นายกสมาคมทนายความ เตือนยุบสภา-ลาออก เสี่ยงเสียหายหนัก

นายกสมาคมทนายความ ชี้การกดดันให้ นายกฯแพทองธาร ลาออก-ยุบสภา ตอนนี้มีเเต่ผลเสียทั้ง เศรษฐกิจ-การเมือง ทาวออกคือ ปรับ ครม.สรรหาคนเหมาะสมเเก้ไขวิกฤต

24 มิถุนายน 2568 - นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า บันทึกจากนายกสมาคมทนายความฯ

ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ กรณีฮุนเซนปล่อยคลิป ด้วยการขอให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออกนั้น

ผมไม่เห็นด้วยที่นายกจะยุบสภาในขณะนี้ เพราะจะทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง ส่วนการลาออกก็จะเกิดปัญหาอีกเหมือนกัน ดังนี้ ครับ

กรณีเกิดการยุบสภาจะเกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อยุบสภาจะไม่มีผู้แทนราษฎรทำหน้าที่พิจารณาและให้ความเห็นชอบกับพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ หากยุบสภาจะต้องรอให้มีส.ส.ชุดใหม่มาพิจารณากฎหมายงบประมาณแทน ส.ส.ชุดเดิม อันจะทำให้รัฐบาลไม่มีงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อใช้สอย โดยเฉพาะรัฐบาลจะไม่สามารถใช้งบลงทุนเพื่อกระตุ้นและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจไทยที่แย่อยู่แล้วจะต้องแย่หนักขึ้นไปอีก

ความเสียหายต่อมาเป็นความเสียหายทางการเมือง เมื่อเกิดการยุบสภาจะทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 (2) แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 168 จะให้รัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อก็ตาม แต่การปฏิบัติหน้าที่จะทำได้เฉพาะเรื่องที่จำเป็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 (1) – (4) เท่านั้น อันจะทำให้รัฐบาลรักษาการไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะปัญหากับกัมพูชา ซึ่งทวีความตึงเครียดจึงต้องการรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนดังกล่าว รัฐบาลรักษาการจะอยู่ในสภาพเป็ดง่อยทำอะไรไม่ได้เต็มที่ ดังนั้น การยุบสภาในขณะนี้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศเกิดข้อจำกัดมากขึ้น กลายเป็นเข้าทางฮุนเซนและฝ่ายเผด็จการที่ต้องการให้ประชาธิปไตยของประเทศถึงทางตัน

ส่วนการให้นายกลาออกก็จะเกิดปัญหาทางการเมืองเช่นกัน เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 บัญญัติให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ เฉพาะผู้ที่พรรคการเมืองเคยเสนอรายชื่อต่อกกต.ไว้เท่านั้น ทำให้พรรคประชาชนไม่มีผู้ได้รับการเสนอชื่อ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เหลือเพียงนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งมีปัญหาด้านสุขภาพ ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นมีเสียงรวมกันไม่ถึงครึ่ง เพราะพรรคประชาชนประกาศแล้วว่าจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้เสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาลได้ การเมืองก็จะถึงทางตัน

เมื่อนายกขอโทษประชาชนแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดก็ควรให้นายกปรับคณะรัฐมนตรี สรรหาผู้ที่เหมาะสมมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศโดยเฉพาะปัญหากับกัมพูชาและชายแดนใต้ เมื่องบประมาณผ่านสภาและสถานการณ์ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาคลี่คลายลงแล้วประกอบกับเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม นายกก็ควรยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ก่อนยุบสภาก็ควรร่วมมือกันแก้ไขยกเลิก มาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญเสียก่อน เพื่อให้สามารถหาผู้ที่มีเหมาะสมมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้โดยไม่มีข้อจำกัด ปัญหาของประเทศต้องแก้ไขโดยสติโดยไม่ใช้อารมณ์เป็นตัวนำ และการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีคือทางออกที่ดีที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (32)

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

ไทยก้าวใหม่ : ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง เดินหน้าขับเคลื่อนธนู4 ดอก กับโอกาสปักธง แจ้งเกิดเลือกตั้ง 69

“พรรคไทยก้าวใหม่”ที่มี ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตนักการศึกษาชื่อดัง-อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นหัวหน้าพรรคถือเป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองใหม่ที่เปิดตัวมาก่อนการยุบสภาฯ

จบเลือกตั้ง 8ก.พ.2569 อนุทิน นายกฯรอบสอง

รายการ ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด สัมภาษณ์พิเศษซินแสชื่อดังที่ทุกคนรู้จักกันดี ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย-อดีตสมาชิกวุฒิสภา

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล

กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี