'ณัฐพงษ์' ยืนยัน เวลานี้คือโอกาสดีที่สุดของประเทศเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ

'ณัฐพงษ์' ตอบแทน 'สส.ปชน.' เชื่อมั่นไม่มีงูเห่า ถาม 'พท.' ที่ไม่เห็นด้วยกับ 'รัฐบาลเสียงข้างน้อย' เหตุถ้าไม่มีใครเลือก 'อนุทิน' แล้ว 'พท.' จะกลับไปเป็น 'รัฐบาลเสียงข้างมาก' ใช่หรือไม่ เชื่อไม่มีเวลาไหนเหมาะสมแก้ รธน.มากกว่าตอนนี้ ชี้ หากทุกพรรคมุ่งหน้าในการสร้างคะแนนความนิยม เพื่อมี สส.ในสภามากที่สุด ไปต่อรองได้เก้าอี้ รมต.ของรัฐบาลหน้า ก็ต้องรักษาสัญญา

5 กันยายน 2568 - เวลา 14.32 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานในการประชุม

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูญ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี โดยขอชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงจากสมาชิกหลายท่าน ว่า เรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่มีความกังวลว่าจะขัดต่อระบบรัฐสภาหรือไม่ ที่พรรคประชาชนมีการเลือกนายกรัฐมนตรีทางอ้อม วัตถุประสงค์เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ หรือมีเสียงข้างมาก ในสภาผู้แทนราษฎรนั้น

นายณัฐพงษ์ ขอย้ำว่า ภายหลังที่พรรคประชาชนมีการประกาศข้อตกลง 5 ข้อ ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีเรื่องของการคงสภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อยอยู่ แต่การแสดงออกของพรรคเพื่อไทย ได้แสดงออกมาว่า พร้อมรับทุกข้อเสนอ และลดแลกแจกแถม หากเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะยุบสภาทันที

นายณัฐพงษ์ จึงขอตั้งคำถามว่า เพื่อนสมาชิกที่คิดว่าไม่เห็นด้วยกับการให้มีรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น วันนั้นท่านออกมาแสดงความเห็นท่าทีคัดค้านต่อพรรคท่านเองหรือไม่ หรือจริงๆ ท่านคิดอยู่ในใจว่า ท่านไม่เคยเชื่อในการคงสภาพเสียงรัฐบาลเสียงข้างน้อยเลย ท่านคิดอยู่แล้วว่า ถ้าวันนี้พรรคประชาชนยกมือสนับสนุนให้นายชัยเกษม เดี๋ยวท่านจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก จนถึงวินาทีนี้ การอภิปรายของพวกท่าน ก็ยังไม่สามารถทำให้ตนเชื่อได้เลยว่า ตกลงแล้วหลักการของท่านคืออะไร

ส่วนข้อกังวลว่า การทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านของพรรคประชาชน จะสามารถถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ พรรคประชาชนจะต้องคอยอุ้ม คอยแบก เป็นองค์ประชุมให้กับการพิจารณากฎหมายของรัฐบาลหรือไม่ ตนขอถามสมาชิกกลับไปว่า ท่านไม่คิดหรือว่าในช่วงเวลา 4-6 เดือน ต่อจากนี้ สภาชุดนี้จะเป็นอีกหนึ่งชุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ฝ่ายค้านมีความเข้มแข็งมากที่สุด ตราบใดที่พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย ยืนยันจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งรวมกันได้กว่า 280 เสียง แล้วทำไมจะไม่เป็นรัฐรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทำไมเราจะเดินหน้าสู่ทางออกของประเทศในการยุบสภา และแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้

ดังนั้น ตนขอเชิญชวนให้สมาชิก โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่หลายคนรู้สึกว่าเรามีอุดมการณ์ใกล้เคียงกัน ทำฝ่ายค้านให้เข้มแข็งเดินหน้าให้เป็นไปตามข้อตกลงที่พรรคประชาชนได้เซ็นสัญญาไว้ นอกเหนือจากยุบสภา เปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินหน้ากระบวนการประชาธิปไตยในประเทศใหม่ดีหรือไม่

ขณะที่เรื่องการตัดสินใจของพรรคประชาชนในวันนี้ ก็มีสมาชิกบางส่วนมีข้อห่วงใยว่า พวกเราจะไปสนับสนุนฝั่งอนุรักษ์นิยม ทำลายกระบวนการระบอบประชาธิปไตย เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ตนไม่ขอพูดอะไรไปมากกว่านี้ แต่ขอระยะเวลา 4-6 เดือนต่อจากนี้ ที่ตนและท่านทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านร่วมกัน พิสูจน์ว่าวันนี้ที่เราตัดสินใจ และเราต้องการเดินหน้ากระบวนการประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ใช่วันหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทยแยกออกจากรัฐบาลแล้ว ดูว่ากฎหมายนิรโทษกรรม และกระบวนการเดินหน้าประชาธิปไตยอื่นๆ ท่านผลักดันจริงหรือเปล่า

นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ไม่ได้ต้องการมาชวนทะเลาะ หรือย้อนหาอดีต แต่ต้องการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และเปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญ พวกตนมีแค่ 143 เสียง ทำเองไม่ได้ ต้องทำร่วมกับท่าน หรือคือพรรคเพื่อไทย ที่ต้องมาร่วมกันทำจริงๆ ขอเน้นย้ำอีกหนึ่งครั้งว่า การที่สภาผู้แทนราษฎร ต้องพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 4 นั้น ในสภาชุดนี้ชุดเดียว ต้นสายปลายเหตุที่ตนหาคำตอบได้ สุดท้ายก็คือรัฐธรรมนูญ 60 ที่ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่า ตกลงแล้วประเทศนี้ อยู่ในระบอบประชาธิปไตยจริงหรือไม่ ทำให้ไม่ชัดเจนถึงหลักการการแบ่งแยกอำนาจขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งท่านเองก็ได้รับผลกระทบ นอกจากนั้น ยังมีเรื่องต่างๆ อีกมากมายที่พวกเราทั้งสภาได้รับผลกระทบจากกลไกของรัฐธรรมนูญปี 60 นี่ไม่ใช่เวลาที่เรามานั่งถกเถียงกันว่า อะไรคือปัญหาของประเทศ แต่การตัดสินใจของพรรคประชาชน คือการหาทางออกให้ประเทศ

แม้ว่าสิ่งที่ตนจะพูดต่อจากนี้ อาจจะทำให้นายอนุทินไม่สบายใจไปบ้าง แต่เพื่อความชัดเจน ตนยืนยันว่า พวกเราให้ความเคารพต่อเพื่อนสมาชิกในสภาเท่าเทียมกัน และเป็นข้อเท็จจริงที่จะทุกคนต้องยอมรับ ตนยืนยันว่า วันนี้เราไม่ได้เลือกนายอนุทินเข้ามาบริหารประเทศ แต่เลือกมายุบสภาภายใต้เวลาที่ตกลงกัน และเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ย้ำว่า วันนี้พรรคประชาชนตัดสินใจที่จะเลือกนายอนุทิน เพราะเราได้เซ็นข้อตกลงกันแล้ว 5 ข้อ เปิดเผยต่อสาธารณะ และเรามีการระบุในข้อตกลงชัดเจน

"นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของประเทศนี้ ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าท่านใดไม่เห็นด้วย ถ้าประชาชน 60 กว่าล้านคนในประเทศนี้ไม่เห็นด้วย มีใครขึ้นมาให้คำตอบกับพวกเราได้หรือไม่ว่า มีโอกาสไหนของประเทศนี้อีกที่จะดีกว่าในตอนนี้ เพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 ไม่ต้องตอบผมในตอนนี้ หากยังคิดไม่ออก ให้เวลานอนคิดอีกเดือนสองเดือนต่อจากนี้ แล้วค่อยมาบอกพวกผม เนื่องจากพวกเราคิดข้อเสนอนี้ ตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว และไตร่ตรองกันจนถึงวินาทีนี้ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในการเดินหน้าสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ"

สำหรับการคงสภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตนขอย้ำอีกหนึ่งครั้งว่า พวกตนไม่สามารถแค่จะคงสภาพฝ่ายค้านเสียงข้างมากได้ ตนต้องร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยที่จะทำให้มีการปฏิบัติตามตกลง พวกเราสองพรรคยืนยันกันได้อย่างเต็มปากหรือไม่ เพราะตนตอบแทนเพื่อนสมาชิกภายในพรรค 143 คนได้ว่า ไม่มีใครเป็นงูเห่า ท่านตอบได้หรือไม่ ถ้าตอบได้ เดินหน้าสู่ทางนี้แน่นอน ไม่มีทางอื่น

ขณะที่เงื่อนไขโหวตนายกรัฐมนตรี พวกเรายืนการเป็นฝ่ายค้าน ไม่ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี เพื่อนสมาชิกบางท่านก็ห่วงใยว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนรบกวนให้ไปอ่านมาตรา 106 ของรัฐธรรมนูญ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร คือหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุด และไม่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ประธานสภา หรือรองประธานสภา ตนยืนยันว่า ตนทำหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎรได้ต่อไป โดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

รวมถึงเรื่องหลักการ ที่พวกตนย้ำมาโดยตลอด คือหลักการที่บอกว่า พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค เข้าใจว่าเพื่อนสมาชิกของตนหลายคน มีความอึดอัดใจมากที่จะลงมติแต่เมื่อเรามีมติพรรคออกมาแล้ว มีกระบวนการในการรับฟังสมาชิกพรรคอย่างรอบด้าน และคนที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงแล้ว จึงไม่มีใครที่จะบิดพลิ้วต่อมติพรรคครั้งนี้ได้

"ผมยืนยันในฐานะหัวหน้าพรรค และถ้ามี สส.ของพรรคประชาชนคนใด ที่วันนี้ขัดต่อมติพรรค คือขัดต่อคุณค่าพื้นฐานของพรรคที่บอกว่าพรรคใหญ่กว่าคน วันนี้เราหนักแน่นในมติของพรรค ต่อการตัดสินใจของเรา และเราเดินหน้าอย่างไม่ลังเล ไม่วอกแวก"

"เราชัดเจนว่าวันนี้ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทราบดีว่า 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกลมา ไม่ใช่สมาชิกพรรคประชาชนทั้งหมด เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาโหวต หรือการตัดสินใจในการเลือกนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีวันนี้ แต่ผมเชื่อว่า 14 ล้านคนที่กาพรรคก้าวไกลในวันนั้น ไม่มีใครเลือกนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า 14 ล้านคนในวันนั้น ไม่มีใครเลือกเพราะอยากเห็นรัฐบาลที่เข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่า 14 ล้านคนในวันนั้น ไม่มีใครหวังที่อยากจะเห็นอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตย และก็เชื่อเช่นเดียวกันว่า 14 ล้านคนในวันนั้น ไม่ใช่ทุกคนเห็นด้วยทั้งหมดกับการตัดสินใจของพรรคในวันนี้ แต่สิ่งที่อยากจะยืนยันอีกครั้ง คือการตัดสินใจในวันนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน เราตัดสินใจเพราะเราคิดถึงคน 60 กว่าล้านคน ในการผ่าทางตันให้ประเทศ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และแก้ไขรัฐธรรมนูญ นี่คือหลักว่าประชาชนใหญ่กว่าพรรค ตัดสินใจเพื่อประเทศ ไม่ได้ตัดสินใจเพื่อคะแนนความนิยมของพรรคประชาชนเฉพาะหน้า"

"ถ้าเรากำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ภายใต้กรอบเวลา 4-6 เดือนต่อจากนี้ ผมเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองวันนี้ เดินหน้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ทุกพรรคต้องมุ่งหน้าในการสร้างคะแนนความนิยมให้กับตัวเอง เพื่อให้ทุกพรรคมี สส.ในสภามากที่สุดในการต่อรองได้เก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดหน้าหลังการเลือกตั้ง และชัดเจนแล้วว่า หากวันนี้ทุกพรรคอยากได้คะแนนนิยมมากขึ้น คุณจะต้องรักษาสัญญา นี่คือความชัดเจนที่พรรคประชาชนใช้ตัดสินใจในการโหวตนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีวันนี้ และผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยจะมีทางออกได้ หากพวกเราเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ" นายณัฐพงษ์ ทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ

"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.