ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด ศาลยกคำร้องชาญชัย เกมจบ! บังคับโทษทักษิณซ้ำไม่ได้

แม้ศาลฎีกาจะมีคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงในคดีบังคับโทษ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่ “ดร.ณัฏฐ์“ ฟันธงเกมนี้จบตั้งแต่ศาลยกคำร้องชาญชัย ชี้ชัดตามหลักกฎหมาย บังคับโทษซ้ำไม่ได้ พร้อมถามประชาชนจะเชื่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือ “กองแช่ง”

1 พฤษภาคม 2568 - “ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนคนดัง ให้ความเห็นทางกฎหมายต่อกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่ง ยกคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ซึ่งขอให้ศาลไต่สวนการคุมขัง “ทักษิณ ชินวัตร” ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

แม้ศาลจะมีคำสั่งให้โจทก์ จำเลย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน และนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. 2568 แต่ “ดร.ณัฏฐ์” ชี้ว่า เกมทางกฎหมายจบลงแล้ว เพราะศาลได้ยกคำร้องในประเด็นสำคัญว่า ผู้ร้องมิใช่คู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสียในคดี

ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า หลักสิทธิในการร้องต่อศาล ต้องเป็นผู้เสียหายหรือมีส่วนได้เสียโดยตรงในคดี หากเปิดทางให้บุคคลทั่วไปเข้ายื่นคำร้องในคดีอาญาที่สิ้นสุดแล้ว อาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนต่อกระบวนการยุติธรรม

“แม้ศาลจะมีอำนาจไต่สวนเมื่อ ‘ความปรากฏแก่ศาล’ แต่ก็เป็นเพียงการใช้ดุลยพินิจเพื่อความสมบูรณ์ของกระบวนการ ไม่ใช่การเปิดเกมใหม่ทางกฎหมาย” ดร.ณัฏฐ์กล่าว พร้อมเน้นว่า การพิจารณาของศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยึดตามระบบไต่สวน พิจารณาทุกข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน ไม่ใช่ความรู้สึกหรือคำกล่าวหาจากบุคคลภายนอก

เขาชี้ว่า ในคดีที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือการบังคับโทษ การดำเนินการทั้งหมดอยู่ในอำนาจของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งสังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยมีกฎหมายกำหนดว่า ไม่สามารถบังคับโทษทางอาญาในคดีเดียวกันซ้ำอีกได้ เป็นหลักการพื้นฐานของกฎหมายอาญาและสิทธิมนุษยชนสากล

ในส่วนที่สังคมเคลือบแคลงว่า นายทักษิณ ชินวัตร ถูกจำคุกจริงหรือไม่ ดร.ณัฏฐ์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ ต้องฟังจากพยานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง และชี้ชัดว่า ไม่มีแนวโน้มที่เจ้าหน้าที่ระดับผู้บัญชาการเรือนจำ หรือแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ จะกล่าวยืนยันในทางให้ผลร้ายแก่ตนเองหรือหน่วยงานรัฐ หากไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ

ดร.ณัฏฐ์ ยกคำวินิจฉัยเดิมของศาลว่า การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจของศาลในการตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติถูกหรือผิด เพราะเป็นคนละเขตอำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก

นักกฏหมายมหาชน ยังชี้ว่า ศาลย่อมรับฟังถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นหลัก “เพราะไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองหรือเป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายใด” โดยเฉพาะเมื่อมีเอกสารยืนยันจากเรือนจำ และการออกหนังสือรับรองการพ้นโทษของนายทักษิณแล้ว ยิ่งทำให้โอกาสที่ศาลจะ ยกคำร้องอีกครั้งมีสูงมาก

ดร.ณัฏฐ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ระบุว่าตนเคยไปพบนายทักษิณและเห็นว่าไม่ได้ป่วยจริง ว่า “ท่านไม่ได้จบแพทย์ และไม่ใช่ผู้รักษา จะมาให้ความเห็นทางการแพทย์ย่อมไม่มีน้ำหนักเท่าแพทย์ที่รับผิดชอบโดยตรง”

สุดท้าย ดร.ณัฏฐ์ฝากคำถามถึงประชาชนว่า จะเลือกเชื่อใคร ระหว่างผู้บัญชาการเรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และแพทย์ประจำโรงพยาบาลตำรวจ กับ ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’ และ ‘ชาญชัย’ ผู้ไม่มีส่วนได้เสียในคดี พร้อมย้ำว่า การวิพากษ์วิจารณ์ต้องตั้งอยู่บนหลักกฎหมาย ไม่ใช่อารมณ์หรือการเมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ

"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย

ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ

ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ

กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง

'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล

รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ

รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน