ดุสิตโพลชี้ผลเลือกตั้งซ่อมกระตุ้นนักการเมืองต้องลงพื้นที่ดูแลประชาชนมากขึ้น

6 ก.พ. 2565 – สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,067 คน ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2565 พบว่า ประชาชนมองว่าการเลือกตั้งซ่อม เขต 9 กทม. ครั้งนี้เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง มีแพ้มีชนะ ร้อยละ 41.30 รองลงมาคือ มองว่าคนไปใช้สิทธิน้อยกว่าที่คาดไว้ ร้อยละ 40.45 จากผลการเลือกตั้งซ่อมรู้สึกสมหวัง ร้อยละ 39.64 รู้สึกผิดหวัง ร้อยละ 12.09 และรู้สึกเฉย ๆ ร้อยละ 48.27 โดยมองว่าผลการเลือกตั้งซ่อมส่งผลต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในด้านผู้สมัครที่จะต้องปรับกลยุทธ์การทำงาน ขยันลงพื้นที่ ร้อยละ 67.04 และคาดว่าจะมีผลกระทบต่อการเมืองไทยในภาพรวม ร้อยละ 60.83 ไม่มีผลกระทบ ร้อยละ 39.17 ทั้งนี้การเมืองไทยหลังการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ประชาชนจับตาดูผลงานของนักการเมืองมากขึ้น ร้อยละ 77.13 รองลงมาคือ การหาเสียงดุเดือด บรรยากาศทางการเมืองร้อนแรงมากขึ้น ร้อยละ 60.44

ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มเสียงให้พรรคฝ่ายค้านในสภาอีก 1 เสียงแล้ว ก็ยังช่วยฉายภาพให้เห็นทิศทางของการเมืองไทยชัดเจนมากขึ้น โดยประชาชนก็จะจับตาดูผลงานของนักการเมืองอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจึงต้องเร่งทำงานช่วยเหลือประชาชน กอบกู้ภาพ ส.ส.สภาล่ม เพราะสิ่งนี้อาจนำไปสู่การตัดสินใจของประชาชนในวันเลือกตั้งใหญ่ได้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจพร พึงไชย ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อมเพียงหนึ่งเขต ประกอบกับอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายจึงอาจทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลดลง จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นเพียงการประลองกำลังความนิยมของพรรคการเมือง แต่ถ้าหากว่าพรรคพลังประชารัฐยังไม่มีการปรับกลยุทธ์ทั้งตัวผู้สมัครที่จะต้องลงพื้นที่เพื่อเข้าถึงประชาชน ความสั่นคลอนภายในพรรคที่ดูเหมือนยังหาจุดลงตัวไม่ได้ ประกอบกับความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีลดลง และหากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคพลังประชารัฐไม่สามารถสรรหาคนที่มีราคาเพียงพอที่คนกรุงเทพฯ จะซื้อได้ เกิดพ่ายแพ้ในสนามผู้ว่าฯ กทม.อีก เป็นไปได้ว่าการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าพรรคพลังประชารัฐอาจไปไม่ถึงการได้เป็นรัฐบาล และอาจล่มสลายแปรเปลี่ยนไปรวมกับพรรคอื่น หรือตั้งพรรคใหม่ นับจากนี้คงต้องห้ามกระพริบตาเพราะการเมืองไทยผันแปรได้เสมอ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯลงหาดใหญ่ครั้งที่ 5 นำทีมเศรษฐกิจหารือช่วยเหลือผู้ประกอบการ

นายกฯนำทีมเศรษฐกิจ-หน่วยงานการเงิน บินลงหาดใหญ่รอบที่ 5 คุยผู้ประกอบการ พร้อมลงพื้นที่สำรวจความเสียหายย่านธุรกิจตลาดกิมหยง ด้าน ‘ศุภจี’ยันมีมาตรการช่วยเหลือแน่นอน

นักวิชาการ สะกิด อินฟลูฯ - นักการเมือง เลิกซ้ำเติมสถานการณ์ จ้องหาคนผิด น้ำท่วมหาดใหญ่

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นต่อสถานการณ์มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงข

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ท่าพระจันทร์-ท่ามหาราช ชวนร้านค้ารายย่อยสมัคร ‘คนละครึ่งพลัส’ ชูจุดเด่นสมัครง่าย ใช้สิทธิได้ทันที

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนายชิดชนก กฐินสมิต ผู้บริหารกลุ่ม ธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทยและพนักงาเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ รวมพลังลงพื้นที่บริเวณท่าพระจันทร์–ท่ามหาราช พร้อมเจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทย เพื่อประชาสัมพันธ์และเชิญชวนร้านค้ารายย่อยสมัครเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส”