สยามดนตรียามาฮ่า เส้นทางพัฒนาธุรกิจแบบยั่งยืน ยุค Next Normal

การพัฒนาธุรกิจและองค์กรท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง กุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจแบบยั่งยืน ของ  บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด บริษัทร่วมทุนกลุ่มสยามกลการ คือ แนวคิดทางนวัตกรรมดิจิทัล โดยการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัล (Digital Transformation) มาประยุกต์ใช้และนำมาเป็นแนวคิดพื้นฐานในการพัฒนาด้านกระบวนการขายสินค้าและการบริการด้วยความเข้าใจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ในการดูแลและตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุค Next Normal เช่นนี้

ดร.พีรวัฒน์ ชูเกียรติ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด  กล่าวว่า ความเข้าใจในเส้นทางของผู้บริโภค (Customer Journey) เป็นรากฐานสำคัญในการทำความเข้าใจในบริบทและพฤติกรรมของลูกค้า ตลอดจนการสร้างประสบการณ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ตั้งแต่การพัฒนารูปแบบการให้ข้อมูลสินค้า เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า  ตลอดจนการรับบริการหลังการขาย

การขายผ่านช่องทางออนไลน์  E-Marketplace และสื่อสารโซเชียล (Social Media) นับเป็นอีกด้านที่สำคัญในการพัฒนาด้านการขาย เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิต (Life Style) ของผู้คน โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดช่องทางการขายที่หลากหลายและเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม

รวมถึงการพัฒนาวิธีการสื่อสารและมอบประสบการณ์ในทุกมุมมองด้านเสียงดนตรีกับผู้บริโภค จึงทำให้ปัจจุบันได้มีการพัฒนาด้าน Audio Solution Provider กล่าวคือ เมื่อมีปัญหาระบบเสียงให้นึกถึงสยามดนตรียามาฮ่า ที่พร้อมให้คำปรึกษาในด้านระบบเสียงอย่างครบวงจร รวมถึงการมอบประสบการณ์จริงในการสัมผัสกับเสียงดนตรี ตั้งแต่การพัฒนาโชว์รูมเครื่องดนตรี Yamaha Flagship Store โชว์รูมเครื่องเสียงและที่ปรึกษาระบบเสียง Audioversity & YDACC พร้อมทั้งมุมเครื่องเสียงเอาใจ Gamer  ห้องแสดงดนตรี Yamaha Music Hall ห้องบันทึกเสียง Recording Studio และห้องเรียนดนตรีในทศวรรษใหม่ Sound Lab

ทั้งนี้ จากปณิธานของ ดร.ถาวร พรประภา ผู้ก่อตั้งบริษัทสยามกลการ ที่กล่าวว่า “เพราะอยากเห็นเมืองไทยเป็นเวียนนาตะวันออก” สิ่งนี้ได้สะท้อนถึงความตั้งใจที่อยากเห็นประเทศไทยเป็นเมืองแห่งความสุขด้วยเสียงดนตรี ซึ่งพวกเราได้สลักปณิธานนี้ โดยการเพียรพยายามส่งเสริมด้านการศึกษาให้ประเทศไทยมีการเรียนดนตรีต่อเนื่องและเข้าถึงคนทุกกลุ่ม เห็นได้จากสถาบันดนตรียามาฮ่าในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย ที่มุ่งเน้นให้แต่ละชุมชนท้องถิ่นสามารถเข้าถึงการเรียนดนตรี และสามารถส่งต่อความสุขด้วยพลังแห่งเสียงดนตรีอยู่ตลอดเวลา

กล่าวได้ว่า สิ่งสำคัญพื้นฐานในการบริหารองค์กรเพื่อการพัฒนาสู่ความยั่งยืน คือ การเปิดรับ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ในทุกมุมมองอย่างรอบด้านจากคนทุก Generation ตั้งแต่องค์ความรู้ ประสบการณ์ การประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดร.พีรวัฒน์ กล่าว