
‘ชลน่าน’ ติง 4 เดือนยุบสภา 4 เดือนยุบคดี ลามเป็น 4 หายนะประเทศ แถมสืบทอดอำนาจต่ออีก 4 ปี กินรวบประเทศ แซะรัฐบาล ‘หนูเน-เนทิน’ ทำการเมืองเหนือชั้นมาก ขอคารวะ ‘ผู้นำจิตวิญญาณสีน้ำเงิน’
29 ก.ย. 2568 – ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ) เป็นพิเศษ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 10.20 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอมุ่งเน้นในสามด้าน คือ 1.นโยบายทำได้หรือไม่ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายถึงความสามารถของรัฐมนตรี แต่เรามองเวลาที่มีอย่างจำกัดในสี่เดือน ท่านทำได้หรือเปล่างบประมาณที่ใช้เป็นการเขียนคำแถลงที่ครอบคลุมรัฐธรรมนูญหาที่ติไม่ได้ ขอชื่นชม 2.เรื่องของบุคคลที่เข้ามาบริหารนโยบาย นโยบายอาจไม่สำเร็จ อาจเป็นโมฆะ เพราะผู้บริหารมีความไม่เหมาะสม ไม่มีคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้ามที่ไม่สามารถทำนโยบายนี้ได้ และ 3.เรื่องของโอกาสของพี่น้องประชาชนที่สูญเสียไปจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ สี่เดือนที่ท่านสัญญาว่าจะยุบสภาฯ เรามั่นใจว่าท่านยุบสภาฯแน่นอน เพราะถ้าไม่ยุบ ท่านจะเสียหายเยอะมาก แต่ถ้าท่านยุบ ท่านคิดว่าท่านจะได้คะแนนอย่างมหาศาล ท่านยุบแน่นอน ซึ่งเราจะเปลี่ยนจากสี่เดือนที่ท่านยุบสภาฯว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นท่านจะใช้เวลาสี่เดือนดึง ถ่วงและยุบคดีที่เป็นปัญหาอยู่หลังจากนั้นมันจะเป็นสี่หายนะให้กับประเทศ
สำหรับเรื่องของนโยบายที่นายกฯ แถลงต่อรัฐสภาวันนี้แบ่งโดยรวมแล้ว ด้วยข้อจำกัดเวลา ข้อจำกัดที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และข้อจำกัดในเรื่องของที่ท่านได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติตามภารกิจ เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ต้องปฏิบัติตามบทเฉพาะกาลได้แค่นั้น เรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อยเราไม่อยากให้สร้างประเพณีนี้ในระบบรัฐสภาของเรา สำหรับนโยบายด้านนิติบัญญัติและการเมือง ขอบคุณท่านผู้นำฝ่ายค้านที่เปิดประเด็นให้เห็นและทวงสัญญากับทางนายกฯและรัฐมนตรี นโยบายตาม MOA ต้องปรากฏชัด แต่สิ่งหนึ่งที่อยากขยายให้เห็นท่านเขียนชัดแต่ท่านขยัก จัดทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญในวันเลือกตั้ง ยุบสภาภายในสี่เดือน ถามว่าสิ่งที่บันทึกใน MOA การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หายไปไหน ท่านต้องตอบสภาแห่งนี้ เมื่อเป็นนโยบายเฉพาะกิจ สิ่งที่รัฐบาลต้องเน้นใช้ความเฉพาะกิจให้เป็นประโยชน์มากที่สุด คือประโยชน์ที่ท่านจะได้คะแนนนิยมจากพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 หรือ 29 มี.ค.69 เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยม และผลการเลือกตั้งที่จะส่งผลให้ท่านสืบทอดอำนาจไปอีกสี่ปี ประกอบกับผู้บริหารนโยบายที่ท่านจัดไว้ก็ตอบสนองกับจุดนั้น
นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า ไม่ได้กล่าวหาท่านรัฐมนตรี แต่กระบวนการและข้อจำกัด ท่านต้องทำแบบนี้ ท่านจัดคณะรัฐมนตรีจากบุคคลภายนอกด้วยภาพสวยงามมาก ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ขอชื่นชมจากอาญาสิทธิ์ที่ผู้นำฝ่ายค้านมอบให้ท่านแปลงเป็นกำไรผลงานของท่าน ถือเป็นความชอบธรรม แต่คือกลไกอันแยบยล ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งที่ท่านจัดมาสร้างคะแนนนิยมในพื้นที่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ถึงบอกว่าในนโยบายนี้เป็นนโยบายเฉพาะกิจเพื่อการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในสี่ปี จึงเป็นที่มาว่านโยบายที่ท่านแถลงต่อรัฐสภานี้จะเป็นปัญหามากกว่าทางออก ไม่ใช่ปัญหาธรรมดา แต่เข้าขั้นหายนะ ถ้าเราไม่ตระหนัก ไม่สำนึก ไม่เฝ้าระวัง
ทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าทำไม่ได้ สี่เดือนที่จะยุบสภาก็จะกลายเป็นสี่เดือนแห่งการยุบคดี โดยนโยบายเพื่อการสืบทอดอำนาจมันจะทำให้ภาพของประเทศเรา ภาพการเมืองไทยในอนาคตมันจะปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนในสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ คือ 1.ประชาธิปไตยที่อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง สิ่งที่เราจะเห็นคืออนาคตประชาธิปไตย ระบบรัฐสภาของเรา ถ้าท่านเข้ามาใช้อำนาจไม่ว่าจะเป็นสี่เดือนหรือหลังสี่เดือน และในอนาคตสี่ปี การกัดกร่อนประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาจะรุนแรงมาก กลไกที่ได้มาซึ่งสมาชิก ข้อเท็จจริงปรากฏมีหลักฐานทางข้อกฎหมายด้วยว่าการได้มาที่ทุกคนสงสัยว่ามีการฮั้วหรือเปล่า และอนาคตข้างหน้าการเลือกตั้งไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง แต่เป็นเรื่องของการจัดการตัวบุคคล นโยบาย การบริหารจัดการการเลือกตั้ง ขีดเส้นใต้เลยว่าเป็นเรื่องของเงินที่เป็นปัจจัยสูงสุดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนไม่ได้บอกว่าท่านซื้อเสียง แต่การจัดการด้วยอำนาจเงิน จะชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องมาพิสูจน์กัน แต่นั่นคือปัจจัยหลักที่จะให้ผลของการมอบอำนาจของพี่น้องประชาชน จะกัดกร่อนประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อนาคตที่เราคาดหวัง ผู้นำฝ่ายค้านบอกที่ท่านต้องการมากคือรัฐธรรมนูญ ท่านยอมแลกที่มอบอำนาจให้กับนายกฯ เพื่อต้องการรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ต้องการให้ยุบสภาเพื่อประชาชนตัดสินอนาคตประเทศชาติบ้านเมือง เป็นการแลกถ้ามันได้ตามนั้นถือว่าคุ้มค่าเกิดประโยชน์ยิ่ง แต่สิ่งที่เรามองในขณะนี้ การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เอาแย่ที่สุดคือไม่ผ่านวาระหนึ่งในร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ที่จะเข้าสู่สภาฯ วันที่ 14-15 ต.ค. หรือด้วยกระบวนการการบริหารจัดการ การพูดคุยกันไปถึงวาระสาม ให้ผ่านวาระสาม หรือดีที่สุดผ่านวาระสามได้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 หมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะถูกยกร่างด้วยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากสีน้ำเงิน รัฐธรรมนูญฉบับนั้นจะเป็นสีน้ำเงิน ไม่ว่าจะเป็นกลไกใด จะผ่านจากร่างของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนหรือพรรคพรรคภูมิใจไทยเป็นหลัก ล้วนแต่มีกลไกการจัดการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นสีน้ำเงินทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเพราะยากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว ถ้าสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นสีน้ำเงิน ประชามติรณรงค์ทั่วประเทศไม่ผ่าน ก็เข้าทางผู้ไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ กระบวนการทั้งหมดเป็นการแสดงออกมาซึ่งสุดท้ายว่าพี่น้องประชาชนไม่เอา ก็ไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นกระบวนการเหล่านี้จะวนแล้ววนอีก นี่คืออนาคตที่เราจะเจอ
“อนาคตที่เจออีกเรื่องคือนโยบายเฉพาะกิจเพื่อการเลือกตั้ง การวางตำแหน่งแห่งหน ไม่ว่าจะเป็นตัวรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีหรือกลไกอื่นๆ ที่วางเข้ามา ล้วนแต่ทำเพื่อการนี้ ท่านต้องพิสูจน์คำพูดผมว่าไม่จริง แต่ถ้าท่านทำตามที่ผมพูด หายนะแน่นอน รัฐบาลที่มาเฉพาะกลุ่มเฉพาะที่ หลายคนขนานนามว่ารัฐบาลอนุวิน ผมไม่รู้ว่ามาจากอะไร รัฐบาลเนทิน หรือรัฐบาลหนูเน นั่นหมายความว่าความเป็นรัฐมนตรี ความเป็นนายกฯ ของท่านเองไม่ได้ใช้กลไกอำนาจบริหารที่แท้จริง“ นพ.ชลน่าน ระบุ
นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นสี่หายนะของประเทศ คือ 1.หายนะทางประชาธิปไตย 2.หายนะด้านความโปร่งใส 3.หายนะด้านการบริหารจัดการประเทศ และ4.หายนะทางโอกาสของประชาชนชาวไทย อะไรที่ดีที่เป็นนโยบายรัฐ รัฐบาลที่ไหนทำ เราสานต่อไม่ว่าจะต่างขั้วต่างพรรคต่างฝ่าย นั่นคือประโยชน์ของพี่น้องประชาชน 30 บาทรักษาทุกโรคขยับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ทขอบคุณที่ท่านเขียนไว้ในนโยบาย มันเป็นสิ่งที่พึงกระทำแต่หลายรัฐบาลไม่อยากทำหรอกแต่ไม่ทำไม่ได้ เพราะมันเป็นกฎหมายไปแล้ว ต้องปฏิบัติตาม แต่ก็มีเปลี่ยนชื่อ เช่น หวยเกษียณเป็นสลากเงินออม ก็ไม่ว่ากันขอให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ ทุกอย่างที่ท่านทำ ท่านทำเพื่อคะแนนนิยมก็ไม่ว่า
ขอยกตัวอย่างหายนะด้านประชาธิปไตย ระบบเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกวุฒิสภา ระบบ สส.จะบิดเบี้ยว ประชาชนไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ 1,000 2,000 อื้อไปหมด เหมายกเข่ง ซื้อยกหน่วย เหล่านี้คือสิ่งที่รัฐธรรมนูญสีน้ำเงินต้องระวัง แต่ตนเชื่อว่าจะไม่ผ่านประชามติ ส่วนหายนะเรื่องความโปร่งใสและหลักนิติธรรมคนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งมีลักษณะผูกขาด ตัดต่อมาจากกลุ่มและพวก ถ้าขาดความโปร่งใสและหลักนิติธรรม ทำเพื่อพวกถือเป็นหายนะ รัฐมนตรีบางท่านบางคนมีแผล มีกรรมเก่าเข้ามาบริหารประเทศในขณะนี้ คดีต่างๆ เยอะแยะไปหมด ส่วนหายนะในเรื่องความสามารถ การแข่งขันและการบริหารประเทศ เรื่องนี้ขมวดแล้วจะทำไม่ดี ทำไม่ได้ ทำได้ก็ทำเพื่อประโยชน์ใคร นโยบายที่ท่านแถลงมาอย่างเช่นเรื่องแลนด์บริดจ์ พลังงานไฟฟ้าชุมชน ทำไมจะมาเริ่มทำขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เร่งรัดในช่วงที่เราเป็นรัฐบาลอยู่สองปีที่ผ่านมา ไปติดขัดตรงไหน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง มันเป็นเพราะอะไร
ส่วนหายนะของพี่น้องประชาชน นโยบายดีๆ ท่านปัดตกปัดทิ้งหมดรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นสิ่งที่ตนไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์เฉพาะคนกรุงเทพและปริมณฑล 12-13 ล้านคนที่เข้ามาตรงนี้ตลอดวัน ทั้งที่สถิติการใช้เพิ่มสูงขึ้น แต่ท่านก็เลือกที่จะยกเลิก กลับไปใช้อันเก่า ชัดเจนว่าท่านทำลายโอกาสพี่น้องประชาชน อาจจะใช้มาตรการอื่นมากลบเกลื่อน แต่นี่คือสิ่งที่ต้องยอมรับวันนี้คือเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย หากท่านทำ ท่านได้คะแนน พรรคที่มี สส.กทม.มากที่สุดยังอ้าปากค้างทำไมไม่เห็นประโยชน์พี่น้องประชาชน
“ที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งเรื่องการวางกำลังคน ภาครัฐรัฐราชการ การจัดวางฐานอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา การแสวงหาที่มาของสส. ไม่ต้องดูดครับไหลเข้าครับ ต้องยอม ท่านทำการเมืองเหนือชั้นมาก ต้องยอมศิโรราบ ทุกคนไหลเข้า ก้มหัวให้ท่านหมด เพราะรู้ว่าอยู่กับท่านและปลอดภัย ได้มาเป็นรัฐบาลแน่ในครั้งหน้า แต่ท่านอย่าประมาทพี่น้องประชาชน เพราะสี่เดือนที่ท่านเข้ามาเพื่อยุบสภา จะบ่งชี้ว่าท่านมายุบคดี ต้องพิสูจน์ ขนาดยังไม่ถึงมือท่าน คดีก็เริ่มยุบแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน อดีตอธิบดีกรมที่ดินออกมาแถลงชัด แยบยลมากครับ แถลงในนามรัฐบาลรักษาการเลย จะได้ไม่ต้องมาเปื้อนท่าน ยุทธศาสตร์การเมืองของท่านลึกล้ำสุดยอดจริงๆ ผมไม่รู้ว่าออกมาจากสมองใคร แต่ต้องยกให้ ขอยอมเป็นลูกศิษย์ ยอมกราบ ถ้าจะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่อยู่ข้างหลัง มีนักวิชาการบอกว่าผู้นำผู้นำจิตวิญญาณสีน้ำเงิน ผู้นำจิตวิญญาณสีแดงและผู้นำจิตวิญญาณสีส้ม ผู้นำจิตวิญญาณหมายเลขหนึ่ง ฉลาดปราดเปรื่อง หลักแหลม ยุทธศาสตร์ล้ำลึก คือผู้นำสีน้ำเงิน“ นพ.ชลน่าน ระบุ
นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า สี่เดือนมาเพื่อให้ได้คะแนนเลือกตั้งสูงสุด สี่เดือนที่ทำจะได้จะเป็นสี่ปี ท่านจะกินรวบประเทศไทย พวกเราจะยอมหรือ เราจะยอมให้มีคนมากินรวบประเทศไทยหรืออำนาจของสภาเป็นของสีน้ำเงิน อำนาจวุฒิสภาสีน้ำเงินอำนาจองค์กรอิสระเป็นสีน้ำเงิน อำนาจราชการเป็นสีน้ำเงิน ทั้งประเทศเป็นน้ำเงินทั้งหมด ท่านกำลังเอาสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีอันประเสริฐ ลงมาคลุกกับการเมือง ซึ่งหมายถึงเราไม่เคารพสีน้ำเงิน ซึ่งตนทนไม่ได้ เราเป็นผู้คนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ประมุขของประเทศอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม สีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน การนำเอาสีน้ำเงินลงมาในสิ่งที่มิบังควร เป็นสิ่งที่พวกเราไม่สบายใจ พี่น้องประขาชน 67 ล้านคนไม่สบายใจ และถ้าเราไม่ช่วยกัน ไม่ระมัดระวัง การกินรวบประเทศจะเกิดขึ้น การลงทุนของพรรคประชาชนจะสูญเปล่า เรามาเฝ้าดูร่วมกัน เราเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน
“ผมขอพูดในนามประชาชนว่า อยากอยู่อย่างสงบสันติ อยากทำมาหากินอย่างสงบ มีเสรีภาพ ต้องการรัฐบาลที่มีความซื่อสัตย์ คำนึงถึงประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน คำนึงถึงสถาบันหลักของชาติ สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนไทยน ถ้าเป็นอย่างนั้นประชาชนอย่างผมจะกราบขอบพระคุณทุกคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในนามคณะรัฐมนตรีอย่างสูงยิ่ง ท่านแถลงนโยบายว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่าให้คำๆ นี้กลับมาพันคอท่าน เพราะผมเป็นประชาชนอยากเห็นรัฐมนตรีที่ทำเพื่อบ้านเมืองอย่างจริงจัง” นพ.ชลน่าน ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
‘เอ็ดดี้’ จี้ ‘เพื่อไทย-ส้ม’ อย่าดีแต่ปาก กลัวอะไรอยู่ ยื่นซักฟอกเลย
เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความว่า เห็นขู่กันฮึ่มๆ ว่าจะจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่น่าไว้วางใจ


