'เทพไท' ชี้ไทยกำลังเสียเปรียบในเวทีสากล แนะอนุทินต้องทำตัวอ่อนนอกแข็งใน

14 ธ.ค. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก

ไทย ต้องชนะกัมพูชา และเวทีสากล

หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบกัน ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ภายหลังจากการพูดคุยแล้ว นายอนุทินได้ออกมาแถลงข่าวและยืนยันว่า การเจรจากับโดนัล ทรัมป์ ที่ต้องการให้มีการหยุดยิงนั้น ฝ่ายไทยต้องการให้โดนัท ทรัมป์ ไปพูดคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาก่อน เพราะเป็นผู้คุกคามประเทศไทย และควรให้ฝ่ายกัมพูชาถอนกำลังและหยุดยิงฝ่ายไทย เพราะฝ่ายไทยเป็นฝ่ายที่สูญเสียทางทหาร จากการเหยียบกับระเบิดและถูกยิงก่อน

หลังจากนั้นโดนัล ทรัมป์ ได้โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีประเทศไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแล้ว จะมีการหยุดยิงในตอนเย็นซึ่งตรงกับเวลาของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งพูดถึงกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ว่าเป็นอุบัติเหตุ และฝ่ายไทยได้ทำการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาอย่างรุนแรง

ถ้าดูเนื้อหาการแถลงของนายอนุทิน และการโพสต์ของโดนัล ทรัมป์ มีรายละเอียดและเนื้อหาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งไม่แน่ใจว่า ได้คุยกันเข้าใจในการเจรจาหรือไม่ หรือมีปัญหาในการสื่อสารระหว่างทั้ง2ฝ่ายหรือไม่ ทำไมรายละเอียดการพูดคุย ข้อความที่แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกัน จนนายอนุทินต้องโพสต์ตอบโต้โดนัล ทรัมป์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เรื่องการเหยียบกับระเบิดหรือทุ่นระเบิดว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการต้องการสังหารทหารไทย

ส่วนท่าทีของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ก็โพสต์ว่า ได้เจรจากับนายอนุทินและนายฮุนมาเนตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในเวลา4ทุ่ม ซึ่งทางฝ่ายไทยทั้งนายอนุทินและกองทัพไทย ก็ไม่ได้มีข้อตกลงหรือยอมรับข้อเสนอของนายอันวาร์ เรื่องการหยุดยิงในเวลา4ทุ่มแต่อย่างใด

แต่ปรากฏการณ์จากท่าทีของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งทั้ง2คนเป็นผู้ลงนามเป็นสักขีพยานในปฏิญญาสันติภาพ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ถ้าดูท่าทีเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้นำทั้ง2ประเทศมีความโน้มเอียงไปทางฝ่ายประเทศกัมพูชา ทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบในเวทีสากล หรือในความรู้สึกของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ และนายอันวาร์ เหตุผลก็น่าจะมาจากการที่ฝ่ายกัมพูชา คือนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรี ได้รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับผู้นำทั้ง2ท่านอย่างใกล้ชิด จนทำให้ผู้นำทั้ง2ท่าน เชื่อในข้อมูลและการโน้มเอียงเข้าข้างข้อมูลที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอ

ในส่วนของประเทศไทย จะเห็นได้ว่านายอนุทินได้แสดงท่าทีแข็งกร้าว เพื่อหวังคะแนนนิยมหรือกระแสชาตินิยมกับประชาชนคนไทย แต่ทำให้เสียเปรียบในความรู้สึกของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ และนายอันวาร์ ซึ่งถือว่าเป็นการเดินเกมทางการเมืองที่ผิดพลาดและเสียเปรียบ จากพฤติกรรมหรือการแสดงท่าทีของนายอนุทิน ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นการเดินเกมผิดพลาดทางการเมืองในเวทีสากล จนเป็นปัญหาทำให้กระทรวงการต่างประเทศต้องรับภาระไปแก้ต่าง หรือแก้ไขไม่ให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเวทีสากล

จึงอยากให้นายอนุทินได้ตระหนักว่า ท่าทีของประเทศไทย ท่าทีของนายอนุทินต้องมีในลักษณะอ่อนนอกแข็งใน ต้องจัดการปัญหาการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาให้เด็ดขาด ให้ชนะศึกสงคราม ในขณะเดียวกันต้องให้ชนะใจ หรือได้เปรียบในเวทีสากล ไม่ให้ประเทศไทยตกเป็นผู้ร้ายในสายตาของชาวโลก จึงควรตระหนักว่า ประเทศไทยต้องชนะทั้งศึกกัมพูชา และศึกทางการทูตในเวทีสากลด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทภ.2 เผยแนวรบยังตึงเครียด ‘ศึกตาควาย’ ยังไม่จบ

ทภ.2 เผยแนวรบยังตึงเครียด “ศึกตาควาย”ยังไม่จบ-ต้องรบต่อ “กัมพูชา”โจมตีด้วยปืนใหญ่, BM-21 โดรนพลีชีพ อย่างหนัก ไทยตอบโต้ด้วยอาวุธวิถีโค้ง และเครื่องบินทิ้งระเบิด

เทพไท เสนอแนะ 6 ข้อ จี้อนุทินหนุนทหารสู้รบตามยุทธวิธีอย่างเต็มที่

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง”  ระบุว่า 6 ข้อเสนอ ต่อ อนุทิน