ฟาด 'ปิยบุตร' เสี้ยมสุดโต่ง! ใบอนุญาตนิรโทษคือปชช.ผ่านสภา

‘ธนกร’ ซัด ‘ปิยบุตร’ เสี้ยมสุดโต่ง ชี้ใบอนุญาตนิรโทษฯ คือประชาชนผ่านสภา ข้องใจพูดแทนใครกันแน่ บี้หยุดบิดเบือนยุยงสังคมแตกแยก พร้อมสวน ‘โรม’ ร่างฉบับ รทสช. ช่วยคดีการเมืองทุกกลุ่ม

11 ก.ค. 2568 – นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในสภาฯ มีข้อรังเกียจประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะไม่มีใบอนุญาตนั้นว่า นายปิยบุตรกำลังบิดเบือนยุยงปลุกปั่นคนในสังคมให้มีความเข้าใจผิด สร้างความแตกแยกในสังคมมาตลอด

“ใบอนุญาตที่แท้จริง คือมาจากประชาชนทั้งประเทศและผู้แทนของประชาชน โดย สส. ผ่านระบบสภาฯ ซึ่งกฎหมายนิรโทษกรรมต้องรับฟังทุกฝ่ายให้รอบคอบ ไม่ยึดมั่นถือมั่นอยู่กับความคิดของตัวเองหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งนายปิยบุตรเป็นถึงอาจารย์และนักกฎหมาย ควรจะเข้าใจบริบทของประเทศไทย แต่ยังก้าวไม่พ้นความคิดสุดโต่ง ยังไม่ยอมปรับทัศนคติให้อยู่บนหลักการกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ถูกต้องเสียที จึงมีคำถามว่าออกมาพูดแทนใครที่อยู่เบื้องหลังตัวจริงหรือไม่” นายธนกร ระบุ

ส่วนกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวหาว่าร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลือกปฏิบัติช่วยแต่บางกลุ่มนั้น นายธนกร ยืนยันว่า ร่างของพรรคเห็นควรให้มีการนิรโทษกรรมคดีการเมืองทั่วไปที่ไม่ก่อเหตุรุนแรง ย้อนหลังไปตั้งแต่มีการชุมนุมสร้างความขัดแย้งในสังคมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยไม่เลือกช่วยบางกลุ่มบางฝ่ายตามที่นายรังสิมันต์กล่าวหา ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับร่างดังกล่าวได้เลย ได้ระบุชัดเจนถึงหลักการและเหตุผล โดยทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าสิ่งสำคัญของการจะนิรโทษกรรมต้องมีคณะกรรมการที่เป็นอิสระ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อเข้ามากลั่นกรองชี้ขาดคดีที่จะได้รับการนิรโทษกรรม

อย่างไรก็ตาม ขอตั้งข้อสังเกตว่าการที่นายรังสิมันต์กล่าวหาว่าเลือกปฏิบัตินั้น เป็นเพราะร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงทุกพรรคการเมืองที่เสนอต่อสภา ไม่มีการรวมคดีมาตรา 112 ใช่หรือไม่ จึงทำให้พาลกล่าวหาพรรคอื่นที่เห็นต่างว่าเลือกปฏิบัติ ขอยืนยันชัดเจนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยึดหลักนิติรัฐนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ เนื่องจากเป็นคดีหมิ่นเบื้องสูงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นความมั่นคงของรัฐถือเป็นคดีร้ายแรง และไม่ใช่คดีการเมือง ไม่สามารถยอมความหรือนิรโทษกรรมได้ หากมีการยกโทษให้จะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้ผู้กระทำความผิดไม่ตระหนักถึงความสำคัญและอาจมีผู้ละเมิดละเมิดกฎหมายมากขึ้น

“จึงขอฝากไปยังนายปิยบุตร นายรังสิมันต์ หยุดใช้แนวคิดสุดโต่งยุยงปลุกปั่นกลุ่มเยาวชน เลิกสร้างความแตกแยกในสังคมเสียที และควรเลิกเป็นเด็กเอาแต่ใจ เมื่อไม่สบอารมณ์หรือไม่ได้ตามที่ต้องการก็พาลกล่าวหาเพื่อน ขอให้มองบนหลักการรัฐธรรมนูญที่ถูกต้อง อย่า พยายามสร้างความสับสนให้กับสังคม เหมารวมทุกคดีเป็นคดีการเมือง แบบนั้นไม่ได้“ นายธนกร กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รทสช. เปิด 3 แคนดิเดตนายกฯ ชูสโลแกน เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค แถลงนโยบายพรรค พร้อมเปิดสโลแกนพรรค “เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ” และเปิดแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ได้แก่ นายพีระพันธุ์ นายอรรถวิชช์ และนายนราพัฒน์

'อนุทิน' ยังนิ่ง! ไม่ตอบโต้ 'เท้ง' ปิดประตูร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทย

"อนุทิน" บอกหลังเลือกตั้งพร้อมจับมือกับพรรคที่สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่อยากพูดก่อน ผลลต.ออก เดี๋ยวทำไม่ได้ใครพูดก่อนต้องกลืนน้ำลาย

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

'โรม' โวยโดนปั่นกระแส 'ทหารมีไว้ทำไม' หวังดิสเครดิตเลือดตั้ง ลั่น ปชน.แค่อยากเห็นทหารอาชีพ

'โรม' เดือดซัด 'นักการเมือง' ฝั่งตรงข้าม ใช้เหตุปะทะชายแดนมาโจมตีพรรคส้ม กล่าวหา 'ปชน.' เกลียดทหาร ฉะ นักการเมือง-ข้าราชการสีเทา เอื้อประโยชน์แก๊งสแกมเมอร์-กินเงินเดือนจาก 'ฮุน เซน'

ปชน. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 5 เขตจังหวัดพิษณุโลก ส่ง 'ณฐชนน' แก้มือเขต 1 อีกรอบ

พรรคประชาชนจังหวัดพิษณุโลกจัดการประชุมไพรมารีโหวต (Primary Vote) เพื่อรับรองว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค

รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม

พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า