'วิโรจน์' ซัด 'ฮุนเซน' จะใช้กลไกศาลโลกทำไม ถ้าไม่เคารพอนุสัญญาออตตาวา

‘วิโรจน์’ ลั่น สันนิษฐานไว้ก่อน สงสัยหมาเอาทุ่นระเบิดมากลบไว้ ทำทหารไทยบาดเจ็บ 3 นาย จี้ กต.ชิญ ทูตเขมร แจงให้ได้ ถาม ‘ฮุน เซน’ เนี่ยหรือ จะใช้กลไก ‘ศาลโลก’ ทั้งที่อนุสัญญาที่ลงนามไว้ยังไม่เคารพ แล้วจะมาเรียกร้องอะไร

21 ก.ค.2568-ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอแนะในการตอบโต้เรื่องทุ่นระเบิดชายแดนไทย กัมพูชาว่า ณ วินาทีนี้ สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศประณามกัมพูชาถือว่าถูกต้องแล้ว ตอนนี้การตรวจพิสูจน์ทราบก็พบว่าเป็นทุ่นระเบิด PMN-2 ของรัสเซีย ยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่มีใช้ในประเทศไทย ไม่มีอยู่ในคลังอาวุธของกองทัพ

นายวิโรจน์กล่าวว่า ดังนั้นยืนยันได้ว่าคนที่มาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไม่ใช่ฝั่งประเทศไทยแน่ชัด ถ้าสืบกันดีๆเราก็รู้กันอยู่แล้วถ้าประเทศไทยไม่ได้ใช้ ประเทศไหนใช้ มันชัดเจนอยู่แล้ว และภาพที่นำมาใส่ร้ายก็ชัดเจนว่าเป็นภาพการซ้อมเก็บวัตถุระเบิด ของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ในยุคปัจจุบันนี้ยืนยันด้วยข้อเท็จจริงหมดแล้ว สิ่งที่เราต้องทำมากกว่านี้ ควรต้องเชิญทูตกัมพูชามาหารือ และแจ้งว่าเราต้องการคำตอบในเรื่องนี้ ถ้าไม่ได้รับคำตอบก็ต้องกำหนด ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับกัมพูชาเสียใหม่ให้เหมาะสมกับพฤติกรรม ที่เราประสบปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งการยกระดับรายงานต่อองค์กรระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เช่น หน่วยงานปฏิบัติการเกี่ยวกับทุ่นระเบิดแห่งสหประชาชาติ (UNMAS)

“ผมคิดว่า ควรจะทำหนังสือได้แล้วครับเพื่อเชิญ UNMAS เข้ามาทำงานร่วมกันกับ TMAC เพื่อเป็นการยืนยันชัดเจนเลยว่า เป็นทุ่นระเบิดใหม่ ไม่ได้ใช้ในกองทัพไทย จริงๆประเทศไทยเราไม่ได้สะสมมานานแล้ว เพราะเราเข้าร่วมเป็นภาคีของออตตาวา เราเคารพในอนุสัญญาที่เราให้สัตยาบัน กัมพูชาก็เป็นหนึ่งในภาคีด้วย เข้าใจว่าลงนามพร้อมกันกับประเทศไทย ปี 2540 แต่เราบังคับใช้ก่อน 1 ปี กัมพูชาน่าจะรับรู้ถึงความทุกข์ยากของการที่มีพื้นที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด เขารู้ถึงความเจ็บช้ำน้ำใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ทราบว่าจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร ”

ถามว่า ท่าทีของฝั่งไทยเพียงพอแล้วหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เบื้องต้นคงต้องเป็นอย่างนี้ ถ้าตนจำไม่ผิดปลายเดือนส.ค. นี้จะมีการประชุมภูมิภาคอาเซียนด้านความมั่นคง (ARF) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ควรหยิบยกเรื่องนี้ไปหารือ แจ้งให้เพื่อนสมาชิกรับทราบ รวมถึงปลายปีนี้เดือนพ.ย. จะมีการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน (ADMM) และตนเข้าใจว่าจะมีวง ADMM+ ด้วย ซึ่งจะมีสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย นิวซีแลนด์ เข้าร่วมประชุมด้วย

“ควรจะมีการแจ้งถึงพฤติกรรมทราม ที่เราประสบปัญหาด้วย เพื่อทวงถามถึงความรับผิดชอบ เพราะเรายืนยันว่าทุ่นระเบิด ไม่ใช่ของเราแน่ๆ ผมยืนยันว่าข้อพิพาทระหว่างประเทศ ความชอบธรรมในเวทีโลกสำคัญที่สุด พฤติกรรมต่ำทรามประเทศนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทหารไทยเป็นฝ่ายสูญเสีย น่าจะถือโอกาสนี้ แจ้งให้นานาชาติเพื่อทำลายความชอบธรรมของรัฐบาลกัมพูชาด้วย”

ซักว่ากัมพูชาไม่ยอมรับเพราะกระทรวงกลาโหมกัมพูชาก็ออกมายืนยันว่าไม่เป็นความจริง ปธ.กมธ.การทหาร สภาฯกล่าวว่า ถึงบอกว่าต้องเชิญ UNMAS เข้ามาร่วมตรวจพิสูจน์ทราบ ซึ่งจะทำให้รายงานมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

“ผมก็อยากรู้ว่าเป็นของใคร ถ้าเขาปฏิเสธว่าไม่ได้วาง ก็ต้องข้อสันนิษฐานไปก่อนก็ได้ คงจะมีสุนัขมากลบเอาไว้ แต่ถ้าตรวจพิสูจน์ทราบแล้วก็จะรู้ว่าเป็นของใคร ของ TMAC ผมก็เชื่อมั่น เพราะไม่ได้มีเหตุจูงใจอะไรในการที่เราต้องไปวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แต่เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือในเวทีนานาติมากขึ้น ควรเชิญ UNMAS มาทำงานร่วมกัน”

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องรีบดำเนินการมาตรการที่ตนกล่าวไปนี้ ก็ถือว่าแรงแล้ว ประเทศต่างๆเขาจะได้ตระหนักว่าประเทศแบบนี้หรือที่ละเมินอนุสัญญาออตตาวา ประเทศแบบนี้หรือที่พยายามรณรงค์ยกเลิกการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเพราะเวลาคุณลงนามแล้ว คุณต้องยุติ ห้ามใช้ ห้ามสะสม คลังที่มีอยู่ก็ต้องยุติภายใน 4 ปี ประเทศไทยก็ยุติไปแล้วที่สำคัญคือต้องดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ฝังอยู่ ประเทศไทยเราก็ดำเนินการเรื่อยมา ตนถึงได้บอกเพราะกัมพูชาบาดเจ็บมาก พื้นที่เหล่านั้นพัฒนาอะไรไม่ได้เลย ไม่สามารถเป็นพื้นที่ปลอดภัย ให้กับประชาชนฟากฝั่งใดได้ เขาเป็นประเทศที่เดือดร้อนที่สุดเพราะพื้นที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด แล้ววันนี้คนที่ตระหนักที่สุดกลับใช้วิธีการต่ำทรามแบบนี้ ตนคิดว่าไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว ซึ่งการแจ้งนานาชาติจะทำให้ประเทศแบบนี้ไม่มีความชอบธรรมใดๆได้

เมื่อถามว่า หลังเกิดเหตุการณ์นี้มีการเกณฑ์คนมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นการกลบข่าวหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เขาทำอะไรก็ตาม ตราบใดที่ไม่ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย เขาจะมาเที่ยวแต่หากอยู่ในความระเบียบเรียบร้อยก็อย่าเอามาเป็นประเด็น ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นระหว่างรัฐบาล อย่าให้เป็นเรื่องประชาชนกับประชาชน

“ถ้าจะเอาเป็นบุคคลที่เป็นปัญหากับเราก็คือฮุน เซน กับฮุน มาเนต ผมคิดว่าฮุน เซน ทันแน่นอนกับการลงนามออตตาวาคุณจะลงนามทำไม ถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ อย่างนี้หรือที่คุณจะหยิบเอาประเด็นเรื่องนี้เข้าไปสู่ศาลโลก คนอย่างคุณหรือที่ให้ความเคารพนับถือกับอนุสัญญาที่คุณลงนาม เป็นภาคีกับสังคมโลก คุณยังไม่เคารพเลย แล้วคุณจะใช้เวทีโลกเวทีของนานาอารยประเทศเรียกร้องความเป็นธรรมอะไร ในเมื่อการลงนามของคุณมันไม่มีความหมาย แล้วโลกจะมองคุณอย่างไร ถ้าทำแบบนี้รัฐบาลกัมพูชาจะเสียความชอบธรรมในเวทีโลก เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งดำเนินการ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า

กต. เผยประธานประชุมอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล มีท่าทีต่อไทยเป็นไปด้วยดี

'สีหศักดิ์' จัดประชุมเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก เพื่อสื่อสารสถานการณ์ไทยกัมพูชาต่อมิตรประเทศ ยืนยัน จะเดินหน้าเรื่องทุ่นระเบิดอย่างเต็มที่ ไม่ปล่อยให้เงียบหายแน่นอน

ทบ.โต้กัมพูชาบิดเบือน ยันกระสุนคลัสเตอร์มีเป้าหมายทหาร ไม่ใช่ทุ่นระเบิดสังหารพลเรือน

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพวัตถุระเบิด และถ้อยแถลงของ นายลี ทุจ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา CMAA โดยกล่าวอ้างว่า ไทยมีการใช้กระสุนปืนใหญ่แบบกระสุนคลัสเตอร์ M-46 ในหลายประเด็นดังนี้

ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา

นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ