
8 ก.ค. 2568- ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยแพร่บทความเรื่อง “ประชาธิปัตย์” ในวันที่ความนิยมดิ่งสุด!
บทความนี้เป็นเสียงเตือนจากผมในฐานะสมาชิกที่ยังรักและศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ และอยากเห็นพรรคกลับมายืนหยัดอย่างสง่างามอีกครั้ง ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป ผมไม่โทษใคร แต่ผมขอพูด
ผมไม่ได้เขียนบทความนี้เพื่อโจมตีใครในพรรค เพราะผมรู้ว่าแต่ละคนก็ทำงานเต็มที่ในแบบของตน แต่ผมเขียนในฐานะสมาชิกที่ยังรักพรรค ที่ยังเชื่อว่า “ประชาธิปัตย์” ไม่ควรจบแบบนี้ ที่ยังหวังว่าพรรคของเราจะไม่กลายเป็นแค่พรรคที่มีป้ายเก่าๆ ให้ระลึกถึง
นิด้าโพลรายไตรมาส ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมเพียง 2.68%
รั้งอันดับที่ 8 กลายเป็น “พรรคท้ายแถว” ไปโดยปริยาย
สำหรับใครบางคน อาจมองเป็นแค่ผลสำรวจหนึ่ง แต่สำหรับผม ในฐานะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง นี่คือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา นี่ไม่ใช่การสะดุดชั่วคราว แต่มันคือวิกฤตศรัทธาที่ถ้าพรรคไม่หยุดฟังตัวเอง และหันมาฟังประชาชน เราจะไม่เหลือที่ให้ยืนในอนาคตอีกเลย
พรรคที่เคยเป็นความหวัง กลับกลายเป็นคำถาม!
ครั้งหนึ่ง พรรคประชาธิปัตย์เคยชนะใจชาวกรุงเทพฯ เคยยึดภาคใต้ไว้ทั้งภูมิภาค เคยถูกมองว่าเป็นพรรคของ “คนมีหลักการ” แต่วันนี้ คนจำนวนมากเริ่มถามว่า “พรรคนี้ยังมีหลักการเดิมอยู่หรือเปล่า?” หรือที่น่ากลัวกว่านั้นคือ “พรรคนี้ยังมีจุดยืนอะไรให้ยึดอยู่ไหม?”
เมื่อประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย คำถามนั้นก็ยิ่งชัดขึ้น… และหนักขึ้น ผมไม่เถียงว่า การร่วมรัฐบาลอาจมีเหตุผลทางยุทธศาสตร์ แต่สิ่งที่พรรคลืมไปคือ “ฐานเสียงของเราเคยเชื่ออะไร” เราเคยวิจารณ์เพื่อไทยอย่างหนัก เราเคยบอกว่าจะไม่ยอมอยู่ใต้ระบอบทักษิณ เรายืนอยู่ตรงข้ามเขามาหลายสิบปี
แต่วันนี้เรากำลังร่วมโต๊ะเดียวกัน โดยไม่มีคำอธิบายที่ฐานเสียงยอมรับได้ ฐานเสียงเดิมจึงรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็มองว่าเรา “ไร้จุดยืน”
ผลลัพธ์ที่เห็นชัดก็คือคะแนนนิยมดิ่งสุดเหลือแค่ 2.68% อยู่อันดับ 8 จากผลโพลของนิด้า
ใช่ครับ… ยังมีสาเหตุอื่นอีก เช่น พรรคไม่สามารถสื่อสารกับสังคมยุคใหม่ได้ทัน เรายังยึดวิธีคิดแบบเก่าๆ ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว
ทางรอดยังมี ถ้าเรากล้ายอมรับและเปลี่ยนแปลง เช่น
(1) กล้าทบทวนการร่วมรัฐบาลและอธิบายให้โปร่งใส
(2) ฟังเสียงประชาชนอย่างจริงจัง ไม่ใช่เฉพาะตอนหาเสียง
(3) เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ในพรรคมีบทบาทจริง
(4) เลิกคิดแบบเดิม แล้วปรับโครงสร้างพรรคให้เป็นสมัยใหม่
(5) หยุดพูดแต่ “อดีตของพรรค” แล้วเริ่มสร้างอนาคตให้คนมั่นใจ
เพราะถ้าเรายังคิดว่าทุกอย่าง “ไม่เป็นไร” ก็ขอให้จำไว้ว่า…2.68% อาจไม่ใช่จุดต่ำสุด แต่อาจเป็นเสียงเตือนสุดท้าย ก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์จะกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของการเมืองไทย
หากกรรมการบริหารพรรคหรือผู้มีอำนาจในการกำหนดทิศทางได้อ่านบทความนี้ ผมไม่ขออะไร นอกจากขอให้เรากลับมาฟังกันจริงๆ ฟังสมาชิก ฟังประชาชน ฟังเสียงเพรียกจากหัวใจของพรรคนี้
ผมมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ของเราจะสามารถก้าวผ่านวิกฤตและกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้ ถ้าเรายังเชื่อว่า ประชาธิปัตย์คือพรรคของประชาชน ไม่ใช่แค่ชื่อบนป้าย… แต่เป็นพรรคที่มีชีวิต
ทั้งหมดนี้ ด้วยความรัก ศรัทธา และปรารถนาดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
ประชาธิปัตย์“ฉบับรีแบรนด์ใหม่” “คว้ากระแส”หรือตามเงา"พรรคส้ม"
การที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศ กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ ทั้งจากผลการเลือกตั้งที่ถดถอย ความไม่ชัดเจนในทิศทางของพรรค และการสูญเสียบุคลากรทางการเมืองที่สำคัญ จนส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพรรคที่เคยเป็น ‘พรรคต่อสู้กับเผด็จการ’ หรือ ‘พรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์’ ได้เลือนหายไป จนอาจถูกมองว่าเป็นเพียง ‘พรรคระดับพื้นที่’ ไปเสียแล้ว
ตรังคึกคัก! ‘นิพิฏฐ์’ เผย ‘ชวน’ ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้
นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ท่านชวน หลีกภัย ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้
‘นิพิฏฐ์’ แปลก! การสังวาสข้ามสายพันธุ์เกิดขึ้นมากที่สุดในภาคใต้
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ปักษ์ใต้ไม่กลายพันธุ์ ช่วงนี้มีข่าวการเสพสังวาสทางการเมือง
'นิพิฏฐ์' เตือน! อย่าเลือกคน 'อาด' เข้าไปข่มขืนประเทศ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าเลือกคน “อาด” ไปข่มขืนประเทศ
'อภิสิทธิ์' นำปชป.เริ่มจากศูนย์-สร้างใหม่ เปิดโครงการ 'สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้'
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศเดินหน้าเชิญชวนคนดีร่วมทำการเมืองสุจริต เปิดโอกาสทั่วประเทศสมัครเป็นผู้แทน ตั้งเป้าสร้างคน สร้างพรรค และสร้างบ้านเมือง ย้ำพร้อมเริ่มใหม่จากศูนย์


