นักกฎหมายมหาชนชี้คำสั่งศาลปกครองกลางไม่รับคำขอเพิกถอนเอกสารสิทธิซ้ำซ้อนในคดี “เขากระโดง” ทำโอกาสกลับมาเป็นที่ดินของหลวงริบหรี่ เว้นเปลี่ยนทีมสอบสวน-อธิบดีกรมที่ดิน
14 กรกฎาคม 2568 - สืบเนื่องจากศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.2568 ซึ่งเป็นคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้อง กรมที่ดินกับพวกรวม 3 ราย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่ โดยศาลปกครองกลางไม่รับคำขอท้ายฟ้องเพราะเหตุฟ้องซ้ำในประเด็น ข้อ 3 “คําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ออกโดยไม่ชอบ ซึ่งเป็นการคลาดเคลื่อนไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดในพื้นที่ของ รฟท. ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด หรือภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร” และคำขอ ข้อ 4 “ให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง” ศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดี และคําขอบังคับ ในลักษณะเดียวกันกับประเด็นที่ศาลได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว ในคดีศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 มาฟ้องเป็นคดีนี้อีก นั้น
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ “ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม” นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า มีหลายฝ่ายสอบถามกันมาเยอะในปมที่ดินเขากระโดง ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ฟ้อง กรมที่ดิน อธิบดีกรมที่ดินและบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อศาลปกครองกลาง เป็นคดีใหม่ ประกอบกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจทบทวนคำสั่งทางปกครองที่ดินเขากระโดงใหม่ มีโอกาสที่ดินกลับมาเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือเป็นที่ดินของหลวงหรือไม่ ต้องทำความเข้าใจหลักก่อนว่า ที่ดินเป็นของหลวง แม้เอกชนครอบครองเป็นร้อยปีหรือออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบทับที่ดินหลวง กรรมสิทธิ์ในที่ดินไม่อาจเปลี่ยนแปลงเป็นของเอกชนได้
หากพิจารณาข้อพิพาทระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับกรมที่ดิน ต้องยึดหลักกฎหมาย เพราะมีที่ดินหลายแปลงบริเวณตำบลอิสาณและตำบลเสม็ด (เขากระโดง) อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ศาลฎีกาเคยมีพิพากษาว่า กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ทับเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่การอธิบดีกรมที่ดิน ใช้อำนาจทางปกครอง ตามคำสั่งศาลปกครอง ตั้งกรรมการสอบสวน มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ดุลพินิจและมติดังกล่าว เป็นคำสั่งทางปกครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานราชการด้วยกัน จึงเป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกัน
ในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 หากพิจารณาจาก “คำขอท้ายฟ้อง” จำนวน 4 ข้อ ศาลได้มีคำสั่งไม่รับคำขอท้ายฟ้องในข้อ 3 และ ข้อ 4 เพราะเป็นฟ้องซ้ำ การรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่อาจฟ้องซ้ำในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยไปแล้วใหม่ได้อีก มีผลกระทบต่อโดยตรง ต่อการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดิน เพราะโอกาสที่กรมที่ดินจะเพิกถอน จะต้องรอผลคดีของศาลปกครอง โดยคำขอที่ศาลปกครองกลางรับมีเพียงประเด็น ว่า อธิบดีกรมที่ดินสั่งยุติการสอบสวนที่ดินและมติยกอุทธรณ์ของกรมที่ดินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะหากฟังได้ว่า กระทำโดยชอบและถูกขั้นตอนตามประมวลกฎหมายที่ดิน ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนและคำสั่งของปกครองในคดีศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนคำขอให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ออกโดยไม่ชอบและคำขอเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง ย่อมตกไป ทำให้โอกาสที่กรมที่ดินจะเพิกถอนที่ดินเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ ให้กลับเป็นทีดินของหลวง ทำให้มีโอกาสน้อยหรือแทบไม่มี
เพราะคำขอที่ศาลปกครองกลางรับไว้พิจารณา หากอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามประมวลกฎหมายที่ดินและระเบียบโดยชอบ จึงฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า “โอกาสชนะคดีแทบไม่มี”
เหตุที่เป็นเช่นนี้ แม้ข้อเท็จจริงทั่วไปรับฟังได้ว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดง ปัจจุบัน ตั้งอยู่ตำบลอิสาณและตำบลเสม็ด เป็นที่ดินของการรถไฟ
แต่จุดอ่อนของคดี เป็นเรื่องกำหนดเขตของการสร้างทางรถไฟ ว่า มีขอบเขตความกว้างยาวและขนาดพื้นที่เท่าใด ย่อมเป็นข้อยกต่อสู้ของภาคเอกชนว่า ไม่ได้บุกรุกที่ดินของการรถไฟ
ทั้งในการจัดทำ “ระวางแผนที่” ศาลฎีกาเคย นำแผนที่พิพาทที่การรถไฟแห่งประเทไทย ได้จัดทำขึ้นในปี 2539 เป็นแผนที่พิพาทในคดี โดยพิพากษาว่า ที่ดินเอกชนครอบครองอยู่บุกรุกและเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงพิพากษาขับไล่เอกชน
ส่วนในคำพิพากษาศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 มีความไม่ชัดเจนของแผนที่และฝ่ายกรมที่ดินโต้แย้งว่า พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้การรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2465 “ไม่ปรากฏแผนที่ดินที่จัดซื้อแนบท้าย”
ศาลปกครองจึงมีคำสั่งให้อธิบดีกรมที่ดินจัดทำแผนที่ใหม่ จึงทำให้เกิดช่องว่าง ที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง โดยมีธงล่วงหน้า “ใช้ดุลพินิจ”ในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดิน ตาม ป.ที่ดิน มาตรา 61 “ผลมติ” ทำให้เกิดความบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้เกิดคำสั่งทางปกครอง เป็นการดื้อแพ่งของอธิบดีกรมที่ดิน ก่อให้เกิดสร้างข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐขึ้นใหม่
อาจพูดได้ว่า “ไม่รักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน”
อีกเหตุผลหนึ่ง เพราะการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแนวเขตที่ดินของอธิบดีกรมที่ดิน ตามคำพิพากษาศาลปกครอง โดยใช้ช่องมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้เกิด กระบวนการ “แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคนในพื้นที่”
ผลมติ กรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดงตามคำสั่งแต่งตั้งของอธิบดีกรมที่ดิน ไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดงทั้งหมด อ้างว่า แนวเขตที่ดินการรถไฟไม่ชัดแจ้ง โดยอ้างว่า พรฎ.จัดซื้อที่ดิน ไม่มีแผนที่แนบท้ายและไม่ยึดถือแนวเขตแผนที่ดินของการรถไฟที่จัดทำขึ้นในภายหลังปี 2539
ทำให้เกิดคำสั่งทางปกครองใหม่อีกครั้ง
แต่การที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอท้ายฟ้องในข้อสาระสำคัญในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ
จำนวน 995 ฉบับ และเอกสารสิทธิที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง
ทำให้เหลือประเด็นที่ศาลปกครองกลางจะวินิจฉัยเพียง “คำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0561.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวน การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ และ “เพิกถอนคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิบดีกรมที่ดิน (อธิบดีกรมที่ดิน) และปลัดกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ซึ่งได้มีคําวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ กรณี รฟท.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวนการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์”
พูดภาษาชาวบ้าน เหลือประเด็นเพิกถอน คำสั่งยุติการสอบสวนของอธิบดีกรมที่ดิน และมติคำอุทธรณ์ให้ยกอุทธรณ์ของการรถไฟฯ ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นเดียวกัน
การที่ศาลปกครองยกคำขอท้ายฟ้อง ข้อ 3 และ ข้อ 4 และไม่รับไว้พิจารณาในประเด็นข้อพิพาท มีผลกระทบต่อ การเพิกถอนที่ดินของกรมที่ดินทั้งหมด 5,083 ไร่ให้เป็นที่ดินของหลวง
ซึ่งแนวโน้มผลคดี โอกาสที่ดินเขากระโดงกลับเป็นของที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือของหลวง โอกาสเป็นไปได้น้อยมาก
เพราะการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง หากได้ปฏิบัติตามกระบวนการที่ถูกต้องตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินชอบด้วยกฎหมาย ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง โดยการใช้อำนาจของอธิบดีกรมที่ดินในการออกคำสั่งทางปกครองมีผลชอบด้วยกฎหมาย มติดังกล่าวในทางกฎหมายและศาลปกครองย่อมเพิกถอนไม่ได้
“เป็นมวยล้มต้มคนดู”
แม้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ออกอาการฮึดฮัดขึงขัง สั่งให้นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดินให้ รายงานผลภายใน 7 วันนับแต่วันนี้ เหตุใดไม่ปฏิบัติเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลปกครองและศาลฎีกา
โดยหลักแล้ว นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ย่อมยืนยันข้อเท็จจริงเดิม อ้างเอาตัวรอดว่า ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย คดียังไม่สิ้นสุดเพราะอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลปกครอง
แต่เจตจำนงแท้จริงฝ่ายการเมือง เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนอำนาจในกระทรวง เป้าหมายหลัก เพื่อต้องการเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ เหมือนกับอธิบดีกรมการปกครองและอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะมีผลแพ้ชนะเลือกตั้ง สส.ในสมัยหน้า
ช่องทางแก้เกม หาก มติคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง ชุดที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดินแต่งตั้งก่อนนี้ ใช้ดุลพินิจและแต่งตั้งกรรมการที่ขาดความเป็นกลาง ย่อมขัดต่อ”หลักความเป็นกลาง”และ “หลักมีส่วนได้เสีย” ย่อมต้องห้ามตามมาตรา 13 และมีสภาพร้ายแรง อันทำให้การพิจารณาทางปกครองไม่เป็นกลาง เจ้าหน้าที่หรือกรรมการจะพิจารณาในเรื่องนั้นไม่ได้ ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
เท่ากับ กระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง ชุดที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดินแต่งตั้ง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้การออกคำสั่งทางปกครองย่อมเสียไป
ย่อมมีผลล้มล้างคำสั่งทางปกครองเดิมที่ออกคำสั่งทางปกครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทางแก้ รมว.มหาดไทยจะต้องใช้อำนาจโยกย้ายอธิบดีกรมที่ดินคนเดิม และแต่งตั้งอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ เพื่อใช้อำนาจในการยกเลิกคณะกรรมการสอบสวนชุดเดิมและแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหม่เพื่อดำเนินการทบทวนคำสั่งทางปกครองที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและออกคำสั่งใหม่เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลปกครองเดิมและคำพิพากษาของศาลฎีกา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทนนิสตั้งเป้า4เหรียญทองซีเกมส์ 'ดร.ณัฏฐ์'ชื่นชมการบริหารงานสมาคมฯ
ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา มอบกำลังใจทีมเทนนิสซีเกมส์ของไทย หลังชมการฝึกซ้อม ที่ทางสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ตั้งเป้าหมายไว้ 4 เหรียญทอง ชมเปาะสมาคมฯ มีการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม พร้อมแนะแนวทางในการประชาสัมพันธ์ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ควรเร่งเครื่องให้คนไทยได้ร่วมรับรู้ เพื่อมาชมและเชียร์ เป็นการให้กำลังใจนักกีฬามากกว่านี้
ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง บิ๊ก มท. 20 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯคนใหม่ 18 จังหวัด-2 ผู้ตรวจราชการ
ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างจากการโยกย้ายและเกษียณอายุราชการในสิ้นปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งสิ้น 20 ตำแหน่ง ดังนี้
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดนิยาม ผู้สมัคร อบต. ต้องนับตั้งแต่ ‘เสนอตัว’ ไม่ใช่วันได้สมัครต่อ กกต.
“ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม” ผ่าปมกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น หลังนักการเมือง อบต.ฮือฮาแจกของช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ระบุชัด สถานะ ผู้สมัคร เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ประกาศตัวลงสนาม ไม่ใช่วันที่ยื่นใบสมัครต่อ กกต. พร้อมเตือ
ไฟเขียวจ่ายเยียวยาน้ำท่วมสงขลา 5 แสนครัวเรือน 4.75 พันล้าน
'ก.ช.ภ.จ.' สงขลา เคาะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 5.28 แสนครัวเรือน วงเงิน 4.75 พันล้านบาท 'ปลัด มท.' สั่งเร่งเบิกจ่ายให้ถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด
'นายกฯหนู' คิกออฟ ยุติความรุนแรงสตรี ยับยั้งก่อนเกิดเหตุจริง
นายกฯ Kick off นโยบายยุติความรุนแรงสตรี พร้อมทำงานเชิงรุก สร้างความปลอดภัย รับบทบาทผู้หญิงพลังสำคัญของประเทศ
ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมการเมืองสามก๊ก ชิงยุบสภาแก้รัฐธรรมนูญเป็นหมันทันที
สืบเนื่องจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้ออกมาโต้ตอบทางการเมืองในเชิงหากฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยไม่รอ แต่ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ


