เกษตร เร่งสำรวจความเสียหายสวนผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัยในเขตภาคตะวันออก

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับรายงานความเสียหายจากเหตุวาตภัย ด้านพืช ในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคตะวันออก เมื่อช่วงวันที่ 28 -29 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เช่น จ.จันทบุรี มีสวนทุเรียนร่วง ต้นโค่นล้ม รวม 3 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่หมู่ 6 หมู่ 9 ม.6 ต.ปัถวี และ ม.3 ต.มะขาม อ.มะขาม ม.15 และ ม.17 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ และ ม. 14 ต. แก่งหางแมว และ ม.3 ต. สามพี่น้อง อ.แก่งหางแมว มีเกษตรกรผู้ประสบภัยรวมทั้งสิ้น 55 ราย พื้นที่ประสบภัยรวม 8 ไร่ 2 งาน (ต้นล้ม) ผลผลิตเสียหาย (ลูกร่วง) รวม 67,200 กิโลกรัม ส่วนที่จังหวัดตราด ในพื้นที่ ม.9 ต.ห้วยแร้ง อ.เมือง สวนผลไม้ของเกษตรกรผู้ประสบภัยรวม 3 ราย ได้รับความเสียหาย มีทุเรียนโค่นล้ม พื้นที่ประสบภัยรวมประมาณ 2 ไร่ ผลผลิตเสียหายรวม ประมาณ 7 ตัน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่เพื่อเร่งสำรวจความเสียหาย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเข้าให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในเบื้องต้น พร้อมทั้งแนะนำเกษตรให้นำผลผลิตทุเรียนที่ได้รับความเสียหายไปทำเป็นปุ๋ยหมักที่สามารถลดต้นทุนการผลิตเพิ่มความอุดสมสมบูรณ์ของดินส่งผลให้ลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ 

สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนได้รับความเสียหาย เกษตรกรสามารถยื่นแบบแจ้งความจำนงขอรับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช กับกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.หรือเทศบาล อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ผู้แทนเกษตรกรที่ประสบภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจำตำบลในพื้นที่ เพื่อลงตรวจสอบพื้นที่จริง ซึ่งหลังจากได้รับแจ้งเรื่อง คณะกรรมการอนุกรรมการตรวจสอบความเสียหายระดับหมู่บ้าน ประกอบไปด้วย กำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.หรือเทศบาล อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ผู้แทนเกษตรกรที่ประสบภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจำตำบลจะลงพื้นที่ตรวจสอบ หากพบว่ามีเกษตรกรที่ผ่านหลักเกณฑ์การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินพ.ศ. 2564 กำหนดให้การช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา (ไม้ผลไม้ยืนต้น) ในอัตราไร่ละ 4,048 บาท

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนฉบับใหม่เรื่องอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 1 – 3 เมษายน 2565) ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2565 ระบุว่าในช่วงวันที่ 1 – 2 เมษายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงมีฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอให้เกษตรกรและประชาชนบริเวณระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยเฉพาะสวนไม้ผลซึ่งเป็นพืชที่ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานหลายปี เกษตรกรจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งภัยแล้ง ลมพายุ และน้ำท่วมไว้ล่วงหน้า ซึ่งขณะนี้ผลไม้ภาคตะวันออกหลายชนิดใกล้จะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ส่วนภาคเหนือมีทั้งลำไยและลิ้นจี่ที่ใกล้ออกสู่ตลาด

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันบรรเทาความเสียหายหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งที่แน่นทึบหรือกิ่งที่ไม่ให้ผลผลิตออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ไม่ต้านลม สำหรับต้นไม้ผลที่อายุมากและมีลำต้นสูง อาจตัดทอนส่วนยอดให้ต่ำลง เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้โค่นล้มง่ายเมื่อถูกลมพายุพัดแรง ขณะเดียวกันควรใช้เชือกโยงกิ่งและต้น เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหัก รวมทั้งใช้ไม้ค้ำกิ่งและค้ำต้นเพื่อช่วยพยุงไม่ให้โค่นลงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เกษตรกรสามารถขอความช่วยเหลือและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ได้ ณ สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อ.เบตง' อ่วม! พายุฝนพัดถล่มโรงเรียน บ้านพักครูเสียหาย

วาตภัยและอุทกภัยทำครูและนักเรียน โรงเรียนบ้านธารมะลิ อ.เบตง จ.ยะลา เดือดร้อน ต้นไม้ล้มทับสนามเด็กเล่น อาคารเรียน โรงอาหาร และบ้านพักครูหลังคาปลิวว่อนได้รับความเสียหาย ครูต้องอาศัยห้องเรียนนักเรียนหลับนอน

“ฝายคลองใหญ่” เสริมชีวิต สร้างน้ำเปลี่ยนผืนดิน สู่สวนผสมผสานยั่งยืน

จากนาร้างไร้น้ำ สู่สวนผลไม้เขียวขจีตลอดปี ราษฎรบ้านยูงงาม และบ้านโหล๊ะคล้า ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พลิกฟื้นผืนนาแห้งแล้งกว่า 2,000 ไร่ ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง