านเรื่องนี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่เห็นด้วยก็คัดค้านไป ม็อบมาก็ยินดี สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะประเทศนี้เป็นประเทศประชาธิปไตย อย่าให้เห็นเหมือนกันทั้งหมด ต้องมีคนคัดค้านบ้าง แต่ไม่ใช่ข้อกังวลที่เราทำอะไรไม่ได้เลย จึงไม่กังวลอะไร ถ้ากลัวก็ไม่ทำ ทำแล้วไม่กลัวแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

'ชลน่าน' คาดถกแก้ รธน. วาระสอง ใช้เวลา 2 วันพอ แม้มีประเด็นให้เถียงกันหนัก

“ชลน่าน” ประเมิน ถกแก้รธน.วาระสอง 2 วันเพียงพอ แม้มีรายละเอียดมาก- ถกกันหนัก แต่ยุติด้วยเสียงข้างมาก เผยสงวนความเห็นไปสู้ในรัฐสภา ทวงคืน “สสร.- โละสูตร20 หยิบ1

ครม. เห็นชอบ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญ 10-11 ธ.ค. ลุยแก้ รธน. ให้เสร็จทันสิ้นปี

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกสมัยประชุมวิสามัญ รัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และวาระ 3

'ภราดร' ชงสภาฯ เปิดประชุมวิสามัญ 8-10 ธ.ค. เร่งแก้ รธน. หวังวาระ 3 จบก่อนปีใหม่

“ภราดร” ชง สภา เปิดวิสามัญ 8-10 ธ.ค. พิจารณาแก้ รธน. หวังโหวตวาระ 3 เสร็จก่อนปีใหม่ มีเวลาให้ กกต. ทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง ยํ้า กมธ.เห็นพ้อง หาทางรอดคำวินิจฉัยศาล เล็งสูตรคนละครึ่ง สมัครก่อน ให้สภาจับกลุ่มเคาะ เลี่ยงเข้าคูหาโดยตรง

‘วิสุทธิ์’ โยน ‘จุลพันธ์’ คุยปชน.ยื่นซักฟอกร่วม พท.ด้วยหรือไม่

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกันเพิ่มมากขึ้นหรือไม่