'ภูมิธรรม' บอกไม่เป็นอะไร หลังกัมพูชายังดื้อฟ้องศาลโลก ชี้สถานการณ์ชายแดนยังไม่ยกระดับ มีเขาพระวิหารเป็นบทเรียน ตอบ 'สนธิ' หลังจี้เปลี่ยนตัวหัวหน้าทีมคุยเจบีซี บอกผู้ที่อยู่ในพื้นที่รู้ดีที่สุดใครเหมาะสม
11 มิ.ย.2568 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีไทยประกาศไม่รับเขตอำนาจศาลโลก แต่กัมพูชามีการตั้งคณะกรรมการนำเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาขึ้นสู่ศาลโลก ว่า ไม่เป็นอะไรต่างคนต่างทำหน้าที่ เขาจะไปฟ้องหรือไปทำอะไร ซึ่งเราไม่ได้อยู่ในอำนาจศาลโลก ไม่เป็นอะไร ก็ว่าไปตามกระบวนการ
เมื่อถามว่า จะทำให้มีปัญหาคาใจอะไรกันหรือไม่ในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (เจบีซี) ในวันที่ 14 มิ.ย. เพราะเรื่องยังไม่จบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่หรอก อะไรก็ตามมันยังไม่จบในทีเดียว ซึ่งต้องใช้เวลาคุยกัน เพราะแต่ละพื้นที่มันไม่เหมือนกัน อันนี้เราได้พูดคุยกันแล้วว่าเฉพาะกรณีขัดแย้งข้อพิพาทครั้งนี้ เราต้องการเคลียร์ในเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ต้องเคลียร์กันเป็นส่วนๆไป ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเป็นข้อตกลงร่วมกัน
เมื่อถามว่า ท่าทีของกัมพูชาขณะนี้ทำให้เราต้องคงมาตรการเรื่องกำหนดเวลาเปิด-ปิดตามชายแดนไปอีกนานแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่ได้สั่งการไป ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาค 2 รับรู้แล้ว ซึ่งเราก็ต้องดำเนินการตามมาตรการและสภาพพื้นที่แต่ละที่ ที่ขณะนี้เรายังไม่ได้ยกระดับมาตรการใดๆ ซึ่งความจริงเรายังไม่ได้ปิดด่าน แค่จำกัดเวลาและจำกัดคนเท่านั้น ส่วนจุดหนึ่งที่มีการเผชิญหน้ากันก่อนหน้านี้ เราก็มีการปรับกำลัง ส่วนพื้นที่อื่นๆยังไม่มีอะไร จากนั้นสถานการณ์ก็จะค่อยๆดีขึ้น เพราะเราให้ทหารทั้งสองฝ่ายพูดคุยกัน จัดกิจกรรมลาดตระเวนร่วมกัน คิดว่าบรรยากาศโดยรวมน่าจะดีขึ้น
เมื่อถามว่า แม้ว่าเราจะประกาศไม่รับเขตอำนาจศาลโลก ฝ่ายความมั่นคงมีการประเมินหรือไม่ว่าจะมีผลกระทบด้านอื่น เหมือนกรณีเขาพระวิหาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาพระวิหารก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ที่อาจจะเป็นบทเรียนบางส่วนได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราจะไม่พูดถึงตรงนั้น แต่เรื่องที่เราจะมีการเจรจาเรามีการเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว แต่ไม่สามารถพูดได้
เมื่อถามอีกว่า กลุ่มของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีข้อเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะเจรจาในการประชุมเจบีซี วันที่ 14 มิ.ย. เพราะเคยอยู่ในรายชื่อการเจรจากัมพูชาเมื่อหลายปีก่อน รัฐบาลจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผู้ที่อยู่กับปัญหาและผู้ที่อยู่ในพื้นที่น่าจะรู้ดีที่สุดว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้เป็นอย่างไร แล้วใครจะเหมาะสม ก็ต้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดพิจารณา รัฐบาลก็จะฟังข้อเท็จจริงและดูเหตุผล เวลานี้ไม่ใช่เรื่องใครชอบใครหรือใครไม่ชอบใคร หรือใครอยากได้อะไร แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ และใครจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติได้ดีที่สุด
เมื่อถามย้ำว่า การฟ้องศาลโลกฝ่ายเดียวผลของมันจะเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม ตอบว่า มันพูดยาก ซึ่งมีอยู่หลายเงื่อนไข ตามหลักการเงื่อนไข ถ้าฟ้องฝั่งเดียวก็ฟ้องไป คนไม่ยอมรับก็ไม่ได้เข้า แต่มันจะมีเงื่อนไขอื่น ๆ เช่นเงื่อนไขทางกฎหมาย ไม่ขอพูดตรงนี้ ให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รายงาน
เมื่อถามอีกว่า ได้เตรียมรับมือเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ไว้แล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า "เตรียมสิครับ ประเทศวิกฤติอย่างนี้ไม่เตรียมได้อย่างไร"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย
'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร
'ทหารผ่านศึก' รวมพลังส่งกำลังใจทหารชายแดน 'รมว.กห.' ย้ำเงื่อนไขหยุดยิง
ทหารผ่านศึกรวมพลังส่งกำลังใจทหารชายแดน ด้าน 'บิ๊กเล็ก' ส่งรองเสธ.ทหาร ร่วมถก รมว.กต.อาเซียน ย้ำไทยหยุดยิงหากกัมพูชาสิ้นปฏิปักษ์ชัดเจนเปิดเผยต่อเนื่อง เคืองนานาชาติไม่ประณามปมวางทุ่นระเบิด
'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'
'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย

