
‘สว.สำรอง’ ร้องศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย MOA ‘ปชน.-ภท.’ เป็นการกระทำขัดรธน.หรือไม่ พร้อมเตือน ‘อนุทิน’ ห้ามแทรกแซงสำนวนฮั้ว สว.
17 ต.ค. 2568 – ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สว.สำรอง พร้อมคณะ สว.สำรอง และทีมทนายความได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้หยุดกระทำการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง โดยตรวจสอบพบว่า ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการจัดทำข้อตกลง หรือ MOA ระหว่างนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่
นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นการเซาะกร่อน บ่อนทำลาย กระทำขัดต่อระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้ระบบรัฐสภาถูกบิดเบือนจากกลุ่มบุคคลสองกลุ่มนี้ที่ใช้ช่องทางนี้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมือง หากศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้อง เชื่อว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอและมีน้ำหนักให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดกระทำได้ ทำให้การเมืองและรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล สั่นสะเทือนอย่างแน่นอน พยานหลักฐานในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ยึดโยงสำนวนคดีฮั้ว สว. จึงขอเตือน “มือที่มองไม่เห็น” สายสีน้ำเงิน หรือ “รัฐบาลนายอนุทิน” ห้ามไปแทรกแซงยุ่งเหยิงพยานหลักฐานในสำนวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในคดีฮั้ว สว. เพราะจะใช้อำนาจศาลเรียกสำนวนมาศาล สามารถตรวจสอบได้ว่า สำนวนคดีมีพิรุธขั้นตอนใด อาจมีคนติดคุกเพิ่ม ตนมีความสงสัยว่า ตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัย คณะที่ 36 มาเพื่ออะไร ในเมื่อ กกต. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยจำนวน 35 คณะก่อนหน้านี้
ส่วนความคืบหน้าคดีร่วมกันฮั้ว สว. ร้องทุกข์กล่าวโทษ กกต.และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ต่อ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง นั้น นายอัครวัฒน์ กล่าวว่าสำนวนคดีดังกล่าวต้องส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. แต่ตนกับคณะ สว.สำรองในกลุ่มตน จะยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในสัปดาห์หน้า โดยการรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนและมีน้ำหนักให้ศาลรับคดีไว้พิจารณาได้ ไม่เกี่ยวกับกลุ่มของนายวิเชียร ศรีสุด หรือกลุ่มสภาเที่ยงธรรมที่เป็นเพียงผู้สมัคร สว.สอบตก ที่ได้ยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้ เป็นสิทธิคนละส่วน ไม่ซ้ำกัน มวยคนละกึ๋นกัน แต่กลุ่มของตนเฉพาะ สว.สำรอง เท่านั้น เป็นสิทธิของตน ตาม มาตรา 88 แห่ง พรป.สว.และ ป.วิอาญามาตรา 2(4) ประกอบมาตรา 28(2) ส่วนจะฟ้องประเด็นใด ให้พี่น้องประชาชนคอยติดตามต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เด็จพี่' โผล่หยัน 'ปชน.' ไม่กล้าซักฟอก 'อนุทิน' กลัว 'ยุบสภา' ทำแก้รัฐธรรมนูญค้างเติ่ง
‘พร้อมพงศ์’ อัด ปชน. ตรรกกะย้อนแย้ง จี้ ‘อนุทิน’ ปลดรัฐมนตรีทุนเทา ไม่ได้ผล สอนมวย ยื่นอภิปรายใช้เสียงสภาฯ เกินครึ่งโหวตคว่ำ ปลดได้แน่ ผิดหวังห่วงเรื่องแก้รธน. มากกว่า ซักฟอกในสภาฯ ชี้ ทำแฟนคลับผิดหวัง เตรียมโดนลงโทษวันเลือกตั้ง
รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท
โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ
รบ.ชวนภาคธุรกิจ ใช้สิทธิจัดประชุมสัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า หนุน ศก.ภูมิภาค
รัฐบาลชวนภาคธุรกิจใช้สิทธิ ‘จัดประชุม–สัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า’ หนุนเศรษฐกิจภูมิภาค หมดเขต 15 ธ.ค.นี้
สมาคมสถาบันการเงิน ผนึกกำลังแบงก์รัฐ ผุด 3 โครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังแบงก์รัฐประกาศช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ผุด 3 โครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ
"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที

