ปชน. ล็อกเป้า อภิปรายงบปี 69 ทุกกระทรวง

24 พฤภาคม 2568 - นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณประจำปี 2569 ระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคมนี้ว่า ว่าได้จัดยุทธศาสตร์ไว้เรียบร้อย และเตรียมความพร้อมไว้เลยว่าการอภิปรายงบประมาณฯ วาระหนึ่ง ซึ่งเราก็โปรยสโลแกนไว้แล้วว่ารอบนี้ เราช่วยหาเงินให้รัฐบางด้วยซ้ำ 
 
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า เพราะรัฐบาลมีการวางกรอบวงเงินงบประมาณไว้ไม่สอดคล้องหรือสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกา หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่กรอบวงเงินงบประมาณ และโครงการที่มีการของบประมาณไปแล้วไม่ตรงกับความต้องการขอพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง รวมถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้รับปากไว้กับพี่น้องประชาชน แต่เมื่อเราเปิดดู พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 69 ก็จะมองไม่เห็นในรายละเอียดที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้ นั่นหมายความว่า คำพูดของผู้นำประเทศไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ถ้าอนุมัติตามกรอบวงเงินประมาณปี 69
 
ส่วนพรรคประชาชนได้ล็อคเป้าการอภิปรายไปที่กระทรวงไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ล็อกทุกกระทรวง ยิงทุกกระทรวงแน่นอน เพราะในการทำงานเป็นทีม วันนี้เราจะเห็นได้ชัดว่า พรรคร่วมรัฐบาลก็ทำกันไปคนละทิศคนละทาง เริ่มมีกระบวนการที่จะชิงไหวชิงพริบ ชิงความโดดเด่น เพราะมีสัญญาณที่อาจจะมีการรับรู้ได้ว่า ใกล้จะมีการเลือกตั้งใหม่แล้ว แต่ละพรรคการเมืองก็จะเริ่มใช้กลไกกระทรวงของตัวเองไปในทิศทางของการหาเสียงล่วงหน้า ดังนั้นในการของบประมาณปี 69 เราก็จะโฟกัสเป็นพิเศษว่าแต่ละพรรคการเมืองพยายามทำอะไรอยู่
 
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กำลังมีปีญหากับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาล จะส่งผลต่อการผ่านร่างงบปี 69 ด้วยหรือไม่ นายณัฐชา ระบุว่า ตนคิดว่างบประมาณปี 69 ดุเดือดแน่นอน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเองก็เริ่มมีความสั่นคลอน และมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างแล้ว ตนจึงเชื่อว่าในการอภิปรายงบประมาณปี 69 ในเวลาทั้ง 4 วัน จะทำให้ประชาชนได้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่า ในขณะนี้ทางรัฐบาลสามารถไปต่อได้อีกไกลแค่ไหน และในกรอบวงเงินงบประมาณปี 69  มีการซ่อนโครงการอะไรอยู่ไว้ใช้เพื่อเป็นแต้มต่อทางการเมือง สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่
 
ส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม และด้านความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้น นายณัฐชา กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน เพราะวันนี้เราเห็นได้ชัดว่า ตัวนายกรัฐมนตรีถ้าไม่พึ่งทหารหรือกองทัพ ก็คงไม่มีวันนี้ ฉะนั้นประโยชน์ต่างตอบแทนเดียวที่สามารถทำได้คือ แลกเปลี่ยนในเรื่องงบประมาณ ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เราจะเห็นได้ชัดว่า ในวันนี้ความต้องการของประชาชนจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ที่เป็นปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่การการอนุมัติวงเงินงบประมาณอันดับหนึ่งกลับกลายเป็นในเรื่องต่างตอบแทนเพื่อให้ตัวเองได้มาซึ่งอำนาจ จึงเป็นการทำให้ประชาชนเห็นได้ชัดว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้มันส่งผลพวง และผลกระทบมาเป็นวงกว้างต่อเนื่องมาจนถึงปี 2569 ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม

กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ

พรรคส้มกลับลำ ดัน 'เท่าพิภพ' เสียบแทน อดีตผู้สมัครสส.สีเทา ชิงเก้าอี้เขตบางพลัด-บางกอกน้อย

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีตสส.พรรคประชาชน โพสต์ภารกิจฟื้นความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อพรรคสำคัญที่สุด พร้อมกลับมารับใช้คนกรุงเทพ

เปิดเบื้องหลัง 'ปชน.' เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.กทม.เขต 33 โดนหมายจับพัวพันเครือข่ายค้ายา

เปิดเบื้อหลังเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย เนื่องจากพรรคประชาชนตรวจสอบพบว่าผู้สมัครถูกออกหมายจับในคดีอาญา

3 แคนดิเดต 'ปชน.' ทำมือเบอร์ 46 แจงเหตุปาร์ตี้ลิสต์เหลือ 99

3 แคนดิเดต 'ปชน.' ทำมือสัญลักษณ์หมายเลข 46 ลุยหาเสียงทันที ชวนประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้า แจงบัญชีรายชื่อเหลือ 99 คน ถอนตัวไป 1