20 กันยายน 2568 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เยี่ยม+ยี้=ย้วย” ระบุว่า หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือที่เรียกกันว่า ครม.อนุทิน1 มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงหน้าตาของบุคคลที่เป็นรัฐมนตรี ในค่อนข้างหลากหลาย บางคนบอกว่า มีทั้งรัฐมนตรีบุคคลภายนอก มืออาชีพ เทคโนแครต ซึ่งเรียกว่าครม.น้ำดี หรือครม.ยอดเยี่ยมหรือเยี่ยมยอด กับครม.ในสัดส่วนของพรรคการเมือง ก๊วนการเมือง แก๊งค์การเมือง หรือที่เรียกกันว่า ครม.ยี้บ้าง ครม.แย่บ้าง
เมื่อทั้ง2ส่วนของครม.เยี่ยมผสมกับครม.ยี้ จะได้เป็นครม.ย้วย ซึ่งคำว่าย้วย แปลว่าเสียทรง หรือไม่ได้รูปทรง ก็น่าจะเกิดมาจากการแต่งตั้งครม.ที่มีเงื่อนไข หรือรูปแบบอยู่5ประการ คือ
1.แต่งตั้งแบบต่างตอบแทน คือแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ที่มาจากกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองที่พลิกขั้วสนับสนุนให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างน้อยมีอยู่3กลุ่ม คือกลุ่มพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลุ่มรวมไทยสร้างชาติ อีกปีกหนึ่งที่นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น และกลุ่มที่มาจากพรรคเพื่อไทยอีกกลุ่มหนึ่ง ของนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์
2.แต่งตั้งแบบเหมากระทรวง ยกกระทรวง หรือสัมปทานกระทรวงให้กับพรรคการเมือง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยกให้พรรคกล้าธรรมเป็นรัฐมนตรียกกระทรวง กระทรวงคมนาคมพรรคภูมิใจไทยเหมายกกระทรวง กระทรวงอุตสาหกรรมกลุ่มของคุณสุชาติหรือกลุ่มรวมไทยสร้างชาติเหมาไปทั้งกระทรวง ทั้งที่กระทรวงนี้ควรจะมีรัฐมนตรีเพียงคนเดียว กระทรวงศึกษาธิการยกให้พรรคกล้าธรรมเหมากระทรวงไป ส่วนกระทรวงสาธารณสุขก็มอบให้กับพรรคพลังประชารัฐไปทั้งกระทรวง
3.แต่งตั้งแบบโควต้าของครอบครัว เห็นได้จาก กรณีของคุณซาบีดา ไทยเศรษฐ์ คุณศศิธร กิตติธรกุล คุณอัครา พรหมเผ่า คุณอามินทร์ มะยูโซะ คุณพัฒนา พร้อมพัฒน์ คุณไชยชนก ชิดชอบ
4.แต่งตั้งแบบสมบัติผลัดกันชม เช่น กรณี ร.อ.ธรรมนัสไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ จำเป็นต้องหากระทรวงที่เทียบเท่า ต้องแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงทำให้นายอรรถกร ศิริลัทยากร ต้องเปลี่ยนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
5.แต่งตั้งเพื่อเข้ามาปกป้องผลประโยชน์ ซึ่งมีคดีที่เกี่ยวข้องและสังคมจับตามองอยู่2คดี คือคดีที่ดินเขากระโดง และคดีฮั้วส.ว. การแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงต้องใช้เครือข่ายของบ้านบุรีรัมย์ คือการแต่งตั้งพล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้งคุณโสภณ ซารัมย์ ซึ่งเปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้านบุรีรัมย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
ทั้งหมดคือบางส่วนของครม.อนุทิน1 ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์พูดถึงโฉมหน้าของคณะรัฐมนตรี ไม่รวมถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีที่ลง เพราะกระทรวงต่างๆ พรรคการเมืองก็สัมปทานไปหมดแล้ว ส่วนรัฐมนตรีคนนอก ก็ไม่อยากจะได้นักการเมืองมาเป็นรัฐมนตรีช่วย จึงจำเป็นต้องมายัดใส่ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ตึกบัญชาการต้องจัดหาห้องทำงาน ทั้งรองนายกรัฐมนตรี6คน และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกอีก4คน รวมเป็น 10 คน จนแน่นตึกบัญชาการ
เพราะฉะนั้นนี่คือ โฉมหน้าครม.เยี่ยม + ยี้ = ย้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม
พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า
รัฐบาลขอบคุณทัพนักกีฬาไทย ครองเจ้าเหรียญทองทุบสถิติซีเกมส์
รัฐบาลขอบคุณทัพนักกีฬาไทย คว้า 233 เหรียญ ครองเจ้าเหรียญทอง สมัยที่ 14 ทำลายสถิติของกีฬาซีเกมส์
สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง
เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
'เพื่อไทย' ต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร สส. 3 เขตโคราช
ที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย

