'รมว.ยธ.' มอบดีเอสไอใช้ พ.ร.บ.คดีพิเศษลุยปราบแก๊งสแกมเมอร์ทุกเคส ยันยังไม่พบหลักฐานนักการเมืองไทยเอี่ยว บูรณาการล่าทรัพย์ 'เฉิน จื้อ' เครือข่ายสแกมกัมพูชา คดีแรกใช้อำนาจคดีพิเศษเต็มรูปแบบ
22 ต.ค.2568 - พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีการปราบปรามเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ว่า นับตั้งแต่นายกฯ เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรรมทางเทคโนโลยี เบื้องต้นมอบกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบเรื่องปราบปราม เราประชุมเบื้องต้นว่าทุกกรณีที่เป็นข่าว จะตรวจสอบโดยให้นโยบายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไป ใช้อำนาจตามพ.ร.บ.คดีพิเศษ ตรวจสอบทางการข่าว โดยตั้งในรูปคณะกรรมการสืบสวนเบื้องต้น บูรณาการทุกส่วนทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิสูจน์ทราบ หากพบเป็นความผิดก็มีอำนาจตามกฎหมายที่จะรับเป็นคดีพิเศษ ต่อไปนี้ทุกเคสทุกกรณีที่สื่อเปิดทั้งหมดนั้น ถ้าเรารับทราบ มีคณะกรรมการตรวจสอบข่าวลักษณะนี้ และเมื่อทราบแล้วก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนทุกประเด็นในคดีที่สำคัญ
ส่วนการตรวจสอบประเด็นนักการเมืองไทยที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายแสกมเมอร์กัมพูชา รมว.ยธ.กล่าวว่า โดยในส่วนของนักการเมืองเราเพิ่งดำเนินการ ตนเชื่อว่าถ้ามีพยานหลักฐานต่างๆนายกรัฐมนตรีดำเนินการแน่นอน โดยตอนนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่ปรากฏ ฝากสื่อหากมีพยานหลักฐานต่างๆขอให้มอบได้เลยยินดีที่จะปฏิบัติเพราะเป็นภัยคุกคามกับพี่น้องประชาชน ตอนนี้ยังไม่มีรายชื่อนักการเมืองในมือดีเอสไอ
ส่วนการขยายผล การฟอกเงิน ยึดทรัพย์นายเฉิน จื้อ สแกมกัมพูชาที่มีทรัพย์ในไทย ปปง.ดำเนินการอย่างไร รมว. ยธ. กล่าวว่าเรื่องนี้ เป็นเคสแรกที่ได้ให้นโยบายไปผ่านอธิบดีดีเอสไอ โดยใช้อำนาจการสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนประสานกับหน่วยงานทั้งในและนอกประเทศ อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ดีเอสไอยังไม่มีข้อมูลพิสูจน์ทราบที่ชัดเจน จะต้องถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ยืนยันว่ารูปแบบการดำเนินการต่อไปนี้จะเป็นลักษณะนี้ทั้งหมดจะเข้าคณะกรรมการสืบสวนทั้งหมด หากพบการกระทำผิดจะรับเป็นคดีพิเศษทั้งหมด
ส่วนกรณีสส. พรรคประชาชนที่มีการเปิดประเด็นนักการเมืองไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ พล.ต.ท.รุทธพลกล่าวว่า เรื่องนี้เราก็จะดำเนินการ โดยจะขอข้อมูลจากสส.ที่ให้ข่าวส่วนนี้ ถ้าให้ข่าวมามีนักการเมืองใดเกี่ยวข้องก็ไปขอข้อมูลเป็นเอกสาร เพื่อมาตอบผู้สื่อข่าวว่าที่พูดมีข้อมูลมากน้อยเพียงใดที่จะทำการสืบสวนต่อมากน้อยเพียงใดหรือไม่
ต่อข้อถามว่าถามปปง.มีอำนาจสืบสวนตรวจเส้นทางดารเงินได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ใครนำหลักฐานมาให้ดำเนินการได้เลยหรือไม่ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาปปง. กล่าวว่า กรณีการดำเนินการของปปง.นั้น การใช้อำนาจปปง.จะต้องมีประเด็นความผิดมูลฐานพอสมควร เราถึงไปตรวจสอบเส้นทางการเงินขยายผล ไปสู่การยึดอายัดต่างๆ กรณีนายเฉิน จื้อ ปปง.เองก็สอบถามข้อมูล มาบูรณาการร่วมกันทุกมิติ สอบถามข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ เราทำงานเป็นทีม
ส่วนกรณีมีการตรวจสอบกรณีบริษัทปริ้นซ์ มีตั้งอยู่ที่อาคารซิโนทัย มีความคืบหน้าอย่างไร พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ส่วนนี้ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ในดีเอสไอจะตั้งกรรมการพิสูจน์ทราบ เพราะเรื่องการจดทะเบียนต่างๆ มีหน่วยงานที่เราจะไปขอข้อมูลได้ โดยต้องขอเวลาในการขอข้อมูล ทั้งนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะดำเนินการยึดทรัพย์ได้เลยหรือไม่ ขออนุญาตรอผลก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลาม! 'สนธิญา' ร้องดีเอสไอฟัน 157 'นายกแป้น - ผู้ว่าฯ สงขลา'
'สนธิญา' ร้อง 'ดีเอสไอ' ตรวจสอบเอาผิด 'นายกแป้น - ผู้ว่าฯ สงขลา' ม.157 ปมละเว้น เพิกเฉย คนใต้ตายเซ่นน้ำท่วมหาดใหญ่ จี้ 'นายกแป้น' ลาออกภายในอาทิตย์หน้า หากดื้อเตรียมร้อง 'ป.ป.ช.' เอาผิดไล่บี้
กองปราบจับยกแก๊งสแกมเมอร์ใช้สาวสวยล่อเหยื่อ
รวบยกแก๊งสแกมเมอร์หลอกเทรดทองคำ ใช้สาวสวยล่อเหยื่อสูญเงิน 11 ล้านบาท
ทลายสแกมเมอร์ซี้ฮุนเซน ยึดหมื่นล.สาวบิ๊กการเมือง
ทลายแก๊งสแกมเมอร์ครั้งใหญ่! ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์พุ่งกว่า 1.01 หมื่นล้าน
เด้งเพิ่มอีก 4 ราย ผอ.-จนท.เรือนจำพิเศษฯ เห็นขบวนการคุกวีไอพี แต่ไม่ระงับยับยั้ง
'รมว.ยุติธรรม' เผย มีคำสั่งเด้ง 'ผอ.ส่วนควบคุมผู้ต้องขัง' พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ออกจากราชการไว้ก่อนเพิ่มอีก 4 นาย หลังพยานหลักฐาน-พยานบุคคลให้การมัดพฤติกรรมรู้เห็นขบวนการคุกวีไอพีแต่ไม่ระงับยับยั้ง แย้มวันเข้าตรวจเรือนจำวันแรก มีเจ้าหน้าที่เขียนจดหมายน้อยยัดใส่มือคอยให้เบาะแสความผิดปกติในเรือนจำฯ
แฉสุดทนผบ.คุก ก.ค.ทำห้องเชือด 3วันDSIสรุปผล
"รมว.ยุติธรรม" ย้ำ สั่ง “ผบ.เรือนจำพิเศษฯ-เลขาฯ” ออกจากราชการแล้ว
เซ่นคุกวีไอพี! รมว.ยธ. สั่ง 'ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ-เลขาฯ' ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อผู้ต้องขังชาวจีนว่า ข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือว่ามีความคืบหน้าและเริ่มมีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว


