จบข่าว! เลขาฯพท.ไม่กดดัน ภท. ปม 'ไชยชนก' ขอโทษแล้วถือว่าจบ สองพรรคจับมือกันยาว

'สรวงศ์' ระบุ ไม่ต้องถึงขั้นกดดันให้ 'ภูมิใจไทย' แสดงสปิริตปม 'ไชยชนก' ขอโทษแล้วถือว่าจบ ปล่อยให้ภท.คุยกันภายใน ย้ำ มติพรรคสำคัญ ส่วนกระทบปรับครม.หรือไม่ เป็นอำนาจนายกฯ ยัน สองพรรคจับมือยาวๆ

11 เม.ย.2568 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์​ เทียนทอง​ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีย์รัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาไม่เห็นด้วยดับกาสิโน​ ว่า​ อย่างที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูลล​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพูด ว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของนายไชยชนก และจะมีการพูดกันภายในพรรคภูมิใจไทย โดยให้ทางพรรคเขาพูดคุยกันเอง ซึ่งตนก็สบายใจที่นายอนุทินออกมาพูดว่าสิ่งที่นายไชยชนกพูดไม่ใช่มติพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่คนที่พูดเป็นถึงเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นรองแค่หัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ยังเป็นรองกว่าหัวหน้าพรรค​ ตนฟังหัวหน้าพรรค เมื่อถามว่า ไม่จำเป็นต้องมาเคลียร์กันอีกครั้งใช่หรือไม่ นายสรวงศ์​ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะการพูดในสภาเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. และสิ่งที่นายไชยชนกพูดก็เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ แต่ท่านอาจมีความกดดัน หรือเป็นความคิดส่วนตัวที่ไม่สนับสนุน แต่อย่างที่บอกต้องมีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า จะต้องมีการยื่นคำขาดไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า การอยู่ร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างพรรค​การเมือง​ ความคิดอาจไม่ได้เห็นเหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วต้องมีการพูดคุยกัน และไปในแนวทางเดียวกัน เมื่อถามย้ำว่า จะต้องมีการกดดันให้พรรคภูมิใจไทยแสดงสปิริตหรือไม่ นายสรวงศ์​ กล่าวว่า ไม่ต้องถึงขนาดนั้น ซึ่งเหมือนพรรคเพื่อไทยเองที่มีสมาชิกบางคนออกไปแสดงความคิดเห็น ถือเป็นเอกสิทธิ์ อาจจะเป็นสิ่งที่อยู่ในใจหรือความคิดเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความเป็นพรรคการเมืองแล้วมติพรรคสำคัญ

เมื่อถามถึงกรณีสมาชิกพรรคบางคนในพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายสรวงศ์​ กล่าวว่า ไม่หรอกครับ การอยู่ร่วมกันต้องคุยกัน​ อย่างที่บอกบางท่านอาจจะมีความคิดเห็นว่า เมื่อไม่อยากอยู่ก็ออกไปเลย แต่ด้วยเสถียรภาพของรัฐบาล อย่างไรเราต้องอยู่ด้วยกัน ย้ำว่าจะต้องมีการพูดคุยกันมากกว่า เมื่อถามอีกว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เมื่อพรรคภูมิใจไทยขอโทษ แล้วถือว่าจบหรือไม่ นายสรวงศ์​ กล่าวว่า​ ท่านหัวหน้าพรรคบอกจบ​ ก็คือจบ​

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนกระทรวงหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ เนื่องจากเป็นอำนาจของนายกฯ

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยจะจับมือกันยาวๆ หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า "ถ้าอย่างที่นายกฯและหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้สัมภาษณ์ร่วมกัน ก็ใช่ครับ" เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ทั้งนายพิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง​ และนายพิชัย​ นริพทะพันธุ์​ รมว.พาณิชย์​ นายสรวงศ์​ กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ เพราะการปรับครม.ตนไม่ทราบ ส่วนจะปรับเร็วๆ นี้หรือไม่ ก็ไม่ทราบเช่นกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สรวงศ์ ซัด 'ไหม' ยิ่งกว่าละคร บอกไม่เห็นรัฐบาลทำผิดร้ายแรงจนต้องซักฟอก

สรวงศ์ โพสต์โต้ศิริกัญญา น่าจะอยู่คนละประเทศ หลังบอกยังไม่เห็นรัฐบาลทำผิดร้ายแรงจนต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

'เพื่อไทย' เตรียมเปิดตัวบ้านใหญ่ 'อัศวเหม'  ลุ้นทัน 7 พ.ย.นี้หรือไม่

‘เพื่อไทย’ เตรียมเปิดตัวบ้านใหญ่ ‘อัศวเหม’ ไม่แน่ใจทัน 7 พ.ย.นี้หรือไม่ ลั่น แม้ไม่คุยกับ ‘ปชน.’ ก็สามารถยื่นซักฟอกเองได้ ชี้ ต้องคำนึกถึงไทม์ไลน์-พยานหลักฐานเอาผิด บอก มีความพยายามไม่ให้เปิดวิสามัญแก้ รธน.

นายกฯถกผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก รอบที่ 1 ดันให้เปิดกว้าง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม มุ่งสู่อนาคต

นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รอบที่ 1 (Session I) ผลักดันเอเปคที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต

พท.ฟอก 'อิ๊งค์' ลาออกเพื่อไม่ถูกเป็นเครื่องมือทางการเมืองมาข่มขู่

'พท.' ประชุมด่วน 'แพทองธาร' แจ้งลาออก หน.พรรค ด้าน 'สรวงศ์' ยัน 'แพทองธาร' ยังเป็นเสาหลัก พท.สู้ศึกเลือกตั้ง มันใจ สส.ใจไม่แกว่ง

'ไชยชนก​' ลั่น​ 'รัฐบาล​-​กองทัพ' เป็นเนื้อเดียว​ ย้ำ​นโยบายทำประชามติ​ MOU​ 43​-44​

'ไชยชนก​' ลั่น​ 'รัฐบาล​ -​ กองทัพ' ทำงานเป็นเนื้อเดียว​ ย้ำ​นโยบายรัฐบาล​ ยกเลิก MOU​43​ - 44​ หรือไม่ต้องทำประชามติ​ เผย​ 'บวรศักดิ์' สั่งกต.​ศึกษาเพิ่มรับมือทุกสถานการณ์​

ถึงคิว 'พี่ศรี' ร้องป.ป.ช.สอบ 'ไชยชนก' ละเว้นหน้าที่-ผิดจริยธรรม ไม่เอาผิดคนติดสินบน 40 ล้าน

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลกรณีนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ออกมาแฉในรัฐสภาว่ามีคนมาเสนอเงิน 40 ล้านบาทต่อเดือนแลกไม่ให้จับเรื่องคอลเซ็นเตอร์