"สุริยะ" ดันนโยบายชุมชน ก้าวสู่ยุคที่ 4 DIPROM Community สั่งการอธิบดีณัฐพล ลุยสร้างอาชีพ เสริมทักษะ เร่งเครื่องชุมชนดีพร้อม

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนผ่านกิจกรรม Kick Off พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม และได้สั่งการ ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเป้าการพัฒนาชุมชนเปลี่ยนผ่านจากยุคที่ 3 หมู่บ้าน CIV ก้าวไปสู่ยุคที่ 4 “ชุมชนดีพร้อม หรือ DIPROM Community อย่างเต็มรูปแบบทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย คาดกระตุ้นการเติบโต ทางเศรษฐกิจมากกว่า 7,000 ล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 เป็นวิกฤตการณ์ระดับโลกที่ก่อให้เกิดผลกระทบในทุกมิติ โดยเฉพาะมิติด้านเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก รัฐบาลภายใต้การนําของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้ให้ ความสําคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะในระดับชุมชน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

"ดีพร้อม"  (DIPROM) เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน เพื่อเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเน้นอุตสาหกรรมที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก ภาคเกษตรอุตสาหกรรม ภาคการผลิตสินค้า และภาคบริการของชุมชน ให้สามารถฟื้นตัวกลับมาสู่ปกติโดยเร็ว ผ่านนโยบายในการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนที่เน้นการปรับรูปแบบการดําเนินงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของการใช้ชีวิตวิถีใหม่ เพื่อมุ่งเป้าการพัฒนาชุมชนก้าวไปสู่ยุคที่ 4 ที่เป็นการต่อยอดจากยุคที่ 1 “หมู่บ้าน อุตสาหกรรม” ยุคที่ 2 “หมู่บ้านอุตสาหกรรมชนบทเพื่อการท่องเที่ยว หรือ หมู่บ้านเจบิค (JBIC)” และยุคที่ 3 “หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ หมู่บ้านซีไอวี (CIV)” สู่กลไกใหม่ในยุคที่ 4 “ชุมชนดีพร้อม หรือ DIPROM Community” ซึ่งเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งและสามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนา 7 มิติ คือ แผนชุมชน คนชุมชน แบรนด์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ชุมชน เครื่องจักรชุมชน ตลาดชุมชน และเงินหมุนเวียนในชุมชน คาดว่าจะสามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่า 7,000 ล้านบาท

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดีพร้อม (DIPROM) หรือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ และประชาชนในท้องถิ่น ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจจากวิกฤติโควิด-19 โดยให้เร่งหาวิธีการส่งเสริม ฝึกอาชีพ และพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพให้แก่ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตรายได้ให้ดียิ่งขึ้น จึงได้ดําเนินการ “พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม” มุ่งเน้นการเสริมทักษะ ในการประกอบธุรกิจ พึ่งพาตัวเองและมีอาชีพใหม่ สร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ กลับคืนสู่ชุมชน ซึ่งได้ดําเนิน กิจกรรมฝึกอาชีพนําร่องไปแล้ว 5 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิจิตร จังหวัดนครสวรรค์  จังหวัดชัยนาท  จังหวัดสงขลา และเร่งสานต่อความต้องการของประชาชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ดีพร้อม จึงได้ Kick Off งานพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม โดยมีพิธีเปิดงานพร้อมกัน 2 จังหวัดในวันนี้ คือ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดยะลา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สํานักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6865-66 ต่อ 4 ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dipromindustry หรือ www.diprom.go.th

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สะสางปัญหา กากแคดเมียม เดิมพันการเมืองครั้งสำคัญ พิมพ์ภัทรา-รมว.อุตสาหกรรม

ปัญหาการพบกากแร่อันตรายแคดเมียม ที่มีการขนย้ายมาจากจังหวัดตาก ซึ่งปัจจุบันมีการยึดอายัดได้ประมาณ 12,500 ตัน หลังพบที่สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพฯ

'พิมพ์ภัทรา' ดึงดีเอสไอ-ปปง. ร่วมสอบปมกากแคดเมียม ชี้หากมีแต่คนใน ก.อุตฯ สังคมจะคาใจ

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการลักลอบขนย้ายกากสารแคดเมียมที่ผิดกฎหมาย ว่า คำสั่งการการประชุมครม. ที่ผ่านมา เป็นการทำงานร่วมกันของทั้ง 6 กระทรวง

กมธ.อุตสาหรรม ไล่บี้เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ รับผลประโยชน์ขนย้ายกากแคดเมียม

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 17 เมษายน เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา กมธ.อุตสาหกรรม

พิมพ์ภัทรา คุมเข้มมาตรการขนย้ายกากแคดเมียม ต้นทางถึงปลายทาง

รมว.อุตสาหกรรม” เข้ม มาตรการขนย้ายกากแคดเมียม และความแข็งแรงของบ่อฝังกลบ เร่งสร้างความมั่นใจและทำความเข้าใจชุมชนรอบโรงงาน จ.ตาก และเตรียมความพร้อมขนส่งให้ปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมรายงานการปรับปรุงทั้งระบบภายในวันที่ 16 เมษายน