'เท้ง' บี้ 'อนุทิน' ปราบสแกมเมอร์ให้จริงจังและรวดเร็วเหมือนแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ!

'ณัฐพงษ์' ชี้ 'อนุทิน' โยนความรับผิดชอบกรณีปราบสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ ย้ำต้องแยกเรื่องเส้นทางการเงินออกจากแพลตฟอร์ม ชี้ตัวแทน World ID ในไทยอาจพันเครือข่ายอาชญากรรม

15 ต.ค.2568 - นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการติดตามการแก้ปัญหาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการปราบปราม แก้ปัญหาสแกมเมอร์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า เป็นปัญหาที่นานาชาติให้ความสำคัญ อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเกาหลีใต้ หรือสหราชอาณาจักร ก็ทราบมาว่า เริ่มดำเนินการอย่างจริงจังในการปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์ และคอลเซนเตอร์บริเวณชายแดนของประเทศไทย

นายณัฐพงษ์ ชี้ว่า ในฐานะที่ประเทศไทยตั้งอยู่ตรงนี้ มีพื้นที่ชายแดนติดกับเพื่อนบ้าน คิดว่าควรเป็นประเทศหนึ่งที่ถือบทบาทหลักในการแก้ไขปัญหานี้ที่กระทบต่อชาวโลกทุกประเทศ

“สำหรับนายกรัฐมนตรีเอง ก็อยากให้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง อย่างการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งต่างๆ ก็ดำเนินการได้รวดเร็ว ผมก็คิดว่าประชาชน แม้แต่ตัวผมเอง ก็อยากเห็นการปราบปรามเครือข่ายต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างเข้มข้น” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก็มีกลไกทวิภาคีอยู่แล้ว แต่เรื่องปัญหาที่ผู้นำประเทศอาจมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหรือเปล่า เรื่องนี้แยกเป็นอีกประเด็นที่เรามีกลไกอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีก็สามารถดำเนินการได้อย่างจริงจังและรวดเร็ว

ทั้งนี้ การอภิปรายของ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เอง ก็ชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ก็เกี่ยวข้องกับรองนายกรัฐมนตรี อยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย

“ยิ่งนายกรัฐมนตรีช้าหรือนิ่งนอนใจกับเรื่องนี้มากเท่าไร ก็อาจเป็นการแสดงออกให้สังคมเห็นว่านายกรัฐมนตรีใส่เกียร์ว่าง ไม่จัดการคนของตนเองที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งแก้ไขเรื่องนี้เร็วที่สุดเท่าไร ยิ่งแสดงออกถึงความโปร่งใสของรัฐบาล” นายณัฐพงษ์ ระบุ

นายณัฐพงษ์ ระบุด้วยว่า พรรคประชาชนพยายามรักษาสมดุล ระหว่างการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการตรวจสอบรัฐบาลในฐานะฝ่ายค้าน หากนายกรัฐมนตรียังล่าช้า ฝ่ายค้านก็มีการยกระดับการตรวจสอบรัฐบาลให้เข้มข้นขึ้นอีกในอนาคต

นายณัฐพงษ์ ยังเห็นว่า สำหรับปัญหาชายแดนและคอลเซนเตอร์ นายกรัฐมนตรีอาจจะยังลงไปแสดงความรับผิดรับชอบในฐานะผู้บริหารน้อยเกินไป และมักโยนไปให้เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานด้านความมั่นคง หรือแม้กระทั่งการเปิดเสียงบริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายกรัฐมนตรีก็ยังตอบมาว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง จริงๆ ต้องจี้ไปที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว ในฐานะผู้นำสูงสุดของฝ่ายบริหาร ท่านไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบในส่วนนี้ได้

นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า การโหวตตาม MOA เราประเมินเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเรื่องความเสียหาย ปัญหาอื่นๆ ของประเทศไปพร้อมกัน คงไม่ได้อยากจะให้คะแนน เพราะเคยบอกไปแล้วว่า ไม่ได้เลือกมาบริหารประเทศ แต่เลือกมาเป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจ การจะให้คะแนนเท่าไร ให้ประชาชนตัดสินในคูหาเลือกตั้งในอีกไม่เกิน 6 เดือนนี้ดีกว่า

ส่วนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจขู่ แต่พูดตามหลักการ จะยื่นเมื่อไรก็ยื่นเลย คงพูดออกสื่อไม่ได้ เพราะถ้านายกรัฐมนตรีรู้ก่อนก็จะยุบสภาก่อน ดังนั้น ถ้าถึงวันที่จะยื่นไม่บอกใครแน่นอน ส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน

ส่วนกรณีมีผู้ตั้งคำถามถึง สส. ของพรรคประชาชน ที่ระบุ เทคโนโลยีสแกนม่านตาเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะมีเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงถึง นายเบน สมิธ นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า มีการสื่อสารและทำความเข้าใจกับ สส. ในพรรคบางท่าน ที่ออกมาแสดงความเห็น จริงๆ ต้องแยกระหว่างระบบแพลตฟอร์ม World ID และ World Coin ออกจากเส้นทางการเงิน ที่ตัวแทนของบริษัทนี้ในประเทศไทยอาจมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ ซึ่งจะมีการปรับทิศทางการสื่อสารเรื่องนี้ให้รัดกุมและถูกต้องมากขึ้น

นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ข้อมูลที่คณะกรรมาธิการมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้มา เป็นข้อมูลที่หน่วยงานรัฐมาชี้แจง ดังนั้น ไม่น่าใช่ข้อมูลที่ผิดพลาด เพียงแต่วิธีในการสื่อสารอาจทำให้ผู้ฟังที่สนับสนุนเทคโนโลยีในโลกอนาคต ที่สร้างขึ้นมาต่อต้าน Fake ID หรือ AI ที่อาจมาปลอมแปลงเป็นมนุษย์ในอนาคต เขากังวลว่าการสื่อสารอาจทำให้คนบางส่วนเข้าใจผิดว่าทั้งระบบนั้นเป็นแพลตฟอร์มสำหรับทำอาชญกรรมข้ามชาติ

อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ เชื่อว่า การอภิปรายของนายรังสิมันต์ กรณี นายเบน สมิธ นั้น เป็นเรื่องใหญ่กว่านี้มาก และทางรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เอง ก็ขึ้นรายชื่อแล้ว จึงคิดว่าเรื่องนี้มีมูลมาก คงไม่โยงใยถึงขั้นทำให้ข้อกล่าวหาของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผิดพลาดไปแต่อย่างใด และภาพที่ไปปรากฏว่าทำบุญร่วมกัน ก็ยังไม่ได้คำตอบ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลขาฯ ปชน. สุดมั่นใจกวาดครบทุกเขต 33 พื้นที่กรุงเทพฯ ใกล้เลือกตั้ง 'เท้ง' คะแนนพุ่ง

เลขาฯพรรคประชาชน มั่นใจ กวาดครบ 33 พื้นที่ กทม. แม้ผลโพลความนิยมพรรคประชาชนลดลง เหตุ หนุน "อนุทิน-ปัญหาชายแดน" เชื่อ เวลาที่เหลือสมามรถชี้แจงได้ โว ใกล้เลือกตั้ง "เท้ง" เจิดจรัสคะแนนนิยมพุ่งแน่ ปัดตอบจุดยืน 112 ห่วงขัดศาล รธน. ชี้ "ณัฐพงษ์" ยังไม่ปิดโอกาสจับมือ 100% แต่ต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้าน"กาย" ยัน คว้าชัยกทม.ได้แน่นอน

'ชูวิทย์' ฟันธงเลือกตั้ง พรรคประชาชนต่ำ 100 ชี้เดินเกมผิดพลาดครั้งใหญ่

"ชูวิทย์" วิจารณ์ "ธนาธร" เลือกเดินเกมแก้รัฐธรรมนูญผ่านพรรคภูมิใจไทยคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่ใช่การประนีประนอม พร้อมคาดผลเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนอาจได้ สส. ต่ำกว่า 100 จากกระแสที่เปลี่ยนและความเชื่อมั่นที่ลดลง

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้

โทรโข่งเพื่อไทย โจมตี 'อนุทิน' โยกย้าย ขรก.มหาดไทย ในจำนวนที่น่าตกใจมาก

"ศึกษิษฏ์" ซัด "อนุทิน" โยกย้าย ขรก.มหาดไทยไม่หยุด ตั้งข้อสังเกตโยงเครือข่ายบ้านใหญ่รับศึกเลือกตั้ง ตอก "ธนาธร" หลังออกโรงป้อง "เสี่ยหนู" เหน็บ ภท.-ปชน.ติดค้างสินน้ำใจกันอยู่หรือไม่

'สุพิศาล' อดีตแกนนำพรรคส้ม ลาออกแล้ว แฉเลือกผู้สมัคร สส. มีลับลมคมใน

พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ได้ลาออกจากพรรคประชาชน ว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา

'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย

'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร