'เท้ง’ จี้ปฏิรูประบบงบประมาณ พ้อหูหนวกไม่ฟังเสียงสภา ชี้งบตาบอด ขาดความโปร่งใส มองไม่เห็นเงินนอกงบประมาณ ซ้ำยังขาดเข็มทิศ บอก 'รัฐบาล" ต้องถือธงนำ-สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน
13 ส.ค.2568 - ในเวลา 11.50 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า เนื่องจากตนเองได้แปรญัตติไว้เกือบทุกมาตรา ทุกกระทรวง เพื่อสะท้อนปัญหาให้เห็นว่า การจัดสรรงบประมาณในปีนี้มีปัญหาซ้ำๆ ในทุกกระทรวงอย่างไรบ้าง หรือที่สรุปว่า คิดไม่รอบ คือไม่มีความรอบคอบ และคิดไม่ลึก คืองบลงทุนไม่ได้ถูกลงทุนเพื่อสร้างประเทศ และเพื่อประหยัดเวลาในการประชุม จะขอรวบทุกประเด็นมาอภิปรายในครั้งนี้
นายณัฐพงษ์ เห็นด้วยว่า ควรปรับลดงบประมาณ เพื่อเก็บกระสุนไว้ให้ประหยัดพื้นที่ทางการคลังเพื่อลงทุนให้กับประเทศในระยะยาว ขณะนี้ประเทศเราเผชิญกับ 2 วิกฤต 2 สงคราม ทั้งวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา และวิกฤตการเมืองรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ทั้งนิติสงครามและสงครามการค้า เป็นสิ่งที่พวกเราอยากเห็นว่า ในงบประมาณปี 2569 รัฐบาลได้เตรียมเกราะป้องกันและสร้างการลงทุนเพื่ออนาคตของประเทศอย่างไรบ้าง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลที่แปรญัตติกลับมาไม่ตรงจุดเลย ปีนี้กรรมาธิการฯ สามารถตัดลดงบประมาณได้มากกว่าปีที่แล้ว คือ 8,920 ล้านบาท แต่ผลงานปีนี้ยังต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ การทำหน้าที่ของกรรมาธิการฯ จึงเป็นการตอดเล็กตอดน้อยเท่านั้น ส่วนการแปรญัตติซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล เพราะการแปรญัตติยังลงไปที่รายจ่ายประจำอื่นๆ เช่น เงินเดือนของบุคลากรในองค์กรอิสระ
“รายจ่ายต่างๆ แบบนี้ควรตั้งมาเต็มจำนวนตั้งแต่ร่าง พ.ร.บ. ในวาระ 1 แล้ว ไม่ควรแปรญัตติกลับมาในวาระ 2 นั่นแปลว่าในวาระ 1 รัฐบาลไม่รอบคอบที่จะทำให้รายจ่ายประจำเหล่านี้ตั้งเข้ามาอย่างเต็มจำนวนอย่างที่ควรจะเป็น” นายณัฐพงษ์ กล่าว
สำหรับงบลงทุน ก็น่าผิดหวัง เพราะงบลงทุนส่วนใหญ่ของประเทศยังเหมือนเดิม คือ งบการตัดถนน สร้างตึก ขุดคลอง ซึ่งเราได้เสนอแนะไปแล้วตั้งแต่วาระ 1 เราอยากเห็นรัฐบาลโยกงบประมาณไปลงทุนให้ถูกจุด จึงน่าผิดหวังอย่างยิ่งกับท่าทีของรัฐบาลที่ดูเพิกเฉยกับ 2 วิกฤต 2 สงคราม งบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศ สามารถสรุปได้ว่า เกิดจากกระบวนการหูหนวกตาบอด ขาดเข็มทิศไร้แผนที่
สำหรับ หูหนวก ตรงที่ไม่ฟังเสียงสภาฯ เลย ข้อสังเกตของกรรมาธิการฯ ตั้งมาอย่างยากลำบากในทุกปี แต่ส่วนราชการได้ปรับปรุงมาตรงแค่ไหน กล้าพนันว่าแทบไม่มีการแก้ไขเนื้อหาภายในใดๆ เลย เสียงจากสภาฯ ไม่เคยมีความหมาย สส. เป็นเพียงแค่ตรายางประทับให้กับงบของส่วนราชการประจำ
ส่วน ตาบอด ตรงที่ไม่มีความโปร่งใส เพราะยังมีเงินนอกประมาณอีกเยอะ ที่อยู่เหนือการตรวจสอบของสภาฯ โดยตรง และอยู่นอกสายตาประชาชน เช่น อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่ม ซึ่งเป็นเงินสะสมตามองค์กรอิสระ หรือโครงการซื้อตึก SKYY9 แพงเกินจริง จากกองทุนประกันสังคม เรามุ่งหวังให้รัฐบาลมาแก้ไขการจัดทำงบประมาณให้โปร่งใสยิ่งขึ้น
ขณะที่ ขาดเข็มทิศ คือสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง ต่างคนต่างทำ และไร้แผนที่ คือมองไม่เห็นภาพรวม งบประมาณรายจ่ายประจำปี ต้องมองถึงรายได้ เพราะรัฐมีรายได้อื่นๆ ที่ยังไม่ส่งคืนคลังอีกเยอะ เช่น รัฐพาณิชย์ ธุรกิจกองทัพ ที่เรายังมองไม่เห็น
“สิ่งต่างๆ ที่ผมพูดมา ถ้าผมมีอำนาจในฝ่ายบริหาร ยืนยันอีกครั้งว่า เราสามารถแก้ได้เกือบทุกเรื่อง เพื่อให้งบประมาณฟังเสียงสภามากขึ้น ประชาชนมองเห็นไส้ในได้มากขึ้น มีทิศมีทางมากขึ้น และเราเห็นสุขภาพทางการคลังของประเทศได้มากขึ้น” นายณัฐพงษ์ กล่าว
นายณัฐพงษ์ ชี้ว่า ทุกปัญหาที่บอกไป ถ้าเราไม่ปฏิรูประบบงบประมาณ ที่ฝ่ายบริหารสามารถลงมือทำได้จริงๆ โดยไม่ต้องแก้กฎหมาย ไม่มีวันที่เราจะเห็นเงินในทุกๆ กระเป๋าที่รัฐถืออยู่ ไม่มีทางจะสามารถบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเหล่านั้นไม่พุ่งเป้าและตรงจุดมากขึ้น
นายณัฐพงษ์ สรุปว่า เศรษฐกิจไทยเวลานี้ต้องการเม็ดเงินลงทุนใหม่ ที่สร้างความเติบโตให้กับประเทศในอนาคต ไม่ได้กระจุกตัวอยู่กับผู้ได้รับสัมปทานบางกลุ่มเท่านั้น เงินลงทุนนั้นควรสะท้อนอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เหล่านั้น เพื่อให้นักลงทุนเชื่อมั่นและเห็นโอกาส ความเชื่อมั่นมาจากเสถียรภาพทางการเมือง และความชอบธรรมของรัฐบาล ซึ่งอาจเกี่ยวโยงกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่การมองเห็นโอกาส หากรัฐบาลเตรียมร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ฉบับนี้ดีพอ จะทำให้นักลงทุนเห็นภาพตรงกัน
นายณัฐพงษ์ ทิ้งท้ายว่า การลงทุนที่อยากเห็น เช่น การปลูกเมืองรอง ทำให้คนต่างจังหวัดมีชีวิตที่ดี การลงทุนปลูกโซลาร์บนหลังคาประชาชนเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ลดค่าไฟในตัว การลงทุนปลูกข้าวอย่างยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น รัฐบาลมีหน้าที่ประกาศเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วเอกชนจะมาร่วมลงทุน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
น้ำลดให้รีบตัก! ‘หัวหน้าเท้ง’ สอนวิธีเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ 9 พันน้อยไป
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความว่าอย่าผลักภาระให้ประชาชนต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อรับการเยียวยา น้ำท่วมใต้ครั้งนี้สาหัส พวกเขาสูญเสียมากเกินไปแล้ว
'เท้ง' สอน 'อนุทิน' บูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่
'ณัฐพงษ์' แนะ 'รัฐบาล' ต้องบูรณาการการทำงานกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ เร่งประสานงานศูนย์พักพิงอิสระ เพื่อสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น กระจายความช่วยเหลือให้ครบถ้วนด้วย
'หัวหน้าเท้ง' จี้รัฐบาลเอาให้ชัดใครคุมแก้น้ำท่วมหาดใหญ่
'ณัฐพงษ์' ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ ห่วงรัฐไร้หัวโต๊ะ-ศูนย์กลางข้อมูลที่ชัดเจน สร้างความสับสนหน้างาน-ช่วยเหลือได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
'ณัฐพงษ์' ร้อง 'โอ้โห' โดนถามเลือกตั้งครั้งหน้าจับมือ 'เพื่อไทย' ได้หรือไม่
'เท้ง' แจง 'ปชน.' วางแคนดิเดต 3 คนตามลำดับ กันข้อครหา 'นายกฯ กล่องสุ่ม' ยันไปต่อได้ แม้มีคดี 44 สส. ปัดจะจับกับใคร 'เพื่อไทย' หรือ 'ภูมิใจไทย' หากต้องเป็น 'รัฐบาลผสม' ร้องโห ขออนุญาตไม่ตอบ บอกขอใช้วิธีการทูต ไม่จําเป็นต้องเลือกข้าง
'เท้ง' ร่ายยาวรีชาร์จประเทศไทย สไตล์วิศวคอมพิวเตอร์ หากได้เป็น 'นายกรัฐมนตรี'
'เท้ง' ขอฉายภาพประเทศไทยสไตล์ 'พ่อหนุ่มวิศวะคอม' แย้มสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า 3 คำ 'ไม่เทา-เท่าเทียมกัน-เท่าทันโลก' จะเป็นกลยุทธ์หลัก 'ปชน.' หวังยก GDP ไทยเทียบอาเซียน-โลก อัด รัฐราชการแข็งมาก จัดงบแบบเดิมทุกปี ชี้ 'รัฐบาล' ต้องเอาจริง มีเจตจำนงทางการเมือง-มีความสามารถ-วางบทบาทไทยในเวทีโลก
ไม่พลิก! 'ปชน.' เปิดตัว 'ณัฐพงษ์-ศิริกัญญา-วีระยุทธ' 3 แคนดิเดตนายกฯ สู้ศึกเลือกตั้ง
เท้ง เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯพรรค ปชน. บอกเราไม่อยากให้เป็นนายกฯ กล่องสุ่ม ไม่อยากให้ประชาชนต้องไปลุ้นกันเองว่า ถ้าเข้าคูหาแล้วจะได้ใคร


