นักกฎหมายมหาชน ชี้ชัดเกมเร่งด่วนของเพื่อไทยไม่อาจเดินได้จริง การโหวตนายกฯใหม่ต้องรอศาล รธน.วินิจฉัยก่อน ส่วน MOU พรรคประชาชน ข้อ 4 ยังส่อขัดรัฐธรรมนูญ
5 กันยายน 2568 - สืบเนื่องจากในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ในวันที่ 5 กันยายน 2568 โดยมีระเบียบวาระเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะและกล่าวว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อได้บรรจุในระเบียบวาระการประชุมแล้ว เป็นอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร
แต่ สส.สมาชิกรัฐสภา จะพิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตาม รธน.มาตรา 159 ได้หรือไม่ เป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าคนละส่วนกัน เพราะมีตัวแปรอื่นประกอบ อาจสั่งปิดประชุมก็ได้
กรณีที่จะเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ ตัวแปรหลัก เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ.0001/8828 ลงวันที่ 2 กันยายน 2568 ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปัญหาความชอบด้วยกฎหมายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยขอให้ “เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ” ในกระบวนการองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เข้าร่วมนั่งพิจาณาและคำพิพากษาในการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องที่พิจารณาที่ 17/2568
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง แต่นายปัญญาฯ ยังมานั่งพิจารณาและทำคำวินิจฉัย ทำให้เกิดข้อโต้แย้งปัญหาความชอบด้วยการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ขัดต่อรัฐธรรมนูญและ พรป.ว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยคำร้องที่ส่งไป อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่า จะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน แม้จะไม่มีคำสั่งคุ้มครองจากศาลก็ตาม ต้องเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตีออกไปก่อน
โดยทั่วไป จะใช้เวลา ประมาณ 12-15 วันหรือมากกว่านั้น จะทราบผลว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่
แม้ประธานสภาฯจะได้บรรจุระเบียบวาระเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตาม รธน.มาตรา 159 ไว้แล้วก็ตาม ไม่อาจโหวตเลือกในวันนี้ได้ “ต้องเลื่อนออกไปก่อน”
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญได้รับคดีไว้วินิจฉัยในประเด็นเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ทำให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญย่อมถูกกระทบกระเทือน อาจนำไปสู่การเพิกถอนคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตัวชี้วัด คือ “ โปรดเกล้าฯวันไหนกันแน่ ระหว่างวันที่ 29 หรือ 30 สิงหาคม 2568
แต่ในแง่กฎหมาย ให้ถือ วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลทางกฎหมาย
ผลทางกฎหมาย การยื่นคำร้องของประธานสภาฯโดยส่งคำร้องของ สส. ทำให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นวินิจฉัยว่า นางสาวแพทองธารฯขาดคุณสมบัติหรือไม่ ยังไม่เป็นที่สุด และไม่ผูกพันทุกองค์กร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรคท้าย
พูดภาษาชาวบ้านว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ จะขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะหากศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ทำใสถานะนางสาวแพทองธารฯ อดีตนายกรัฐมนตรี ฟื้นคืนชีพกลับมา ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรี 2 คนในคราวเดียวกันไม่ได้ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องเลื่อนออกไป รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนว่า รับหรือไม่รับคำร้องที่ส่งไป
ส่วนที่ถามว่า หากเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันที ทำให้เกมพลิกการเมืองของเพื่อไทย หรือไม่
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า เกมพลิกด่วนตัดหน้าของพรรคเพื่อไทย เพื่อพลิกเกมจัดตั้งรัฐบาล หากพูดภาษาชาวบ้าน อาจเรียกว่า “โปรไฟไหม้” แต่ในแง่มิติทางการเมือง ใช้ไม่ได้ผล เหตุเป็นเช่นนี้ เพราะพรรคประชาชนแถลงต่อสาธารณะ เสียง 143 เสียงจากพรรคประชาชนจะเทให้กับนายอนุทิน มีผลผูกพัน เป็นสัญญาประชาคม และมาจาก มติ กก.บห.พรรคประชาชน ตาม พรป.พรรคการเมือง พูดง่ายๆ ยึดหลัก “สัญญาประชาคม” และ “กฎหมายพรรคการเมือง”
แม้ สส.จากพรรคประชาชน จะมีอิสระ ในการเลือกใครก็ได้ก็ตาม แต่การพลิกเกมนี้ ของพรรคเพื่อไทย โอกาสเป็นไปได้น้อยหรือแทบเป็นศูนย์ เพราะหากพรรคประชาชนพลิกเกม กลับไป กลับมา จะทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นต่อพรรคประชาชนเอง จะตอบคำถามผู้สนับสนุนพรรคจำนวน 14 ล้านเสียง ได้อย่างไร มีผลทางการเมืองทำให้กระแสความนิยมลดลง มีผลกระทบโดยตรงต่อการเลือกตั้งสมัยหน้า
แม้จะใช้เกม ตระบัดสัตย์เพื่อชาติ ข้ามขั้ว “ไม่มีเรา ไม่มีลุง” “ไม่จับมือกับพรรค มาตรา 112” เทเสียงให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ตาม ย่อมมีผลต่อความเป็นพรรคหัวก้าวหน้าโดยตรง ส่งผลทำให้กระแสสนับสนุนต่อพรรคประชาชนลดน้อบลง โอกาสที่จะได้เสียง สส.เท่าเดิมสมัยหน้าจะเป็นตัวแปรทำให้ ได้ สส.น้อยลง เพราะขัดอุดมการณ์ สะดุดขาตนเองและ “แทงม้าผิดข้าง” ไปสนับสนุนพรรคอนุรักษ์นิยม โดยยกมือให้ แต่ถอยมากลับเป็นฝ่ายค้าน เรียกว่า หวงเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน
เพราะหากพรรคประชาชนร่วมรัฐบาล จะไม่อาจเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 106 วรรคหนึ่ง เรียกว่า “หวังกินรวบ” แทงกั๊กทั้งสองฝ่าย
แต่มิได้เป็นเช่นนั้น เพราะตัวแปรหลัก หากนายอนุทินฯ บิดพลิ้ว ไม่ยุบสภาภายใน 4 เดือนนับแต่แถลงนโยบาย พรรคประชาชนจะใช้ช่อง ยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
ตัวแปรจะต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง หาก พรรคเพื่อไทย ฝ่ายค้านด้วยกัน ไม่เทเสียงให้ พรรคประชาชนไม่อาจรวบรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งได้ เพราะไม่อาจทำให้นายอนุทินและ ครม.ชุดใหม่พ้นจากเก้าอี้ได้ เป็นคนละหมัดกันระหว่างเพื่อไทยกับพรรคประชาชน
ส่วนข้อตกลงหรือ MOU ข้อ 4 ที่ว่า สร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาภายใน 4 เดือน พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการโดยวิธีการใดๆ เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ข้อความตรงนี้ ย่อมขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 114 และ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพราะรัฐธรรมนูญห้ามบุคคลใดกระทำครอบงำ และบุคคลอื่นใดมิใช่สมาชิกพรรคครอบงำ กำกับควบคุม พรรคการเมืองทำให้ขาดความเป็นอิสระไม่ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภูมิใจไทย ดีเดย์ 24 ธ.ค.นี้ เปิดนโยบายเลือกตั้ง ดรีมทีม มาครบ 'อนุทิน-สีหศักดิ์-เอกนิติ-ศุภจี-ไชยชนก-ซาบีดา'
นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น.จะมีการประชุมและแถล
นายกฯ เปิดงานโอทอป ชวนคนไทยรวมพลังอุดหนุนสินค้าช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ
นายกฯ เปิด OTOP ปลื้มตียอดแตกรายได้มากกว่าทุกปี ชวนอุดหนุนสินค้า ช่วยเพื่อนร่วมชาติ คนชายแดน-ภัยพิบัติ ในยามบ้านเมืองปัญหารุมเร้า ขอให้มั่นใจทุกอย่างต้องจบผ่านไปด้วยดี ไทยต้องชนะเท่านั้น
🛑LIVE เสียงของคน 'เมืองหลวง' ด่านอรหันต์ พลิกเกม ปชป. | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (31)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม
พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า
'อนุทิน' ขีดเส้นไม่ให้ปะทะเพิ่ม ยังไม่ให้ประเทศไหนเป็นคนกลาง
“อนุทิน” เผย ยังเข้มสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ไม่ให้ปะทะเพิ่มเติม ยัน ดูแลครอบครัวทหารเสียสละเต็มที่ ระบุ ยังไม่ให้ประเทศไหนเข้ามาเป็นคนกลาง

