ดุสิตโพลชี้ คดีฮั๊วสว. ฉุดความเชื่อมั่นระบบการเมืองไทย

25 พ.ค. 2568 – “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศที่สนใจติดตามข่าวการเมืองเรื่อง “ประชาชนคิดอย่างไร กับ กรณีข่าวฮั้ว สว.” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,211 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 พบว่า จากกรณีข่าวฮั้ว สว. ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่เชื่อมั่นในระบบการเมืองไทย ในปัจจุบัน ร้อยละ 56.73 โดยคิดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากระบบการเลือกตั้ง และความไม่โปร่งใสในกระบวนการขั้นตอน ร้อยละ 60.36 ทั้งนี้ความขัดแย้งครั้งนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาล ร้อยละ 66.15 ด้านการแก้ปัญหาควรเร่งปฏิรูประบบการเลือกตั้ง สว. ร้อยละ 61.81 สุดท้ายสิ่งที่ประชาชนได้รับผลกระทบ คือ ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในสังคม เกิดความขัดแย้งทางความคิด ร้อยละ 57.12

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนว่าจากกรณีข่าว ฮั้ว สว. ประชาชนไม่เพียงแค่ไม่เชื่อมั่นในระบบการเมือง แต่ยังต้องการให้ปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะระบบการเลือกตั้ง สว. และกระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใส ความไม่ไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นและความรู้สึกไม่มั่นคงในประชาธิปไตยเป็นสัญญาณที่รัฐบาลต้องให้ความสนใจก่อนจะกระทบต่อเสถียรภาพในระยะยาว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ เจริญพูล หัวหน้าศูนย์พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการด้านกฏหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า กรณีข่าว “ฮั้ว สว.” ไม่เพียงแต่สะท้อนปัญหาความไม่โปร่งใสในกระบวนการสรรหา สว. แต่ยังตอกย้ำถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมืองไทย สถานการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากย้อนดูพัฒนาการทางการเมืองจะเห็นว่าตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 การได้มาซึ่ง สว. สะท้อนถึงอำนาจที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ทั้งการเกิดขึ้นของ “สภาผัวเมีย” หรือ “ปลาสองน้ำ” ล้วนแสดงให้เห็นถึงการแทรกซึมของฝ่ายการเมือง ส่วนรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ คสช. มีบทบาทในการแต่งตั้งและสรรหา สว. ยิ่งสร้างข้อกังขาต่อความชอบธรรมในการใช้อำนาจ ทั้งนี้ สถานะของ สว. ที่ควรเป็นกลไกตรวจสอบกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา และนำมาซึ่งเรียกร้องให้ปฏิรูประบบการได้มาซึ่ง สว. ดังนั้น ความคาดหวังของประชาชนจึงมิได้อยู่ที่การเปลี่ยนตัวบุคคลเท่านั้น แต่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สะท้อนถึงความเป็นประชาธิปไตยและมีความถูกต้องยุติธรรมในกระบวนการ อย่างไรก็ตามคำถามสำคัญคือ เราจะปฏิรูปอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับบริทบทางการเมืองของประเทศไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยดัชนีการเมืองไทย พ.ย. ตก มหาอุทกภัยหาดใหญ่กดคะแนนรัฐบาล

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน

‘ดุสิตโพล’ ชี้ภูมิใจไทยได้เปรียบสุดในการเลือกตั้ง

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “พรรคการเมืองไทย พรรคใดได้เปรียบ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,794 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 พบว่า พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่มีความได้เปรียบมากที่สุดถึง 8 ข้อ

ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81

ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน

โพลชี้ประชาชนชอบ 'คนละครึ่ง'

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,216 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือ คนละครึ่ง