โฆษกภูมิใจไทย ย้ำไม่มีปรับ ครม. ในที่ประชุมพรรค ยันจะฟ้องกลับคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 ฐานแจ้งความเท็จ ปมฮั้วเลือก สว. ขอปกป้องและรักษาเกียรติพรรคภูมิใจไทย
16 มิถุนายน 2568 - เมื่อเวลา 18.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลักกงการประชุมกรณีที่มีจดหมายเชิญในการรับทราบข้อกล่าวหาของ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยทุกคน พรรคภูมิใจไทยพร้อมชี้แจงและมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา กรณีที่กรรมการการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ได้เชิญหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง แสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงข้อกล่าวหาตามที่ได้รับเชิญ “ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รวมถึงสมาชิกพรรค และสส.ทุกคน ไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว. ตามที่ถูกกล่าวหา” และหัวหน้าพรรคก็เคยกล่าวถึงประเด็นนี้ในการประชุมพรรคตั้งแต่ ปี 67 ว่าห้ามกรรมการบริหารพรรค และ สส. กระทำการใดๆ ที่ขัดกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นการแสดงเจตนารมย์ของหัวหน้าพรรค และสมาชิกทุกคนได้ปฏิบัติตามการประกาศของหัวหน้าอย่างเคร่งครัด
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า ข้อกล่าวหาที่ได้แจ้งมี 4 ประเด็น คือ 1.การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ 2.การจ่ายเงินให้เป็นค่าจ้าง จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเลือก สว. 3.การทำโพยฮั้วเลือก สว. 4.การให้ผู้สมัครเลือก สว.ที่ผ่านการเลือกระดับจังหวัด เขียนใบลาออกล่วงหน้าโดยไม่ลงวันที่ ทั้ง 4 ประเด็นนี้ทำให้การเลือก สว.ไม่สุจริต นี่คือข้อกล่าวหาที่คณะอนุสืบสวนไต่สวนได้แจ้งกับหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด แจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดเป็นการขัดหลักพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นข้อหาที่รุนแรงและร้ายแรง
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทย มีเจตนารมย์และอุดมการยึดมั่นในหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาโดยตลอด หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคนที่ถูกกล่าวหาใช้สิทธิ์ตามกฏหมายเพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของตนเอง
โฆษก พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้ขอเรียนว่า หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคภาคทุกท่านได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาที่มีข้อความทุกตัวอักษรเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งข้อสังเกตข้อกล่าวหาทุกคนเป็นการบรรยายความ ไม่มีรายละเอียด ไม่ระบุพฤติกรรม วันเวลาการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา แตกต่างจากการแจ้งข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเคยดำเนินการมาตลอด ในการเลือกตั้งทุกระดับที่ผ่านมา กกต. เวลาแจ้งข้อกล่าวหา แต่ละครั้งจะระบุถึงพฤติกรรมการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน ว่าบุคคลใดชื่อนามสกุล กระทำผิดอย่างไร วันเดือนปี สถานที่ แต่การแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ไม่มีรายละเอียดและไม่มีพยานหลักฐานประกอบข้อกล่าวหา พรรคภูมิใจไทยมีข้อสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาต่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในครั้งนี้ มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเนื้อหาที่พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง และนายณฐพร โตประยูร เคยร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนหลายครั้งว่าได้รับข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนมีพนักงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ 3 คนร่วมอยู่ในคณะนี้ด้วย ประกอบกับการดำเนินการของพนักงานสอบสวนมีพฤติกรรมที่แปลกและแตกต่างจากมาตรฐานดำเนินการของ กกต.
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า นอกจากนี้พรรคภูมิใจไทยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมและการดำเนินสอบสวนไต่สวนของคณะที่ 26 ถูกชี้นำหรือครอบงำโดยพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษใช่หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคได้ตอบข้อซักถามกับสื่อมวลชนว่าเกี่ยวข้องในเรื่องของการเมืองหรือไม่ เป็นไปตามแผนยุบพรรคภูมิใจไทย และสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ที่กระทำผิดร่วมกัน มีการกระทำเป็นขบวนการ ทั้งบุคคลที่เปิดเผยตัวและบุคคลที่ยังเป็นทางลับ
“หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค จะขอใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายที่แจ้งความเท็จให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ์และรักษาเกียรติของพรรคภูมิใจไทย”โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
เมื่อถามว่า สส. ไม่ถามหัวหน้าพรรคเรื่องสถานการณ์การเมืองในการปรับ ครม. หรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่ได้คุยกัน พวกเราถือว่าหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์และตอบสื่อมวลชนทุกครั้ง นายอนุทิน ยังแน่วแน่ในการทำงานและมั่นใจว่าการทำงานในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน ประเด็นที่บอกว่าได้ไม่ได้คุยเรื่องการปรับ ครม. ไม่มี ขณะนี้ไม่น่าจะใช่ช่วงเวลาที่เหมาะในการพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี เหตุการณ์ในช่วงนี้ของประเทศจะมีแค่เรื่องเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยธรรมชาติ ภัยโรคระบาด และภัยเศรษฐกิจ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เหมือนเป็นการตั้งหัวขบวนใหม่ เหมือนนับหนึ่งใหม่ ต้องมองอีกมุมว่าประชาชนรอไม่ไหวที่จะให้ใครนับหนึ่งใหม่และเริ่มทำงานใหม่
เมื่อถามว่า โฆษกพรรคภูมิใจไทย มีชื่อในการถูกเรียกครั้งนี้หรือไม่ น.ส.แนน ผย กล่าว กระบวนการในการแจ้งข้อกล่าวหาของหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย เรามองว่าเป็นเกณฑ์การเมืองเพื่อจ้องยุบพรรคภูมิใจไทย และที่ถามว่ามีชื่อของตนปรากฏแทบทุกสื่อว่าเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่ถูกเรียกล็อตที่ 7 ขอยืนยันว่าตนไม่โดนเรียก ไม่มีหมายเรียก
เนื้อหาในการเชิญรับทราบข้อกล่าวหาของหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเป็นเนื้อหาเดียวกัน ข้อหาเดียวกัน ตัวอักษรเหมือนกันเพียงแค่ชื่อและตำแหน่งของแต่ละคนที่โดน ทำให้มองอีกมุมว่า ตำแหน่งโฆษกพรรคภูมิใจไทยไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค รอบนี้เล็งไปที่กรรมการบริหารพรรคอย่างเดียว
“เป็นประเด็นที่น่ามองว่า ความละเอียดรอบคอบที่จะเชิญหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่เอกสารของหลายคนไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าเราจะใช้สิทธิ์เพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของทุกคนและพรรคภูมิใจไทย“ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว! นักวิชาการหนุนพรรคประชาชน ยก 2 เหตุผล จี้ ‘เท้ง’ ไขก๊อกพ้นหัวหน้าพรรค
“ไชยันต์ รัชชกูล” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ซึ่งแสดงตัวเป็นผู้สนับสนุนพรรค
กกต. เคาะ 8 ก.พ.69 วันเลือกตั้ง สส. พร้อมเปิดไทม์ไลน์กำหนดการ
กกต. เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง หย่อนบัตรอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.69 รับสมัคร 27-31 ธ.ค.นี้
ภูมิใจไทยคึกคัก! 'อนุทิน' สวมเสื้อให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. อดีตเด็กเพื่อไทยโผล่พรึ่บ
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตลอดช่วงบ่ายยังคงมีอดีต สส. และนักการเมือง เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก อาทิ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ที่ได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
'อนุทิน' ลั่นภูมิใจไทยพร้อมทุกขุมกำลัง ก้าวสู่พรรคอันดับหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นที่ 1 หรือที่ 2 จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชน นายอนุทิน ตอบว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน ต้องคิดอีกเยอะ
🛑LIVE ชำแหละเกม ปลุกกระแส..ไม่เอาสงคราม!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (30)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

