ดร.ณัฏฐ์ เปิดข้อกฎหมาย-คำพิพากษา-เบื้องหลังแถลงการณ์กรมที่ดิน สะกิดพิรุธอธิบดี ปมตั้งกรรมการสอบสวนที่อาจโยงเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น
29 กรกฎาคม 2568 – สืบเนื่องจากกรมที่ดินได้ออกเอกสารแถลงการณ์ผ่านสื่อระบุถึงกระบวนยการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เป็นไปตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 โดยอธิบายข้อกฎหมายว่า สามารถกระทำได้เพียง 3 ช่องทาง ทำให้กระแสร้อนแรงในปมที่ดินเขากระโดงร้อนแรงขึ้นมาทันที สวนทางกับคำชี้แจงของอธิบดีกรมที่ดินต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี นั้น
ล่าสุด ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน เผยแพร่ความเห็นระบุว่าเพื่อประโยชน์สาธารณะ ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจกับทหารกล้าทุกนายที่เสียชีวิตปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย และประชาชนที่เสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บปัญหาชายแดนไทย การเจรจาหยุดยิงโดยฝ่ายการเมืองวานนี้ และฝ่ายทหารในวันนี้ จะนำไปสู่สันติภาพระหว่างดินแดน แต่ต้องระวังว่า ข้อตกลงหยุดยิง เป็นเหลี่ยมของนายฮุน เซน ฝ่ายกัมพูชา หรือไม่ เพราะเจรจาหยุดยิงตั้งแต่เที่ยงคืน แต่ยังกระหน่ำทุกดอกยันเช้า
การแถลงการณ์ของกรมที่ดิน เป็นการร้อนตัวของนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เพราะข้อกฎหมายที่เพิกถอน 3 วิธีการตาม ป.ที่ดิน มาตรา 61 เป็นข้อกฎหมายที่ประชาชนทั่วไปย่อมรู้อยู่แล้ว ไม่จำต้องมาอธิบายขยายความประเด็นวิธีการเพิกถอน
ไม่ต่างจากสุภาษิตไทย “กินปูน ร้อนท้อง” แสดงถึง อาการพิรุธ ร้อนรนผิดสังเกต
ปมที่ดินเขากระโดง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามป.ที่ดิน มาตรา 61 เป็นเหลี่ยมของนายพรพจน์ฯ อธิบดีกรมที่ดินสีน้ำเงิน หรือไม่ อย่างไร
ต้องชำแหละให้ประชาชนหูตาสว่าง แม้การรถไฟแห่งประเทศไทยที่ไปยื่นฟ้องใหม่ จะเป็นการฟ้องซ้ำและศาลปกครองมีคำสั่งไม่รับไว้พิจารณาบางข้อหา แม้จะใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำสั่ง ในเมื่อปัญหาอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดย่อมพิพากษายืน โอกาสที่จะเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ค่อนข้างมีโอกาสน้อย
ตนขอไล่เรียงให้ฟัง เป็นองค์ความรู้ติดอาวุธทางปัญญา ศาลปกครองกลางในคดีเดิม ได้วินิจฉัยเป็นที่สุดว่า คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842 - 876/2560 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 ได้วินิจฉัยไว้อย่างชัดแจ้งว่า ที่ดินตามแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินสายนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ตอนแยกที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ กิโลเมตรที่ 375 + 650 เป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟต่อจากนครราชสีมา ถึงอุบลราชธานี ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน พระพุทธศักราช 2462 เมื่อกรมรถไฟแผ่นดินใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยการก่อสร้างทางรถไฟเข้าไปลำเลียงหินที่บริเวณเขากระโดง จึงถือได้ว่าที่ดินดังกล่าว เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ส่วนคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นที่สุด การรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้เว้นแต่บุคคลภายนอกนั้น จะพิสูจน์ได้ว่า ตนมีสิทธิดีกว่าประกอบกับที่ดินบริเวณที่ศาลมีคำพิพากษากล่าวอ้างถึงมีฐานะเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งสามารถใช้จัดทำบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปได้ หาใช่มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีตามมาตรา 145 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผลชี้ขาดว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดง เป็นของหลวง แม้ออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินหลวงและเอกชน จะครอบครองมาเนิ่นนาน ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ โดยการรถไฟไม่ต้องไปฟ้องคดีแพ่งไล่ที่ละแปลงใหม่กับเอกชนที่ครอบครองที่ดินแต่ละแปลงในอาณาบริเวณเดียวกัน
ชำแหละ เหลี่ยมดอกแรก หักคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เพราะแม้ในคำพิพากษาของศาลฎีกาทั้งสองคดีและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 จะไม่ได้วินิจฉัยให้เพิกถอนที่ดินแปลงอื่นๆ นอกเหนือจากที่ปรากฎเป็นข้อพิพาทในคดีก็ตาม แต่คำพิพากษาได้วินิจฉัยอย่างชัดแจ้ง ถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดี (รฟท.) จึงสามารถใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้ เว้นแต่บุคคลภายนอกนั้นจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า
อีกประการหนึ่ง ศาลปกครองได้ มีคำพิพากษาให้ อธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทั้งนี้ ให้อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา ให้ผู้ฟ้องคดีร่วมกับคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อหาแนวเขตที่ดินเพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนจัดทำรายงานการสอบสวนให้แล้วเสร็จ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่ประมวลกฎหมายที่ดิน กฎและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดต่อไป
ช่องทางนี้แหละ เป็นเหลี่ยมดอกที่สอง ใช้ช่องว่างกฎหมาย โดยตั้งคณะกรรมการสอบสวน ป.ที่ดิน มาตรา 61 โดยนำประเด็น “แผนที่” ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยกล่าวอ้าง ซึ่งได้จัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 เป็นการจัดทำขึ้นตามมติที่ประชุม กบร. จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรกลุ่มสมัชชาคนจน เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2539 โดยผู้ฟ้องคดีนำแผนที่ดังกล่าว ไปใช้ในการต่อสู้คดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 และ ที่ 8027/2561 โดยโต้แย้งว่า ไม่ใช่แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินแลอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ พระพุทธศักราช 2464 ทำให้เป็นที่มาของคณะกรรมการสอบสวนฯยุติเรื่องและนายพรพจน์ฯอธิบดีที่ดินเห็นชอบ ทำให้กรมที่ดินไม่เพิกถอนเขากระโดง และเป็นสารตั้งต้นก่อให้เกิดคำสั่งทางปกครองใหม่ ทำให้การรถไฟฯฟ้องคดีปกครองใหม่อีกรอบ
การตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยตั้งคนของตนเองในพื้นที่ ที่มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองในจังหวัดบุรีรัมย์ ค่ายสีน้ำเงิน โดยใช้ช่องว่างแผนที่ดิน อ้างว่า แผนที่ดินที่ใช้ในศาลฎีกาเป็นแผนที่จัดทำในปี 2539 โดยไม่ปรากฏ “แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินแลอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ พระพุทธศักราช 2464” เป็นศรีธนญชัย
แต่การแต่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดงชุดที่นายพรพจน์ฯตั้งขึ้นนั้น ขัดต่อ “หลักส่วนได้เสีย”และปรากฏชื่อคณะกรรมการบางคน เป็นหัวหน้ากลุ่มคนรักบุรีรัมรัมย์ที่เชื่อมโยงค่ายสีน้ำเงินโดยตรง จึงขัดต่อหลัก “สภาพร้ายแรง”อันทำให้การพิจารณาทางปกครองไม่เป็นกลาง ตาม พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 13 ประกอบมาตรา 16
ส่วนที่นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคภูมิใจไทย อ้างว่า คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ 1473/2567 และ 241/2568 วินิจฉัยว่า การดำเนินการของอธิบดีกรมที่ดินไม่บกพร่องและถูกต้องแล้ว ดังนั้น การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินอีกครั้ง เป็นการก้าวล่วงคำวินิจฉัยของศาล ตนเห็นต่างว่า นายศุภชัยฯ อธิบายให้สังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนและไม่เป็นความจริง เพราะที่ยกอ้างคำพิพากษาศาลปกครองคนละหมายเลขคดี คนละเรื่อง ในคดีพิพาทที่ดินเขากระโดง มีเฉพาะคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 และในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 เท่านั้น เป็นข้อพิพาทระหว่างการรถไฟฯกับกรมที่ดิน ศาลยังไม่เคยวินิจฉัยว่า การดำเนินการของอธิบดีกรมที่ดินไม่บกพร่องและถูกต้องแล้ว เป็นการอ้างมั่ว เพราะการรถไฟฯมาฟ้องในคดีเดิมเพราะอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าหรือไม่ทำหน้าที่ตาม มาตรา 9 วรรคหนึ่ง(2) พรบ.จัดตั้งศาลปกครองฯ ส่งผลให้ นายภูมิธรรมฯ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย สามารถ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินอีกครั้ง ไม่เป็นการก้าวล่วงคำวินิจฉัยของศาล เพราะเป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวข้องกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้
ดร.ณัฏฐ์ เตือนกฎเหล็กเลือกตั้ง ยุบสภาแล้วผู้สมัคร-พรรคการเมือง ‘ห้ามแจก’ ทันที
นักกฎหมายมหาชนชี้ กฎหมายเลือกตั้งใหม่กำหนดชัด กรณียุบสภาให้นับข้อห้ามหาเสียงตั้งแต่วันยุบสภา ไม่ต้องรอ กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง ฝ่าฝืนเสี่ยงคุก-ตัดสิทธิการเมืองยาว 20 ปี
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ ศึกไทย-กัมพูชา เข้าข่ายเหตุจำเป็น ให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ “วันเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร” ภัยสู้รบไทย-กัมพูชา ให้ยึดเหตุการณ์ใน “วันหย่อนบัตร” สิ้นสุดลงหรือไม่ เป็นเงื่อนไขให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้
ราชกิจจาฯ ประกาศอนุญาตแรงงาน 'ลาว-เมียนมา-เวียดนาม' อยู่ไทยและทำงานได้เป็นกรณีพิเศษ
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติลาว เมียนมา และเวียดนาม
ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมแก้รธน. วันรัฐธรรมนูญภายใต้อำนาจกลุ่มการเมือง
นักกฎหมายมหาชนชี้ ครบรอบวันรัฐธรรมนูญปีที่ 93 ประเทศยังติดหล่มอำนาจกลุ่มผลประโยชน์ เกมแก้รัฐธรรมนูญถูกคุม
ดร.ณัฏฐ์ อัดเพื่อไทยสับขาหลอกเล่นสองหน้า ปมยื่นฟันจริยธรรมอนุทิน-รมต.สีเทา
นักกฎหมายมหาชนชี้ การยื่นสอยนายกฯ-รมต.สีเทา เป็นเกมสับขาหลอก เหล้าเก่าในขวดใหม่ เพื่อปั่นราคาและกดดันการเมือง มากกว่าตรวจสอบจริงจัง

