“พิชัย” ถก “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” ปมสหรัฐฯขึ้นภาษีตอบโต้ไทย 36% เห็นตรงกันยังมีความไม่แน่นอนในการหาข้อยุติ ต้องเก็บข้อมูลให้ชัด ยันมีมาตรการรองรับผลกระทบของแต่ละธุรกิจ ประเมินเบื้องต้นต้องเตรียมแก้ปัญหาสภาพคล่องไว้ให้ก่อน
16 เมษายน 2568 - ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมร่วมกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้การธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน และน.ส.พิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการของไทยต่อกรณีนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 16.00 น. นายพิชัย แถลงว่า ได้หารือกับผู้ว่าการ ธปท. กรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯออกมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ไทย 36% โดยตั้งสมมุติฐานที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเห็นตรงกันว่า มีความไม่แน่นอนในการหาข้อยุติ บางเรื่องก็ขัดกันเอง วันนี้จึงยังหาใครหรือไม่มีใครกล้าที่จะบอกได้ว่าจะจบอย่างไร เรื่องยังเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกวันเรื่อยๆ อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ผลกระทบไม่ได้ตรงไปตรงมาที่มีปัญหาระหว่างไทยกับอเมริกา แต่ยังมีผลกระทบถึงประเทศอื่นด้วย โดยกติกาที่เปลี่ยนแปลงไปได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน เปลี่ยนไปเยอะ ไม่ว่าตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ผลตอบแทนจากการลงทุนและค่าเงินเปลี่ยนไปเยอะไปในทิศทางที่คาดเดาได้ลำบาก
“ได้มานั่งคุยกันสำหรับประเทศไทยก็มาคาดเดาว่ามีกรณีใดจะเกิดขึ้นได้บ้าง และกรณีที่เกิดอย่างนั้นแต่ละกลุ่มที่เกิดปัญหาก็ไม่เหมือนกัน มีทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ทั้งธุรกิจของคนไทยและไม่ใช่ของคนไทย ส่วนมาตรการที่จะหยิบแก้ปัญหา ในอดีตมีมาตรการเยอะแต่วันนี้ไม่มีใครบอกได้ว่ามาตรการไหนดี สิ่งที่ทำคือต้องทำงานกันใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เจอกันบ่อยขึ้น เพื่อดูว่ามีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมีอะไรส่งผลกระทบบ้าง และดูว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อหามาตรการชัดเจนและมาร่วมกันกำหนดมาตรการแก้ไข หากคิดช้าไม่ได้ และต้องคิดในหลายกรณีและเผื่อในกรณีร้ายแรงไว้ด้วย ถ้าเกิดขึ้นจะขนาดไหน”นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากการที่ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อผู้ส่งออก วันนี้การส่งออกชะลอลง ไม่แน่นอน จะทำให้มีปัญหาด้านการขาย ขาดเงินทุนหมุนเวียน ปัญหาหนี้ที่ครบกำหนดต้องชำระ ขณะที่การนำเข้ามา เมื่อนำเข้าวัตถุดิบมาผลิตแล้วจะส่งต่อใคร จะมีปัญหาทั้งขาเข้าและขาออก สุดท้ายแล้วหากเป็นเหตุการณ์ไม่นานก็มีปัญหาสภาพคล่อง ก็ไปคิดโจทย์มาสภาพคล่องเกิดจากต้นเหตุอะไร จะได้หามาตรการตรงๆมาแก้ไข แต่วันนี้ยังไม่ได้ข้อยุติจะใช้มาตรการไหน ที่พูดกันแต่ละองค์กรน่าจะมีปัญหาสภาพคล่อง ส่วนนักลงทุนที่คิดลงทุนวันนี้มี 2 ประเภท คือ เร่งลงทุน และหยุดดูเลย ฉะนั้น การลงทุนก็จะเปลี่ยนไป ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องติดตามเพราะบางคนอาจลงทุนไปแล้วหรือยังไม่ลงหรือลงครึ่งๆ ตรงนี้เราต้องสำรวจปัญหาทั้งหมด ภาพใหญ่คือต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทย
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ในการหารือครั้งนี้ไม่ได้พูดถึงการลดดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะมีการประชุมกันอยู่แล้ว ซึ่ง ธปท.เขาต้องติดตามและเอาเหตุการณ์มาประกอบอยู่แล้วโดยอัตราดอกเบี้ยก็สัมพันธ์กับเรื่องของและเงินเฟ้อ
“ตอนนี้เรื่องภาษีเป็นเรื่องเล็กแล้ว สุดท้ายต้องเป็นไปตามกลไกล เพราะความสนใจของสหรัฐฯอยู่ที่มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ส่วนการเดินทางวันไหนขอเตรียมการชัดๆแล้วจะบอกอีกที ทั้งนี้ไทยกับอาเซียนด้วยกันคงมีการแลกเปลี่ยนอะไรที่เป็นของร่วมกัน เช่น สินค้าบางอย่างอาจส่งไปอาเซียนก่อนส่งไปอเมริกาอีกที คุยกันเก็บข้อมูล แน่นอนปัญหาแต่ละประเทศไม่เหมือนกันเราต้องแก้ปัญหาของเราก่อน” นายพิชัย ระบุ