ครม.ไฟเขียวร่างถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ รับเก็บภาษีมะกัน 0% หลายรายการ คาดใช้เวลาลงรายละเอียดรายตัวเกิน 1 เดือน ก่อนชงเข้าสภามีผลบังคับใช้ พร้อมจัด 2 แหล่งเงินอุ้มเอกชน
1 สิงหาคม 2568 - เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุม ครม.นัดพิเศษ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ เพื่อใช้ดำเนินการเกี่ยวกับข้อตกลงภาษีทางการค้ากับรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) สินค้าของไทยในอัตรา 19% สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ รัฐบาลจะเร่งลงรายละเอียดรายสินค้า โดยเฉพาะรายการสินค้าที่ไทยจะเรียกเก็บภาษีกับสหรัฐฯ ในอัตรา 0% ซึ่งมีอยู่หลายรายการ ซึ่งบางรายการจะได้รับภาษี 0% ทันที แต่บางรายการจะขอเวลาในการปรับตัวให้มีความพร้อมก่อน รวมทั้งบางรายการที่จำเป็นต้องกำหนดโควต้า คาดว่า รายละเอียดทั้งหมดนี้ จะใช้เวลานานกว่า 1 เดือน จึงจะได้ข้อสรุป และมีผลบังคับใช้ โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเสนอเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภาด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า ข้อเสนอของไทยที่ได้ยื่นไปยังสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการประกาศอัตราภาษีนำเข้าที่ 19% เป็นข้อตกลงที่ยังไม่มีข้อผูกพันตามกฎหมาย เป็นเพียงหลักการใหญ่ที่ได้ตกลงกันไว้เบื้องต้นในชั้นการเจรจา ซึ่งจะต้องมีการลงรายละเอียดออกมาเป็นรายสัญญาทุก ๆ เรื่อง ดังนั้น รัฐบาลได้จึงนำข้อเสนอทั้งหมดมารายงานต่อที่ประชุม ครม.นัดพิเศษ ครั้งนี้ และจัดทำเป็นร่างถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งที่ประชุมครม.ได้มีมติเห็นชอบแล้ว
"หลังจากครม.เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ แล้ว สิ่งเป็นข้อตกลงเบื้องต้นคงมีการเผยแพร่จากทางสหรัฐฯ โดยจะนำข้อตกลงทั้งหมดมาเจรจา เพื่อนำไปสู่การทำเป็นสัญญาในระยะต่อไป เพราะตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนครั้งที่ 1 ที่จะต้องลงรายละเอียดในเร็ววัน เพราะสหรัฐฯ ได้แจ้งมาว่าทันทีที่เสร็จเรื่องนี้ก็อยากหารือต่อทันที" นายพิขัย กล่าว
รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวว่า ในรายละเอียดของการเจรจาเรื่องต่าง ๆ เช่น การซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ จะมีกติการ่วมกันอย่างไร เช่นเดียวกับกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (Rule of Origin) จะต้องมาตกลงกันอีกครั้งว่าจะมีแนวทางอย่างไรด้วย
เมื่อถามถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ นั้น นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดเตรียมมาตรการรองรับแล้วตามความเป็นที่เกิดขึ้นของลักษณะธุรกิจ ส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ช่วยเหลือหลัก ๆ ทั้งการจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนชั่วคราวสำหรับการส่งออก อีกส่วนคือผ่านกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวล่าสุดรัฐบาลอยู่ระหว่างการหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเป็นรายกลุ่ม หรือเป็นประเภทธุรกิจด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลอัดฉีดแพ็กเกจใหญ่ เพิ่มสภาพคล่อง SME มาตรการสินเชื่อ-คืนภาษี วงเงิน 3.27 แสนล้าน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบมาตรการ “Quick Big Win เพื่อ SMEs ไทย
'น้ำท่วมหาดใหญ่' เพิ่มเงื่อนไขซักฟอก 'อนุทิน'
นายเทพไท เสนพงศ์ โพสต์คลิปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า น้ำท่วมหาดใหญ่ เพิ่มเงื่อนไขซักฟอกอนุทิน
SCB EIC ชี้ปี69อุตฯอาหารทะเลไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงทั้งภาษีทรัมป์-แข่งขันรุนแรง
SCB EIC มองอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยในปี 2569 มีแนวโน้มเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านลบสูงขึ้น ทั้งจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ภาษีทรัมป์ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
ไทยลุยกู้ระเบิดแลกลดภาษีสหรัฐ คนระดับทรัมป์พูดแล้ว เรื่องโจ๊กหรือไม่ แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด
นายกฯ เผย ไทยเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดแลกลดภาษีสหรัฐฯ ลุ้นต่ำกว่า 19% ลั่น ’ทรัมป์‘ พูดแล้วโจ๊กไม่โจ๊กไม่รู้ แต่คนระดับนี้พูดต้องทำดีที่สุด
รัฐบาลแถลงแก้ชายแดน กองทัพระงับถอนอาวุธหนัก กต.รุกฟ้องโลก เจรจาภาษีสหรัฐฯจบสิ้นปี
โฆษกรัฐบาล ย้ำนายกฯหนักแน่นแก้ชายแดน สหรัฐฯแยกเรื่องการค้า กับปมขัดแย้งไทย-เขมร ด้าน “โฆษก กห.” ย้ำจะปล่อยเชลยศึกจนกว่าจะหมดสิ้นเป็นปรปักษ์ “สตช.” เชิงรุกปราบปรามสแกมเมอร์-อาชญากรรมออนไลน์ จับมือทั้งใน-ต่างประเทศ


