
‘เทพไท’ ฟันธงการเมืองไทยยังไม่พ้นวงจรอุบาทว์ ซื้อตัว ส.ส. เหมือนตลาดนัดวัวควาย แจกกล้วยกันอึกทึกครึกโครม กกต.ล้มเหลวปราบซื้อเสียง
25 ก.พ. 2565 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทย ยังไม่พ้นวงจรอุบาทว์ ซื้อเสียง ซื้อตัว ส.ส. เหมือนตลาดนัดวัวควาย
ผมได้ติดตามรับฟังการอภิปรายของที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่มีผู้อภิปราย นำเสนอประเด็นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่น่าสนใจอย่างน้อย 3 ท่านคือ
1.นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายถึงความล้มเหลวของการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยการยกตัวอย่างการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีการซื้อเสียงกันแห่งละ 10 ถึง 20 ล้านบาท
2.นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ที่นำเสนอปัญหาการซื้อเสียงที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ควรจะแก้กฎหมายให้การซื้อเสียงไม่เป็นความผิด และยกเลิกการห้ามการจัดมหรสพในการหาเสียง
3.นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ส.ส.ระบบบัญชื่อรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ที่เสนอว่า ถ้า กกต. สามารถจับการซื้อเสียงได้ใน 3 เขตเลือกตั้งขึ้นไป ให้ยุบพรรคการเมืองนั้นเสีย
ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดเป็นที่น่าสนใจ เพราะล้วนแล้วแต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ให้โปร่งใสและยุติธรรมได้ รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับวงเงินที่ใช้การหาเสียงไม่เกินคนละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติได้จริง ถ้าให้เป็นไปตามสภาพความเป็นจริง ก็ควรจะยกเลิกกฎหมายข้อนี้ไปด้วย
เราต้องยอมรับความจริงว่า การเมืองไทยในยุคนี้เป็นการเมืองที่ย่ำอยู่กับที่ หรือถอยหลังเข้าคลองเสียด้วยซ้ำไป ข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปการเมืองล้มเหลวโดยสิ้นเชิง การเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ไม่เป็นความจริง การเข้ามาควบคุมอำนาจของ คสช. ที่อ้างว่าเพื่อปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน ก็ไม่สามารถทำได้จริง เป็นการสูญเปล่า ไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียประชาธิปไตยของประเทศ
ถ้าหากใครติดตามการเมืองในตอนนี้ จะมีข่าวการดึงตัว การดูด การซื้อขาย ส.ส. ไม่ต่างอะไรกับตลาดนัดวัวควาย มีข่าวการแจกกล้วยกันอย่างอึกทึกครึกโครม จนเป็นเรื่องธรรมดาของการเมืองในสภาชุดนี้ไปแล้ว ผมจึงไม่มั่นใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับนี้ จะแก้ปัญหาการเมืองน้ำเน่า ให้พ้นวงจรอุบาทว์ได้มากแค่ไหน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
'กรณ์' แนะ ปปง. ยึดทรัพย์สแกมเมอร์รายใหญ่ ต้องสาวให้ถึงคนไทย แฉพยายามโยกย้ายทรัพย์สิน
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอกสารหลักฐานชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา โดยสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเกี่ยวโยงกับวงการสแกมเมอร์ และอาจจะเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามในการฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกรรมเหล่านั้น
‘เทพไท’ เปิดสาเหตุ 'เพื่อไทย' ไม่กล้ายื่นซักฟอก ทั้งที่ตัวเองได้เปรียบ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิประบุว่า
สส.บริจาคภัยพิบัติเต็มที่ ท้องถิ่นระวังช่วง180วัน!
กกต.ไฟเขียวบริจาคช่วยภัยพิบัติ สส.-สมาชิกพรรค ทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท
กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด
กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก
กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ
กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้


