"อนุทิน" แจงยิบเบื้องหลังหลัง นายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมฯ มีมติเอกฉันท์เลื่อนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสภาฯ ชี้มีเรื่องอื่นสำคัญกว่า พร้อมยอมรับ รัฐบาลยังสื่อสารไม่ดีพอ
8 เมษายน 2568 - เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ว่า หลังการประชุมครม. ท่านนายกฯขอหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ซึ่งคิดว่านายกฯมีในใจอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลต้องฟังทุกฝ่ายตามที่นายกฯได้ให้สัมภาษณ์เมื่อสักครู่นี้ รัฐบาลไม่ได้จะฟังเฉพาะคนที่พูดแล้วเป็นไปในแนวทางเดียวกับรัฐบาลเท่านั้น แต่คนเห็นต่างก็ต้องฟังทั้งหมด เพราะเราเป็นรัฐบาลเลือกที่จะห่วงใย และให้ความสำคัญกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้
เมื่อถามว่า เป็นเพราะมีกระแสคัดค้านเยอะหรือไม่ จึงออกมาเลื่อนการพิจารณาไปก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า มันมีเหตุมีผลของมันอยู่ ตนได้บอกกับนายกฯว่าร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์มันผ่าน ครม.ไปแล้ว ก็ต้องถือว่าคือร่างของรัฐบาล มีความสำคัญ และเข้าสภาแล้ว ผ่านที่ประชุมวิปแล้วแต่ปรากฏว่า ตอนที่ผ่านการพิจารณายังไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว และมีฝ่ายค้านเสนอให้พิจารณาเรื่องการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซึ่งขณะนั้นฝ่ายรัฐบาล แม้แต่ตนเอง ก็ยืนยันแล้วว่าจะดูแลประชาชน ทั้งการบริหารสถานการณ์ และการเยียวยาประชาชน ทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องเราให้ความสำคัญสูงสุด ฉะนั้น ร่างฉบับนี้ก็น่าจะให้ผ่านเข้าไปสู่ญัตติการประชุมสภาได้ และเมื่อผ่านไปแล้วเราก็รับฟัง เพราะเราคิดว่ากรณีแผ่นดินไหวเราก็ทำงานอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น 2 วัน กลับมีเรื่องมาตรการภาษีจากสหรัฐอเมริกาออกมา ซึ่งเรารับทราบว่าทางฝ่ายค้าน และรัฐบาล ห่วงใยเรื่องนี้มาก อยากที่จะเสนอญัตตินี้เข้าไปในสภา ซึ่งเมื่อเสนอก็ต้องมีการเลื่อนการพิจารณาขึ้นมา หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็เห็นด้วย เพราะต้องยอมรับว่าทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และปากท้องประชาชน ที่สำคัญเป็นเรื่องของการส่งออกของไทย เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะไม่ให้เลื่อนก็จะถูกตีความได้ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ จึงมีความเห็นพ้องกัน
นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความเห็นเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ออกมามากขึ้นทั้งจากสว. อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 50 คน กลุ่มแพทย์ จุฬาราชมนตรี ซึ่งมันเริ่มเยอะแล้ว นายกฯจึงบอกว่าหรือเรายังไปอธิบายให้คนเหล่านี้ไม่ดีพอ ความจริงแล้วเรื่องนี้มันคือเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เป็นหลักกาสิโนเป็นรอง แต่ไปๆมาๆกลายเป็นว่าคาสิโนกลายเป็นหลักแล้ว แสดงว่ารัฐบาลยังสื่อสารไม่ดีพอ และไม่ครบถ้วน และยังเรื่องของประธานาธิบดีสหรัฐฯเข้ามาอีก ดังนั้น จึงเห็นตรงกันว่าเอาเรื่องปากท้องของประชาชนมาก่อนดีกว่า จึงเป็นที่มาของการแถลงข่าวหลังการประชุมครม.ของนายกฯ ในวันนี้ (8 เม.ย.)
เมื่อถามว่า เสียงของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเอกฉันท์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเอกฉันท์ ซึ่งหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนเห็นด้วย และยินดีที่จะให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องมาตรการภาษีขึ้นมาก่อน เพราะเราก็ทราบว่ามีการเตรียมการในการเลื่อน เกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ต่อประเทศไทยขึ้นหารือในที่ประชุมสภา เพราะทุกคนก็เห็นว่ามันสำคัญเนื่องจากส่งผลกระทบวงกว้างจริงๆ
เมื่อถามว่าร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์รอเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุมสภาในสมัยประชุมหน้าใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ร่างนี้ยังคงค้างอยู่ ซึ่งจะเป็นคิวต่อไปที่จะพิจารณา แต่เนื่องจากสภาจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ก็ต้องเลื่อนไป
เมื่อถามย้ำว่า หากสมัยประชุมหน้ายังมีความคิดเห็นคัดค้านกันอยู่แบบนี้จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าของเรื่อง ทั้งกระทรวงการคลังหรือรัฐบาล ที่จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากที่สุด
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ในร่างนี้จะตัดกาสิโนออก นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่กฎหมายของกระทรวงมหาดไทย และมันผ่านไปแล้วจุดนั้นไปแล้ว ถ้าจะปรับปรุงอะไรใหม่ก็ต้องเสนอกลับมาใหม่ ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สภาแล้ว
นายอนุทิน ย้ำด้วยว่า ที่นายกฯพูดเรื่องนี้เป็นการพูดในสองสถานะ คือ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างไรต่อร่างพระราชบัญญัติเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า มันผ่านครม.หรือยัง ผ่านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือยัง ตนก็นั่งอยู่ในครม. ซึ่งมันก็เป็นไปตามกระบวนการ ทุกคนก็ต้องเห็นพ้องต้องกันหมดก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลต่อการจัดทำกฎหมายพนันออนไลน์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ซึ่งปกติจะมีคณะกรรมการร่างกฎหมายนี้อยู่ ตรงไหนต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ให้ดีขึ้นคณะกรรมการก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่จะเร่งดำเนินการในช่วงนี้ เพื่อลดความกังวลของประชาชนก็คือกฎหมายลงโทษการพนันที่ไม่ถูกต้อง คือพ.ร.บ.การพนันฉบับแก้ไข ที่ก่อนหน้านี้ถ้ามีบ่อนมีอะไรก็จะปรับ และตักเตือน แต่ตามร่างใหม่จะจำคุกลูกเดียว รวมถึงยึดทรัพย์ด้วย ซึ่งจะทำให้ความกังวลของประชาชนลดลง ดังนั้น อะไรก็ตามที่เป็นการพนันที่ผิดกฎหมายจะต้องทำกฏหมายให้แรงขึ้น ซึ่งเราจะใช้ช่วงเวลานี้ผลักดันกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้การจัดระเบียบสังคมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้มากที่สุด โดยกฎหมายฉบับนี้มีการเสนอสู่วาระของครม.แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอการของครม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


