โฆษกเพื่อไทย โชว์ผลงานอดีตรัฐบาลปราบสแกมเมอร์ จี้พรรคส้มร่วมมือซักฟอก

เพื่อไทย โชว์ผลงานอดีตรัฐบาล ปราบสแกมเมอร์ลด 40% โต้ ไม่ละเลยตรวจสอบรัฐบาลแบบ “ไม่ละเว้นใคร” ชี้ “อนุทิน” ต้องรับผิดชอบสูงสุด เพราะตั้งรัฐมนตรีมีตำหนิ ยันเก็บข้อมูลทุกเม็ดเตรียม “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” หวังพรรคประชาชนให้ความร่วมมือ

เ3 พฤศจิกายน 2568 - นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยละเลยการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พรรคการเมืองอื่นไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้มีความรับผิดชอบสูงสุดและเป็นผู้แต่งตั้งรัฐมนตรีมาทำหน้าที่ ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีหนึ่งรายต้องลาออกเพราะกรณีเกี่ยวข้องกับพิษสแกมเมอร์

“เราทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ ไม่มีการจงใจละเว้นใครให้พ้นจากคำถาม แต่สิ่งที่น่าสังเกตกว่าคือ พรรคที่เคยโหวตมอบอำนาจให้คุณอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี และถึงขั้นชื่นชมว่านายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ นั่นต่างหากที่ควรถามว่า เป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมของฝ่ายค้านหรือไม่” นายศึกษิษฏ์ กล่าว

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ทั้งในยุครัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้พยายามแก้ไขปัญหาขบวนการสแกมเมอร์อย่างจริงจัง ถึงขั้นดำเนินมาตรการตัดน้ำตัดไฟ ในพื้นที่ต้องสงสัย แต่กลับติดขัดจากการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยที่ล่าช้า ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในเวลานั้น ปัจจุบันก็เป็นนายกรัฐมนตรี และยังถูกตั้งคำถามเรื่องความล่าช้าและการหันรีหันขวาง ในการจัดการปัญหานี้อยู่เช่นเดิม

นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีนโยบายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบ โดยข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ชี้ชัดว่า ในช่วงรัฐบาลเพื่อไทย ความเสียหายจากคอลเซ็นเตอร์ลดลงกว่า 40%, ป้องกันความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้กว่า 14,500 ล้านบาทต่อปี, ปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมายได้กว่า 400,000 เว็บไซต์, และได้รับ รางวัลชนะเลิศ WSIS Prizes 2025 จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) จากโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ พร้อมกันนั้น พรรคเพื่อไทยยังได้ผลักดันการ ปรับปรุงพระราชกำหนดว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เพื่อเพิ่มความรับผิดชอบของสถาบันการเงินและผู้ให้บริการโทรคมนาคม รวมถึงเพิ่มโทษผู้กระทำผิดให้มีผลบังคับใช้จริงจังมากขึ้น

นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ขบวนการสแกมเมอร์กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง ประชาชนจำนวนมากเริ่มได้รับสายหลอกจากมิจฉาชีพเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ต่างจากหลายประเทศที่เข้มงวดด้วยการยึดทรัพย์และดำเนินคดีจริงจัง ขณะที่ประเทศไทยกลับยังไม่มีการอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องแม้แต่รายเดียว จนเริ่มมีความกังวลว่า ความล่าช้าและการเพิกเฉย ของรัฐบาลชุดนี้ อาจทำให้ต่างชาติมองว่าไทยเป็นพวกเดียวกับแก๊งสแกมเมอร์

นายศึกษิษฏ์ กล่าวย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยังคงใช้ตำแหน่งหน้าที่ทั้งในและนอกสภาฯ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง และอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอย่างรอบด้าน

“ถึงตอนนั้น ผมหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากพรรคประชาชน ช่วยกันตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นและจริงจัง เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าใครทำงานเพื่อใครกันแน่” นายศึกษิษฏ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทย เล็งส่ง 'รุ่งเพชร' ชน 'ไชยา' ย้ายเข้ากล้าธรรม ชิง สส.หนองบัวลำภู

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ชัดเจนว่านายไชยา พรหมา อดีตสส.หนองบัวลำภู จะย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรมแน่นอนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาผู้ใหญ่ในพรรคได้เห็นกระแสข่าวนี้มาตลอด จึงพยายามสอบถามไปยังนายไชยาเ

โทรโข่งเพื่อไทย โจมตี 'อนุทิน' โยกย้าย ขรก.มหาดไทย ในจำนวนที่น่าตกใจมาก

"ศึกษิษฏ์" ซัด "อนุทิน" โยกย้าย ขรก.มหาดไทยไม่หยุด ตั้งข้อสังเกตโยงเครือข่ายบ้านใหญ่รับศึกเลือกตั้ง ตอก "ธนาธร" หลังออกโรงป้อง "เสี่ยหนู" เหน็บ ภท.-ปชน.ติดค้างสินน้ำใจกันอยู่หรือไม่

'จุลพันธ์' หารือ 'เทวัญ' นำลูกพรรคชาติพัฒนา ย้ายซบเพื่อไทย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายร่วมกับนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา โดยระบุว่า วันนี้ผมได้พบและหารือกับท่านเทวัญ ลิปตพัลลภ